ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

หญิงสาวกว่า 20 คนพูดถึงสาเหตุที่พวกเธอหยุดเข้าร้านเสริมสวย

การดูแลตัวเองเป็นส่วนสำคัญของชีวิตสาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อขนตา การทำเล็บ การกำจัดขน การตกแต่งคิ้วและการย้อมสีผมล้วนเป็นสิ่งที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่ทำได้ซ้ำ ๆ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกมาจากวงจรที่โหดร้ายนี้ ถึงอย่างนั้นปัจจุบันมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นต่อวิธีการแบบออแกนิคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงหลายคนเลิกเข้าร้านเสริมสวยและกลับไปสู่ความงามตามธรรมชาติของพวกเธอ

ชีวิตสดใสได้เสาะหาผู้หญิงที่ไม่อยากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกเธออีกต่อไปและพบว่าพวกเธอได้ตัดการเข้าร้านเสริมสวยออกจากตารางของสิ่งที่ต้องทำในแต่ละอาทิตย์ ในส่วนของของแถม เราจะโชว์รูปให้คุณดู 2 รูปซึ่งเป็นหลักฐานว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาช่างทำเล็บดี ๆ ได้หลังจากย้ายไปอยู่ประเทศอื่นและเรื่องราวของหญิงสาวที่ไม่เคยเข้าร้านเสริมสวยเลยตลอดทั้งชีวิตของเธอ

การแต่งหน้า

  • “ญาติของฉันจ่ายเงิน 5,000 บาท (120 ยูโร) ให้กับช่างแต่งหน้าคนนี้เพื่อแต่งหน้าให้ฉันและได้มอบเคล็ดลับของเธอให้ระหว่างการแต่งหน้าด้วย นี่คือลุคตอนที่ฉันเดินเข้าไปและลุคตอนที่ฉันเดินออกมา ใครก็ได้ช่วยฉันที” merionization / Reddit
  • “ลุคแต่งงานที่น่าเศร้าที่ฉันจ่ายไป 1,700 บาท (50 ดอลลาร์)” wytte / Reddit

การต่อขนตา

  • ยูเลียนน่า: ฉันจะไม่ต่อขนตาอีกต่อไปแล้วเพราะฉันแพ้ ถึงแม้ว่าฉันจะใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่แพ้ง่าย ฉันก็ยังคันและตาแดงอยู่ดี ฉันพยายามลองวิธีการนี้หลายครั้งแล้ว แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม ฉันต้องเลิกทำแล้วล่ะ และตอนนี้ฉันก็จะไว้ขนตาตามธรรมชาติของตัวเองเท่านั้น ขั้นตอนต่อไปที่ฉันอยากจะทำคือการหยุดไปร้านทำผิวแทน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบสีผิวธรรมชาติของตัวเองก็ตาม แต่ฉันก็เข้าใจถึงความอันตรายของวิธีการนี้
  • แอนนา: ฉันไม่คิดที่จะต่อขนตาหรือทำให้ขนตางอน เพราะขนตาปลอมมักจะร่วงลงมาพร้อมกับขนตาจริงของฉัน และหลังจากที่มันหลุดออก ขนตาของฉันก็จะไม่เท่ากัน โดยมันจะมีขนตาเป็นหย่อม ๆ สลับไปมา ฉันเคยทำมาแล้ว 2 ครั้งและนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน อีกหนึ่งข้อเสียของการต่อขนตาก็คือมันทำให้คุณดูแก่กว่าเดิม การทำขนตางอนอาจจะดูเจ๋งในตอนแรก แต่หลังจากนั้นสักพักขนตาก็จะงอนมากเกินไปและเริ่มหักได้

การทำผม

  • โพลิน่า: ตอนแรกฉันผมตรงแล้วฉันก็ไปดัดและทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือนเป็นเวลา 5 ปี ท้ายที่สุด ฉันก็รู้สึกเบื่อกับผมหยิกและการยืดผม ฉันไม่ได้ทำอะไรอื่น ๆ กับผมเลยและเมื่อถึงจุดหนึ่ง ฉันสังเกตว่ามันสั้นลงกว่าเดิมเยอะมาก ผมร่วงออกมาเฉย ๆ ในขณะที่หวีผมและแน่นอนว่าผมของฉันก็ไม่หนาอีกต่อไปแล้ว ในรูปทางด้านบน คุณจะเห็นได้ว่าสุดท้ายแล้วผมของฉันก็น้อยลงเรื่อย ๆ หลังจากผ่านการทำเคมีในทุกครั้ง
  • มาร์โก: การเคลือบผมเป็นอะไรที่เปลืองเงินมาก ก่อนหน้านี้มันเคยเป็นที่นิยมและฉันก็ได้ลองแล้วและพบว่ามันไร้สาระ
  • นอราห์: หลังคลอดลูกฉันก็เลิกย้อมผมและปล่อยให้ผมขึ้นมาเองตามธรรมชาติ แล้วลอนผมของฉันก็ดูดีขึ้นมาก และตอนนี้ฉันจะย้อมผมก็ต่อเมื่อมีผมหงอกแล้วเท่านั้น
  • แอนนา: ฉันย้อมผมสีบลอนด์อยู่เรื่อย ๆ มาเป็นเวลานาน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันไปร้านเสริมสวยเพื่อกำจัดสีที่ออกเหลืองของผมออก และมันทำให้ฉันต้องนั่งร้องไห้บนเก้าอี้ในร้านทำผม ช่างทำผมบอกว่า “อุ๊ย มีอะไรบางอย่างผิดปกติ เราได้สีผมที่เข้มกว่าเดิมนิดหน่อย” ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทำผมของฉันไหม้ในระหว่างการทำผมและมันก็ร่วงออกมา และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้แจ้งให้ฉันรู้ ฉันพยายามเลี้ยงผมให้กลับมานานถึง 2 ปี และตั้งแต่ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากไปร้านเสริมสวยอีกเลย
  • สิ่งที่พี่สาวของฉันอยากได้ กับ สิ่งที่ร้านทำผมทำออกมา vs สิ่งที่แม่ของฉันทำหลังจากที่ร้านทำผมได้ทำเละเอาไว้ © Unknown user / Reddit
  • เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ครั้งหน้าให้พุ่งตัวไปหาแม่เลย © raiden18 / Reddit
  • ฉันเปิดรูปให้ช่างทำผมดูและบอกว่าฉันอยากได้ลายนี้ คุณทำเป็นไหมและเธอก็บอกว่าเธอทำเป็น แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้ขอเงินคืนเพราะฉันรู้สึกอายและอึดอัด แต่การบอกว่าคุณทำบางอย่างไม่ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้หัวของใครก็ตามออกมาดูไม่ดีไม่ใช่เรื่องแย่เลย © prettys*****kitty101 / Reddit
  • รูปนี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ฉันจ่ายเงินไป 6,600 บาท (200 ดอลลาร์) และทางร้านก็ไม่คืนเงินให้ฉันด้วย พวกเขาบอกว่าพวกเขาทำเต็มที่แล้ว และตั้งแต่สิ่งนี้เกิดขึ้น ฉันก็ไม่อยากไปร้านทำผมอีกเลย! ตอนนี้ฉันทำผมเองแล้ว! © ElfenLied518 / Reddit

การทำเล็บมือ

  • แอนนา: ฉันเคยเจอปัญหาที่ร้านเสริมสวยจนทำให้ฉันไม่อยากกลับไปที่นั่นอีกเลย ช่างทำเล็บใช้ฟอยล์ห่อนิ้วของฉันเอาไว้และบอกให้ฉันนั่งรอเป็นเวลา 25 นาที ฉันบอกว่าการเอาเลเยอร์ด้านบนออกและใช้แผ่นสำลีกับฟอยล์จะง่ายกว่า ฉันได้ยินคำตอบที่ว่า “นี่คุณกำลังสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำอยู่หรอ” หลังจากคำตอบนี้ ฉันก็นั่งเงียบและหน้าตึง พอเธอเริ่มที่จะเอาเจลออก เธอก็เริ่มตะไบเล็บด้วยท่าทางที่รุนแรงมากและมันชัดเจนมากว่าเธอตะไบเอาผิวหน้าเล็บจริงของฉันออกไปด้วย ฉันยังคงนั่งเงียบซึ่งมันเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่สำหรับฉัน พอช่างทำเล็บมองหน้าฉัน เธอก็พูดว่า “ทำไมคุณถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ คุณไม่ชอบอะไรหรือเปล่า” ฉันรู้สึกตกใจสุด ๆ ฉันตอบว่าบางทีหน้าของฉันอาจจะแสดงอารมณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นออกมาและฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่เธอจะพูดแบบนั้นออกมา แล้วเธอก็ถามฉันว่า “คุณจะทาเคลือบเล็บไหม” ฉันตอบว่าฉันไม่อยากให้เธอทำอะไรกับเล็บของฉันอีกแล้ว ฉันเดินไปที่แผนกต้อนรับและอธิบายอย่างใจเย็นถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พนักงานต้อนรับเดินไปหาช่างทำเล็บแล้วก็กลับมาและพูดว่า “คุณทำหน้าบึ้งทำไม มันเป็นความผิดของคุณ!” รุกฆาต!
  • คริสติน: หนึ่งในเหตุผลที่ฉันกลัวที่จะไปทำเล็บที่ร้านเป็นเพราะการฆ่าเชื้อที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แน่นอนว่าอุปกรณ์ถูกฆ่าเชื้อหลังจากใช้แล้วทุกครั้ง แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจว่ามีการทำตามกฎทุกอย่างเลยไหม เพราะแบบนี้ ฉันจึงเริ่มถามพนักงานว่าพวกเขามีระบบหมุนเวียนอากาศในร้านหรือไม่ก็มีการถ่ายเทอากาศออกเป็นประจำหรือเปล่า และช่างทำเล็บกับลูกค้าจะอยู่ในร้านในเวลาเดียวกันได้ครั้งละกี่คน คำตอบที่ได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ฉันก็ยังทำเล็บให้สวยเหมือนกับที่ร้านทำให้ไม่ได้อยู่ดี
  • เออรีน่า: หลายปีก่อน ฉันจะใช้น้ำมันชะแล็กทาเล็บโดยที่ไม่มีการหยุดพักเลยและฉันมักจะจัดตารางของฉันเพื่อที่จะไปทำเล็บ ตอนที่ลูกชายของฉันยังเล็ก ฉันก็จะพาเขาไปร้านเสริมสวยกับฉันด้วย ปีนี้ฉันได้หยุดวงจรที่โหดร้ายนี้แล้วและกลับมาไว้เล็บตามธรรมชาติของตัวเอง ฉันจะไม่เคลือบเล็บอีกต่อไปแล้ว ช่างมีอิสระอะไรขนาดนี้! ฉันจะไปร้านเสริมสวยก็แค่ไปทำอะไรง่าย ๆ (โดยที่ไม่เคลือบเล็บ) หรือไม่ฉันก็ทำเล็บเอง

“เล็บของน้องสาวในวันแต่งงาน สิ่งที่เธออยากได้และสิ่งที่เธอได้”

  • แครีน: มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันปฏิเสธที่จะไปร้านทำเล็บและไม่ได้ไปที่นั่นเป็นเวลาเกือบหนึ่งปี ทั้งหมดมาจากการที่ดีไซน์ที่อินเทรนด์จริง ๆ แล้วดูแย่มาก ฉันต้องใช้เวลามากมายในการเลือกเล็บแบบที่ฉันอยากได้โดยที่ต้องอยู่กับมันไปอีก 4 สัปดาห์และก็ต้องรำคาญเพราะฉันรู้สึกมีพันธะ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคนบอกให้ฉันทำ ไม่ใช่มาจากการที่ฉันอยากทำเอง ยิ่งกว่านั้น ฉันก็เสียเวลาอันมีค่า ในที่สุด ฉันก็เริ่มดูแลเล็บของตัวเองและรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นเล็บตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีอะไรบดบังอยู่ หลังจากนั้นสักพักฉันก็รู้สึกคิดถึงการมีเล็บสีแดงและตัดสินใจที่จะไปร้านเสริมสวยอีกครั้ง ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันชอบอะไรและฉันก็ไม่รู้สึกเบื่อกับสีนู้ดหรือสีแดงที่อยู่บนเล็บสั้น ๆ ของฉันเลย สิ่งที่ฉันรำคาญได้หายไป และตอนนี้เมื่อฉันไปร้านเสริมสวยฉันก็ใช้เวลากับช่างทำเล็บที่กลายมาเป็นเพื่อนรักของฉันหลังจากเจอกันเป็นเวลาหลายเดือน
  • ยาสมิน: อย่าทำเล็บเจล กระบวนการของมันทำร้ายการมีเล็บที่ดีและคุณภาพของสีทาเล็บก็มักจะไม่ดีเท่าไหร่
  • มาเรียน่า: แพทย์ผิวหนังบอกฉันว่าถ้าผู้หญิงไม่ได้ใช้แผ่นหล่อเล็บ เธอก็ไม่ควรจะทาเล็บเจลบ่อย ๆ เพราะจะทำให้เล็บบางและลอกออกได้ มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งถ้ามีการใช้สีที่เข้ม ตอนนี้ฉันกลัวการทำเล็บมือและเล็บเท้าไปแล้ว
  • อนาสตาเซีย: ฉันไม่ได้ไปร้านทำเล็บเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อพวกเขาลอกเลเยอร์บาง ๆ บนเล็บของฉันออก ฉันก็สังเกตเห็นความว่างเปล่าไปจนถึงกลางเล็บ ฉันคิดว่ามันเป็นเชื้อราก็เลยรีบไปหาหมอเพื่อตรวจและรอผลสรุปเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ฉันโชคดีที่มันไม่ใช่เชื้อรา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำร้ายหรือทำให้เล็บของฉันเสียหาย เมื่อเล็บงอกขึ้น ความว่างเปล่านั้นก็ถูกเติมเต็ม หลังจากนั้นฉันก็ไม่ไปร้านทำเล็บอีกนานเลย ฉันรู้สึกกลัวการตะไบเล็บที่พวกเขาเคยทำกับฉันมาก่อน
  • ไอทาลิน่า: ฉันปฏิเสธที่จะทำเล็บเจลเพราะเหตุผลทางนิเวศวิทยา เมื่อเล็บที่เคลือบถูกลอกออก มันจะกลายเป็นฝุ่นซึ่งเป็นอนุภาคไมโครพลาสติก พลอยเทียมและเลื่อมก็เหมือนกัน ฉันไม่คิดว่าเราจำเป็นจะต้องพูดถึงความอันตรายของไมโครพลาสติกอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ร้านทำเล็บมีการใช้วัสดุที่ใช้แล้วทิ้งเยอะมาก เช่น สำลีสีส้มที่ใช้ตรวจ ถุงมือ ตะไบเล็บและอื่น ๆ อีกมากมาย ของพวกนี้มีผลกระทบในเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมันนำไปรีไซเคิลได้ยาก สิ่งที่แย่กว่านั้นคือฉันคิดว่าพวกเขาไม่แม้แต่จะนำมันไปรีไซเคิลด้วยซ้ำ แต่แค่เอามันไปทิ้งลงถังขยะโดยที่ไม่มีการแยกประเภทเลยด้วยซ้ำ มันมีขยะที่เป็นอันตรายเยอะเกินไปต่อลูกค้าหนึ่งคน

การทำเล็บเท้า

  • จูเลีย: ฉันปฏิเสธที่จะไปทำเล็บมือและเล็บเท้าในร้านเสริมสวย อย่างแรกเลยคือฉันรู้สึกว่าฉันจะต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงไปกับคนแปลกหน้าซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่ได้อยากจะคุยด้วย และฉันก็ขี้เกียจใช้เวลาเดินทางไปกลับจากร้านเสริมสวย อย่างที่สองคือฉันไม่ชอบพึ่งพาช่างทำเล็บ ถ้าเล็บของฉันหัก ฉันก็จะจัดการกับมันได้ด้วยตัวเองในเวลาเพียงแค่ 15 นาที แต่กับช่างทำเล็บ ฉันจะต้องโทรหาเธอเพื่อนัดและไปที่ร้านเพื่อซ่อมเล็บที่หักซึ่งมันก็เป็นเรื่องของการเสียเวลาอีกแล้ว
  • แอนนา: ครั้งล่าสุดที่ฉันไปร้านเสริมสวย ช่างทำเล็บเท้าของฉันออกมาแย่มาก เล็บที่นิ้วโป้งเท้าของฉันเริ่มงอกออกมาผิดรูปแล้วก็เจ็บด้วย ตอนนี้ฉันไม่ไปร้านเสริมสวยอีกแล้ว
  • แคทเธอรีน: สิ่งเดียวที่หยุดฉันจากการไปร้านเสริมสวยได้ก็คือตอนนั้นฉันไม่มีเงิน ฉันไม่ได้ทำเล็บเท้าเองมานานแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันติดเชื้อจากเชื้อราในร้านเสริมสวย แต่นั่นก็หยุดฉันจากการไปทำเล็บเท้าในร้านอีกครั้งไม่ได้

ทรีทเมนต์ผิวหน้า

  • นอราห์: ฉันมีปัญหาผิวตั้งแต่อายุ 18 ปี แต่ฉันก็แทบจะไม่ไปหาช่างเสริมสวยเลยเพราะฉันมักจะผิดหวังในตัวพวกเขาเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ช่างเสริมสวยคนใหม่อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับประเภทและปัญหาผิวรวมถึงวิธีการรักษา และเธอก็เขียนคำแนะนำในการดูแลผิวที่บ้านให้ฉัน ตอนนี้ฉันเลือกผลิตภัณฑ์ความงามโดยดูจากส่วนประกอบต่าง ๆ และเปรียบเทียบกับคำแนะนำที่ได้มา ตอนนี้ฉันทำทุกอย่างเองที่บ้านและฉันก็ไม่มีปัญหาผิวอีกต่อไปแล้ว
  • นาตาเลีย: ฉันเคยฉีดกรดไฮยาลูรอนิกหนึ่งครั้งด้วยราคา 16,500 บาท (500 ดอลลาร์) ฉันไม่เห็นผลลัพธ์อะไรที่ชัดเจนเลย กระบวนการนี้ต้องใช้เงินเยอะมากและมันก็ไม่ได้ทำครั้งเดียวแล้วเห็นผล และฉันก็ไม่อยากจะไปทำซ้ำอีกแล้ว
  • มาร์โก: ชีวิตนี้ฉันไม่เคยไปหาช่างเสริมสวยเลย และฉันก็ไม่คิดว่าจะไปหลังจากได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของฉันซึ่งเธอไปฉีดหน้ามา และกลายเป็นว่าตอนนี้เธอก็ดูเหมือนกับมีกระดานซักผ้าอยู่ใต้ตา ทุกอย่างไม่มีความสม่ำเสมอซึ่งมันเกิดขึ้นเพราะทางร้านได้ซื้อสารตัวใหม่ที่มีราคาถูกมาแล้วเพื่อนของฉันก็อาการไม่ดี

การกำจัดขน

  • แอนนา: ฉันบอกลาการกำจัดขนและการใช้แว็กซ์ ฉันต้องทุกข์ทรมานจากขนคุดและการกำจัดขนก็เจ็บปวดสุด ๆ และฉันมักจะมีอาการแพ้เสมอ อย่างที่เรารู้กันว่ากระบวนการของมันไม่ได้น่าอภิรมย์ ฉันเปลี่ยนมาใช้เลเซอร์แทนและกำจัดขนด้วยวิธีการนี้มา 4 ปีแล้วและฉันก็พอใจกับมันมาก อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องจริงที่ว่ากระบวนการนี้จะช่วยกำจัดขนบนร่างกายของคุณได้อย่างหมดจด เพราะยังไงขนบางเส้นก็ยังจะขึ้นอยู่เหมือนเดิมอยู่ดี
  • ทาเทียน่า: ฉันมีผิวที่บอบบาง ฉันก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีการที่นุ่มนวลที่สุด (ในแบบที่ฉันคิด) โดยใช้วิธีการกำจัดขนที่เรียกว่าการแว็กซ์ ฉันพร้อมที่จะเห็นอาการแพ้และความแดง แต่กลายเป็นว่าฉันมีอาการช้ำ ช่างที่แว็กซ์ให้ฉันบอกว่ามันเป็นอาการปกติ ฉันพยายามซ่อนขาของฉันเอาไว้จนกระทั่งรอยช้ำหายไป เมื่อรอยช้ำหายไปขนของฉันก็งอกกลับมาเหมือนเดิมและฉันก็ต้องทำกระบวนการนี้ซ้ำ ฉันจึงกลับไปใช้วิธีการโกนขนเหมือนเดิมแทน

การตกแต่งคิ้ว

  • พอลลิน่า: สิ่งที่ฉันจะไม่ทำอีกเลยคือการสักคิ้ว เมื่อสองปีก่อนฉันไปสักคิ้วมาแล้วก็ค่อนข้างมีความสุขกับผลลัพธ์เพราะมันมีรูปทรงที่สวยงามมากและหางคิ้วของฉันก็มีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น 1 ปีสีของยาย้อมก็กลายเป็นสีออกเขียวและฉันก็พยายามจะกำจัดมัน ฉันใช้กระบวนการถึง 4 รูปแบบในการกำจัดสีด้วยการใช้เลเซอร์ แต่ความเขียวก็ยังคงอยู่ แต่ฉันก็ยังมีความสุขกับทรงคิ้วปัจจุบันของฉันนะ ตอนนี้ฉันต้องปกปิดความเขียวด้วยดินสอเขียนคิ้วอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้น กระบวนการในการรักษาก็ใช้ทั้งเวลาและเงิน ซึ่งแต่ละครั้งมันต้องใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงและใช้เงินประมาณ 1,300 บาท (40 ดอลลาร์)
  • มารีน่า: ในปีนี้ฉันเริ่มตกแต่งคิ้วด้วยตัวเองเพราะบางครั้งการไปร้านเสริมสวยก็ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีบ้าง ฉันจะย้อมสีคิ้วเมื่อไหร่ก็ได้ที่ฉันอยากทำและฉันก็ตกแต่งทรงคิ้วให้เป็นทรงที่ฉันต้องการได้ ถึงแม้ว่าช่างที่ฉันเคยไปใช้บริการจะดีก็ตาม แต่บางครั้งเธอก็ทำผิดพลาดหรือไม่ก็ทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากสิ่งที่ฉันต้องการ
  • นอราห์: ฉันปฏิเสธที่จะสักคิ้ว เม็ดสีที่นำมาใช้ในกระบวนการนี้กลายเป็นสีแดงซึ่งทำให้ฉันต้องใช้เลเซอร์ในการกำจัด ตอนนี้หลังจากผ่านไป 2 ขั้นตอน มันก็แทบจะมองไม่เห็นอีกแล้ว บางทีฉันน่าจะทำครั้งที่สามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ และตอนนี้ฉันก็ใช้บริการร้านเสริมสวยแค่เพื่อการกำจัดขนด้วยเลเซอร์และตัดผมเท่านั้น

ของแถม #1: “ช่างทำเล็บเอาแต่บอกให้ฉันเชื่อใจเธอ”

ฉันเพิ่งย้ายมาอยู่ยุโรปและต้องบอกลากับเทคโนโลยีในการทำเล็บที่บ้านของฉันในแคนาดา ฉันพบกับผู้หญิงคนนี้ในเน็ตและคิดว่ามันจะแย่ได้แค่ไหนกันเชียว รูปภาพผลงานของเธอดูดี และฉันต้องจ่ายเงิน 1,600 บาท (45 ยูโร) เป็นค่าทำเล็บและจ่ายอีก 2,300 บาท (65 ยูโร) เพื่อเป็นค่าแก้ สิ่งที่ฉันเคยทำและอยากจะทำคือรูปในด้านซ้าย และสิ่งที่ได้อยู่ในรูปทางด้านขวา มันเริ่มต้นจากการทาเล็บเจลทั่วไป รูปร่างของมันแย่มากแต่ฉันคิดว่าฉันรับได้ ต่อมาเธอใช้ถ้วยใส่น้ำยาเจลข้น ๆ พร้อมกับแปรงราคาถูกจากนั้นก็จุ่มมันลงไปในกากเพชรถูก ๆ หลังจากนั้นเธอก็ทาเคลือบสามชั้น ถึงแม้ว่าจะผ่านแสงยูวีแล้ว มันก็ยังเหนียว ขรุขระและออกมาห่วยมาก © sarahtisme / Reddit

ของแถม #2: อลิโอน่าไม่เคยเข้าร้านเสริมสวยเลย

  • ฉันอายุ 26 ปีและไม่เคยเข้าร้านเสริมสวยเลย ฉันไม่เคยทำเล็บ แต่งคิ้วหรือทำอะไรกับขนตา ฉันไม่เคยไปหาช่างเสริมสวยและฉันก็ไม่คิดว่ามันเป็นอะไรที่ผิดหรือไม่ดี ฉันแค่ไม่อยากจะใช้เวลาของฉันไปกับเรื่องพวกนี้ สิ่งที่จะพูดก็คือสิ่งสำคัญคือการรักตัวเองและฉันก็ค่อนข้างพอใจในการดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองในแบบของฉัน ฉันไม่รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องไปร้านเสริมสวยและฉันก็ไม่ปฏิเสธว่าวันนึงฉันอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเพราะฉันไม่เก่งในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ฉันยังโอเคอยู่ที่ไม่ต้องใช้บริการจากพวกเขา

กระบวนการทางด้านความงามอะไรที่คุณมักจะทำในร้านเสริมสวย

Please note: This article was updated in August 2021 to correct source material and factual inaccuracies.
เครดิตภาพพรีวิว merionization / Reddit
ชีวิตสดใส/คน/หญิงสาวกว่า 20 คนพูดถึงสาเหตุที่พวกเธอหยุดเข้าร้านเสริมสวย
แชร์บทความนี้