ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแองเจลีน่า โจลี่มีหัวใจเป็นแม่พระ

เธอเข้าใจความทุกข์ของผู้อื่นและพยายามเปลี่ยนแปลงมันให้ดีขึ้น ซึ่งนับเป็นเวลาประมาณ 20 ปีแล้วที่แองเจลีน่า โจลี่ (Angelina Jolie) ได้ทำทุกอย่างด้วยพลังของเธอเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ต่อสู้กับความยากจน และอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากจะทำแล้วทั้งหมดนี้ เธอก็ไม่เคยลืมการเป็นคุณแม่ผู้มอบความรักและให้กำลังใจ

ทุกอย่างเริ่มต้นที่ลาร่า ครอฟต์

ในปี 2000 แองเจลีน่า โจลี่ได้เดินทางไปกัมพูชาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ลาร่า ครอฟท์ ทูมเรเดอร์ (Lara Croft: Tomb Raider) ซึ่งในขณะนั้นประเทศกัมพูชาอยู่ในภาวะวิกฤตด้านมนุษยธรรม แล้วสิ่งนั้นก็ได้ทิ้งจุดหมายที่ยิ่งใหญ่ให้กับนักแสดงสาว โดยเธอได้เริ่มดำเนินการค้นคว้าเกี่ยวกับสถานที่ที่มีปัญหาทั่วโลกและเหล่าผู้ลี้ภัย จากนั้นเธอได้เดินทางไปเยือนกว่า 30 ประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ยากไร้และบริจาคเงิน อีกทั้งแองเจลีน่ายังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นทูตสันถวไมตรีของยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ

เธอรักธรรมชาติมากพอ ๆ กับที่เธอรักมนุษยชาติ

เธอได้รับเลี้ยงลูกคนแรกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในกัมพูชา แต่เธอยังต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของเขากับบ้านเกิดเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงซื้อบ้านในประเทศนี้ ซึ่งกลายเป็นว่าทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติซัมลอต (Samlout National Park) ที่ถูกบุกรุกจากนักล่าที่กลายมาเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นแองเจลีน่าจึงตัดสินใจซื้อที่ดินจำนวน 375,105 ไร่ของอุทยานแห่งนี้ และได้สร้างเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าที่สวยงามที่มีชื่อว่าเดอะ แมดดอกซ์ โจลี่ โปรเจกต์ (The Maddox Jolie Project) ซึ่งปัจจุบันเรียกกันว่ามูลนิธิแมดดอกซ์ โจลี่-พิตต์ (Maddox Jolie-Pitt Foundation)

รัฐบาลกัมพูชาไม่ยอมให้การกระทำของเธอนั้นถูกละเลยไปได้ จึงได้มอบสัญชาติกัมพูชาให้กับเธอ

เธอมาเพื่อช่วยผู้ลี้ภัย

นับตั้งแต่แองเจลีน่าเข้าร่วมยูเอ็นเอชซีอาร์ ในปี 2001 เธอได้ทำงานอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในคนกลุ่มนี้ก็คือผู้ลี้ภัย โดยตัวเธอเองได้ไปเยือนค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศต่าง ๆ ช่วยปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนการพัฒนาให้กับพวกเขา นอกจากนี้เธอยังช่วยสร้างโรงเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพให้กับทั้งผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น

ตัวอย่างเช่น ในปี 2010 แองเจลีน่าได้บริจาคเงินจำนวน 2,865,000 บาท และเปิดโรงเรียนประถมให้กับเด็กผู้หญิงในเมืองแทนกิ ประเทศอัฟกานิสถาน โดยเธอกังวลว่าเด็กผู้หญิงจะไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสิ่งนี้ แล้วนี่ก็ไม่ใช่โรงเรียนเพียงแห่งเดียวที่เธอเปิดในประเทศนี้

เธอไม่ได้สนับสนุนเพียงแค่ที่เดียว แต่ยังมีมูลนิธิต่าง ๆ อีกมากมาย

โจลี่ต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อโอกาสในการทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นในแง่มุมต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ลี้ภัยที่ได้รับความสนใจจากเธอเท่านั้น แต่เธอยังมุ่งเน้นไปที่ระดมเงินและสร้างความตระหนักรู้ เพื่อช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งและมุ่งมั่นที่จะขจัดความยากจนที่รุนแรง อีกทั้งแองเจลีน่ายังได้ร่วมมือกับคนดังคนอื่น ๆ ในการช่วยเหลือกลุ่มเด็กที่เปราะบางและเด็กกำพร้า โดยได้มอบสิ่งที่จำเป็นให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านสุขภาพ การศึกษา และการดูแลทางจิตสังคม

โจลี่ได้มีส่วนร่วมในมูลนิธิและองค์กรต่าง ๆ ประมาณ 29 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบสันติภาพ การศึกษา และการสนับสนุนด้านสุขภาพ

เธอต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีอยู่เสมอ

เธอไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นเท่านั้น แต่เธอยังต้องการดูแลผู้หญิงทุกข์ทรมานจากความรุนแรงทางเพศในเขตสงครามด้วย โดยเธอพบว่าสิ่งสำคัญก็คือต้องกำจัดสิ่งนี้ไป เนื่องจากการล่วงละเมิดเหล่านี้ได้ทำลายชีวิตผู้หญิง ครอบครัว และชุมชนของพวกเธอ แล้วในความพยายามที่จะปกป้องผู้หญิง เธอก็ได้ริเริ่มเปิดตัวโครงการป้องกันความรุนแรงทางเพศ โดยมุ่งเป้าไปที่การสำรวจความรุนแรงทางเพศและลงมือต่อต้านในเรื่องนี้

เธอเตือนผู้หญิงให้ดูแลสุขภาพของตนเอง

นักแสดงสาวได้สูญเสียแม่และป้าของเธอจากโรคมะเร็งเต้านม แล้วที่น่าเศร้าก็คือแองเจลีน่าก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคนี้เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจผ่าตัดตัดเต้านมทั้งสองข้างออกเพื่อป้องกัน เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้ลูก ๆ ของเธอต้องพบกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียแม่ที่มาจากความเจ็บป่วยอย่างเธอเคยเป็น หลังจากนั้นโจลี่ก็ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย พูดถึงเรื่องการผ่าตัดและประสบการณ์ของเธอ แถมยังพยายามสนับสนุนให้ผู้หญิงเข้ารับการตรวจให้ทันท่วงที

เธอไม่ลังเลที่จะบริจาคเงินเพื่อการกุศล ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการเงินมากแค่ไหนก็ตาม

ในปี 2008 แองเจลีน่ากำลังจะมีลูกแฝดและทุกคนก็ตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก ๆ หนูน้อยน็อกซ์ ลีออน (Knox Leon) กับ
วิเวียน มาร์เชลีน โจลี่-พิตต์ (Vivienne Marcheline Jolie-Pitt) เกิดในเดือนสิงหาคมปีนั้น ทำให้นิตยสารต่าง ๆ พยายามที่จะถ่ายภาพลูก ๆ ของเธอเป็นพิเศษ แล้วทางนิตยสารพีเพิ่ล (People) กับนิตยสารเฮลโล่ ! (Hello!) ก็ได้ตัดสินใจจับมือกันซื้อภาพถ่ายในราคา 534 ล้านบาท ! ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกบริจาคโดยตรงให้กับมูลนิธิโจลี่-พิตต์

เธอทำหลายอย่างเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ

ในปี 2011 พายุทอร์นาโดได้พัดถล่มบ้านเรือนกว่า 8,000 หลังและห้างร้านถึง 400 แห่งในรัฐมิสซูรี แองเจลีน่ากับอดีตสามีแบรด พิตต์ (Brad Pitt) ได้บริจาคเงิน 19,110,000 บาทจากมูลนิธิแมดดอกซ์ โจลี่-พิตต์เพื่อช่วยสร้างเมืองขึ้นใหม่ อีกทั้งก่อนหน้านั้นในปี 2010 เฮติได้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งคู่ก็ได้บริจาคเงินจำนวน 38 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เธอยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูก ๆ ของเธอ

ซาฮาร่า โจลี่-พิตต์ (Zahara Jolie-Pitt) ลูกสาวของเธอได้ออกแบบคอลเลกชั่นเครื่องประดับของตัวเองร่วมกับโรเบิร์ต โปรคอป (Robert Procop) นักอัญมณีชื่อดังที่มีชื่อว่าเดอะ ซาฮาร่า คอลเลกชั่น (The Zahara Collection) แล้วซาฮาร่าก็ทำเหมือนกับแม่ของเธอ คือโอนเงินทั้งหมดที่ได้มาจากการระดมเงินไปยังศูนย์พักพิงเฮาส์ ออฟ รูธ (House of Ruth Shelters) ในลอสแองเจลิส ซึ่งองค์กรไม่แสวงหากำไรแห่งนี้ช่วยจัดหาที่พักชั่วคราวให้กับผู้หญิงและเด็กที่ถูกทารุณกรรม

เธอได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาเช่นกัน

เธอทำทุกอย่างเพื่อเป็นแม่ที่ดีที่สุดสำหรับลูก ๆ ที่เธอรัก แล้วเนื่องจากแมดดอกซ์ ลูกชายของเธอรู้สึกทึ่งกับเครื่องบิน เธอจึงได้เรียนวิธีขับเครื่องบินจริง ๆ ! แล้วเธอก็อยากเป็นเหมือนกับซูเปอร์แมนสำหรับเขาในบทบาทนี้

คุณชื่นชมอะไรเกี่ยวกับแองเจลีน่า โจลี่มากที่สุด ? แล้วคุณเคยมีส่วนร่วมในมูลนิธิการกุศลใด ๆ บ้างมั้ย ? มาพูดคุยในคอมเมนต์กันเถอะ !

เครดิตภาพพรีวิว MAVRIXONLINE.COM - FILE PHOTO/EAST NEWS, Aflo Images/East News
ชีวิตสดใส/คน/10 สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแองเจลีน่า โจลี่มีหัวใจเป็นแม่พระ
แชร์บทความนี้