ผู้คนใช้อะไรกันในสมัยที่ยังไม่มีกระดาษชำระ
ประเทศจีนมีการผลิตกระดาษชำระเป็นจำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 14 แต่เจ้ากระดาษชำระนี้กลับเพิ่งจะมีปรากฏในโลกตะวันตกในช่วงกลางยุคปี 1800 นี่เอง อย่างไรก็ตาม กว่าที่ผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นการปฏิวัติยุคสมัยนี้จะกลายเป็นที่นิยมก็ต้องใช้เวลาและความพยายามไปมากพอดู เพราะสมัยนั้นผู้คนยังยึดถือวิธีการดั้งเดิม และมีการหันไปใช้สิ่งของที่คาดไม่ถึงทุกประเภทเพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีหลังจากทำธุระในห้องน้ำ
ชีวิตสดใสขอนำเสนอรายการของใช้ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ว่าเคยถูกนำมาใช้ (บางอย่างก็ยังใช้อยู่) แทนการใช้กระดาษชำระอย่างในปัจจุบัน
12. ซังข้าวโพด
ชนพื้นเมืองชาวอเมริกันและผู้ที่อาศัยอยู่ในอาณานิคมทั้งหลายในช่วงยุคปี 1700 เคยใช้ซังข้าวโพดแห้งไร้เมล็ดเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขอนามัย เหตุผลก็คือในตอนนั้นข้าวโพดเป็นพืชที่ปลูกได้อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก และมีคุณสมบัติที่นุ่มอีกทั้งยังดูดซับได้ดี ถึงแม้มันจะไม่ได้ทันสมัยเท่ากับกระดาษทิชชู่นุ่ม ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ก็นับว่าเป็นสิ่งของที่ใช้ได้ปลอดภัยและนุ่มสบายกว่าการใช้อย่างอื่นนัก
11. หิมะ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่หนาวเย็นขึ้นมาหน่อย (เช่นชาวอินูอิต) เคยใช้หิมะเป็นวัสดุในการทำความสะอาดหลังการขับถ่ายของเสีย ส่วนข้อเสียของวิธีการนี้ก็ชัดเจนอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว (มันหนาวน่ะสิ) อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะปรับตัวให้คุ้นชินกับมันได้เองถ้ามีการใช้หิมะทำความสะอาดทุกวัน วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่สะอาดที่สุดเลยนะ แม้จะดูสุดโต่งไปหน่อยก็เถอะ
10. ก้อนหิน
การใช้ก้อนหินเช็ดเป็นหนึ่งในเทคนิคการเข้าห้องน้ำที่เก่าแก่ที่สุด ในสมัยโบราณ ผู้คนมักจะเลือกใช้ของที่หาได้ง่ายและมีให้หยิบใช้อยู่รอบกายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งนั่นรวมถึงก้อนหินและวัสดุจากธรรมชาติอื่น ๆ แน่นอนล่ะว่านี่ไม่ค่อยจะเป็นวิธีที่จะทำให้สบายตัวนักถ้ามองจากมุมมองของคนสมัยใหม่ แต่บางทีอาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับหลายศตวรรษก่อนหน้านี้ เมื่อไม่มีอย่างอื่นที่ดูพอจะใช้แทนได้สักเท่าไรนัก
9. ท่อนไม้
เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน ผู้คนที่อาณาจักรจีนโบราณเคยใช้ท่อนไม้พิเศษในการทำความสะอาด โดยเป็นท่อนไม้ที่ตัดมาจากต้นไผ่และไม้อื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายไม้พาย โดยไม้เหล่านี้แต่เดิมเรียกว่า ซาลากะ (salaka) คาชู (cachou) หรือ ชุงิ (chugi) โดยที่ปลายเครื่องมือเหล่านี้จะมีผ้าพันห่อหุ้มไว้ ซึ่งคาดว่าเพื่อทำให้ใช้กับจุดซ่อนเร้นได้สบายมากยิ่งขึ้น
8. เศษเครื่องปั้นดินเผา
ผู้คนในสมัยกรีกโบราณจะใช้สิ่งที่เรียกว่า “เปสซอย (pessoi)” หรือก็คือเศษเครื่องดินเผาเซรามิกชิ้นเล็ก ๆ เปสซอยนี้จะสามารถพบเห็นได้ตามห้องน้ำทั่วดินแดนเมดิเตอร์เรเนียนเลยทีเดียว โดยจะเป็นเศษเล็ก ๆ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 3 — 11 เซนติเมตร และมีการตั้งใจตัดขึ้นใหม่จากเศษเซรามิกที่แตกหักเพื่อเจียนขอบมุมให้เรียบเนียนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมีกระทั่งคำพังเพยของกรีกที่กล่าวถึงการใช้เศษเซรามิกในการเข้าห้องน้ำไว้ว่า “หินสามชิ้นก็เพียงพอที่จะเช็ดก้นได้”
7. ฟองน้ำที่ปลายไม้
ผู้คนในสมัยอาณาจักรโรมันโบราณมีสิ่งที่ใช้แทนกระดาษทิชชู่ในสมัยใหม่อยู่เหมือนกันนะ เป็นสิ่งที่เรียกว่าเทอร์ซอเรียม (tersoruim) หรือก็คือแท่งไม้ที่มีฟองน้ำติดอยู่บนปลายด้าม โดยเคยมีการกล่าวถึงเจ้าเทอร์ซอเรียมนี้ไว้ในงานเขียนของเซเนกา (Seneca) ด้วย แต่วิธีใช้จริง ๆ ของเจ้าไม้แท่งนี้นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่จนทุกวันนี้ เป็นไปได้มากว่าเจ้าแท่งไม้นี้จะใช้เป็นของส่วนรวม และมีการทำความสะอาดหลังใช้โดยใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือ และนำกลับมาใช้อีกได้เรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะใช้เจ้าสิ่งนี้เป็นแปรงขัดห้องน้ำมากกว่าเอาไปใช้แทนกระดาษทิชชู่นะ
6. เปลือกหอย
ฟังดูไม่อยากจะเชื่อเลยเนอะ แต่คนที่อาศัยอยู่ตามเกาะและแถบชายฝั่งเคยใช้เปลือกหอยแมลงภู่ล้างทำความสะอาดหลังขับถ่ายจริง ๆ หรือถ้าไม่สามารถหาเปลือกหอยได้ ชาวเกาะก็ยังเคยใช้กาบมะพร้าวอีกด้วย มันอาจจะฟังดูไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ถ้าพิจารณาจากความแข็งกระด้างและขอบที่แหลมคมของมันแล้ว แต่บรรบุรุษของเราก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนักหรอกนะในสมัยนั้น
5. หนังสือพิมพ์และนิตยสาร
ยุคใหม่ของ “กิจวัตรในห้องน้ำ” ที่เราทำกันเริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 พร้อม ๆ กับที่มีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และนิตยสารพอดี ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีมาก่อนกระดาษทิชชู่และใกล้เคียงกับการใช้กระดาษทิชชู่ที่สุด ในสหรัฐอเมริกา หนังสือเล่มโปรดเพื่อการนี้ของผู้คนคือวารสารปูมเกษตรกร (Farmer’s Almanac) และเซียร์แคตาล็อก (Sears catalog) ที่ครองใจผู้คนเสมอมา วารสารปูมเกษตรกรถูกนำไปใช้กันทั่วถึงขนาดที่ว่าสำนักพิมพ์เริ่มมีการเจาะรูไว้บนนิตยาสารเพื่อให้เอาไปแขวนไว้ง่ายขึ้นเลยแหละ
4. ผ้าขี้ริ้ว
ในอเมริกาและยุโรปตอนต้น ผู้คนเคยใช้ผ้าขี้ริ้วเก่า ๆ ไว้สำหรับเช็ดก้นหลังจากทำธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย โดยสามารถนำผ้าขี้ริ้วเหล่านั้นมาซักและนำกลับมาใช้ได้อีกเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายแล้วผ้าเหล่านี้ก็จะไปกองรวมกันอยู่ในท่อระบายน้ำอยู่ดี ความอ่อนนุ่มของวัสดุชนิดนี้เป็นหนึ่งในข้อดีของวิธีนี้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นที่กังขาว่าการนำผ้าขี้ริ้วกลับมาใช้เรื่อย ๆ นั้นจะไม่มีปัญหาด้านสุขอนามัยจริง ๆ น่ะหรือ
3. หญ้า
ก็มีเหตุผลนะที่ผู้คนจะใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อสุขอนามัยที่ดีมานานหลายศตวรรษ และจะมีอะไรใช้กับในกรณีนี้ได้ดีไปกว่าพืชกัน ? ด้วยความที่เป็นสิ่งที่หาที่ไหนก็ได้ แถมยังนุ่มและใช้ได้อย่างปลอดภัย ยังไม่นับรวมว่าโยนทิ้งทำลายได้ง่ายดายอีก นี่เป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดเพื่อดูแลสุขอนามัยหลังการทำธุระของคุณ
2. น้ำเปล่า
ในประเทศแถบอินเดีย แอฟริกา และอาหรับ ผู้คนสมัยก่อนมักจะใช้มือซ้ายชุบน้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อเช็ดทำความสะอาดด้านหลัง และล้างมือหลังจากทำธุระเสร็จสิ้นอีกครั้ง ซึ่งวิธีนี้ยังมีการใช้อยู่บ้างในบางพื้นที่ในโลก นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเทคนิคนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ผู้คนนิยมจับมือกันโดยใช้มือขวาแทนอะนะ
1. ทรายหรือดิน
สภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันก็จะเป็นตัวกำหนดวิธีการดูแลสุขอนามัยที่หลากหลายตามไปด้วย ในพื้นที่แห้งแล้งที่ไม่อาจหาสิ่งอื่นใดได้อีก ผู้คนก็จะใช้ทรายกำมือหนึ่งหรือดินก็ได้ ในการทำความสะอาดด้านหลังของตนเอง นี่น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีที่ไม่สบายตัวที่สุดและถูกสุขอนามัยน้อยที่สุดแล้วสำหรับคนในยุคเดียวกัน อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษของเราก็จำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเท่าที่พวกเขาสามารถหาได้นั่นแหละ
วิธีไหนที่ฟังดูพิลึกที่สุดสำหรับคุณ ? แล้วมีวิธีไหนบ้างไหมที่คุณจะเลือกใช้โดยไม่มีข้อยกเว้น ?