ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

“ลูกชายคนโตบอกกับเราว่าเขาชอบผู้หญิง” แมต โบเมอร์เล่าว่าการเป็นพ่อร่วมกับไซมอน ฮอลส์สร้างตัวตนลูกชาย 3 คนของพวกเขาอย่างไร

เด็กไม่ต้องโตมาพร้อมกับครอบครัวเดี่ยวเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จก็ได้ สำหรับความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างแมต โบเมอร์ (Matt Bomer) เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนธรรมดาทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดเขาจากการตามหาความรักในชีวิตของเขาได้ เขาเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของเขาเอาไว้เป็นความลับมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อโลกได้เห็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีความสุขของเขามันก็เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ตอนที่เขาออกมาประกาศว่าเขาเป็นเกย์ ในสุนทรพจน์รับรางวัลที่งาน โปรเจกต์ เอดส์ ดีเซิร์ต (Desert Aids Project) ปี 2012 เขาก็ทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึงไปเลย

ยังมีเรื่องราวที่น่าทึ่งอยู่มากมายในโลกภายนอกนั่น และชีวิตสดใสก็เชื่อว่าเรื่องราวของคู่รักคู่นี้คือหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุด ดังนั้นเราเลยขอขุดลึกลงไปอีกหน่อยเพื่อที่คุณจะได้ค้นพบเกี่ยวกับประสบการณ์อันแสนพิเศษของคนคู่นี้

ขอเชิญพบกับแมต โบเมอร์ ชายที่ความฝันสูงสุดของเขาคือการได้เป็นพ่อคนและได้แต่งงานกับคนที่เขารัก

พ่อของแมต โบเมอร์ เป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จโดยเล่นให้กับทีม ดัลลัส คาวบอยส์ ก่อนหน้านั้น เขาเป็นเด็กที่มีความสามารถในการเล่นอเมริกันฟุตบอลและค้นพบว่าเขาสนใจการแสดง การเลี้ยงดูที่โบเมอร์ได้รับเต็มไปด้วยความรัก และพ่อแม่ของเขาก็ให้สภาพแวดล้อมที่สงบและดีต่อลูกของพวกเขา ด้วยการเลี้ยงดูที่ปกป้องเขาเป็นอย่างดี โบเมอร์จึงไม่รู้จักเพศวิถีของเขาจนกระทั่งเข้าได้อ่าน เดอะ นอร์มอล ฮาร์ท (The Normal Heart) ของ แลร์รี คราเมอร์ (Larry Kramer)

หลังจากอ่านหนังสือเล่มนั้น ซึ่งเป็นเรื่องราวความยากลำบากของคู่รักเกย์สองคน (นักกิจกรรมและนักข่าวที่เขียนให้ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์) และการได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ชายที่รักเพศเดียวกัน ผู้ชายคนใหม่ก็เกิดขึ้นหลังจากนั้นเขาได้มีโอกาสแสดงในภาพยนตร์ดัดแปลงของ เดอะ นอร์มอล ฮาร์ท ด้วย

ในขณะเดียวกัน โบเมอร์ก็พบว่าเขาชอบผู้ชาย

สุดท้ายเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่นคนนี้ก็จากบ้านเกิดในเท็กซัสมาเพื่อมามุ่งมั่นกับอาชีพนักแสดง แต่ว่าเขายังได้เข้าเรียนโครงการเรียนการแสดง คาร์เนกี เมลลอน อันโด่งดังในพิตส์เบิร์กก่อนจะเริ่มทำงานเพื่อสร้างโปรไฟล์ของเขาก่อนด้วย

ขณะที่กำลังเรียนวิธีการแสดงแบบคลาสสิก โมเมอร์ก็ปรับตัวเองเสียใหม่และได้รู้จักเพศวิถีของตัวเองมากขึ้น เพื่อนของเขาต้อนรับเขาและร่วมเส้นทางในการได้รับการยอมรับแบบทั่วถึงไปกับเขา แต่ครอบครัวเขากลับใช้เวลาพอสมควรที่จะเลือกยอมรับความรักเหนือความเชื่อ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วพวกเขาก็ยอมรับลูกชายได้ในที่สุด

หลังจากเขามีชื่อเสียงมากขึ้น เขาก็ได้พบกับคนรักของเขา

ในปี 2012 รสนิยมทางเพศของโบเมอร์ก็กลายเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป และเขาก็แต่งงานกับคนรักของเขา นักแสดงคนนี้กระตือรือร้นกับงานแต่งงานเล็ก ๆ ในนิวยอร์กของเขามาก เขาอธิบายว่ามันเป็นงานที่สบาย ๆ มากที่สุด เขาบอกว่าการแลกเปลี่ยนคำสาบานต่อหน้าผู้ชมที่สนับสนุนและรักพวกเขาแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นเหตุการณ์ที่น่ารื่นเริงใจมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับครอบครัวของเขาจริง ๆ

ไซมอน ฮอลส์ (Simon Halls) คือผู้ชายที่เอาชนะใจนักแสดงคนนี้ได้ เขาเป็นนักประชาสัมพันธ์ส่วนตัวให้กับ นีล แพทริก แฮร์ริส (Neil Patrick Harris) และ จู๊ด ลอว์ (Jude Law) ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์นักแสดงเหล่านี้กับสื่อ ทั้งคู่เก็บความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นความลับอยู่เป็นเวลานานทีเดียว

ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวของเขามาก่อนการงานเสมอ

คิต (Kit) วอล์คเกอร์ (Walker) และ เฮนรี (Henry) คือชื่อของลูกทั้ง 3 คนของ โบเมอร์และฮอลส์ คิตอายุ 17 ปีแล้ว และน้องชายฝาแฝดของเขา เฮนรีและวอล์คเกอร์ ทั้งคู่อายุ 14 ปี ทั้ง 3 คนเกิดจากการอุ้มบุญ ในการให้สัมภาษณ์ในปี 2008 ฮอลล์แสดงความยินดีของเขาเกี่ยวกับการได้เป็นพ่อคน ตามคำพูดของเขา พ่อแม่เพื่อนของคิตไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไรตอนที่ได้รู้ว่าเขากำลังจะมีลูกแฝดจากการอุ้มบุญ

ไม่กี่ปีต่อมา โบเมอร์เน้นย้ำว่า ไม่ว่าสถานการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็จะช่วยให้ลูก ๆ ของเขาได้มีชีวิตวัยเด็กแบบปกติให้ได้อย่างเต็มที่เทียบเท่ากับที่เขาได้รับในวัยเด็ก คุณพ่อลูกสามท่านนี้บอกว่าเขายินดีที่ได้เกิดในช่วงเวลาที่โลกยอมรับผู้คนในทุกเชื้อชาติ ทุกเพศวิธี และทุกเพศสภาพแล้ว

เพราะการได้เป็นพ่อคน เขาจึงสามารถจัดสรรตารางและพฤติกรรมในชีวิตของเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารู้สึกขอบคุณมาก ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องงานหรือว่าสื่อจะว่ายังไงอีกต่อไปแล้ว แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เขาก็มาจดจ่อกับการให้ความสนใจทั้งหมดกับลูกของเขาและทำหน้าที่พ่อได้ดีมาก ซึ่งหมายความถึงการใช้เวลากับลูกชายทั้งหลายนั่นเอง

ช่วงเวลาเหล่านี้บางช่วงก็ถูกถ่ายเอาไว้และถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ด้วย มันแสดงให้เห็นว่าแม้เขาจะอยากอยู่ห่างสื่อมากขนาดไหน โบเมอร์ก็ไม่ได้มีปัญหากับการแบ่งปันความสุขของเขาให้สาธารณชนได้เห็น แม้ว่าแทบจะไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้มากนักก็ตาม

แมต โบเมอร์ได้นึกย้อนไปถึง “ช่วงเวลาแสนพิเศษ” ตอนที่ลูกของเขาตัดสินใจบอกเขาว่าเขาชอบเพศตรงข้าม

ช่วงที่ให้สัมภาษในรายการทอล์คโชว์ของรูพอล นักแสดงภาพยนตร์เรื่อง เมจิก ไมค์ ท่านนี้ก็ได้เล่าเรื่องการพูดคุยกับคิต ลูกชายของเขาที่ตอนนั้นอายุ 14 ปีด้วย โบเมอร์เผยว่าจริง ๆ แล้วคิดบอกกับเขาว่าเขาเป็นคนชอบเพศตรงข้ามในวัยนั้น “เขาบอกว่า ’ผมรักและเคารพสิ่งที่พวกพ่อเป็นนะ แต่ผมชอบเพศตรงข้าม ผมระบุตัวเองแบบนั้นครับ’ และนั่นก็เป็นช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งน่ารักและดีจริง ๆ” โบเมอร์บอกในตอนนั้น

โบเมอร์พูดถึงฝาแฝดของของเขา เฮนรีและวอล์คเกอร์ ที่ตอนนั้นอายุ 11 ปีว่า “เราจะอยู่ข้างพวกเขาและพร้อมรับทุกอย่างไม่ว่าพวกเขาจะเลือกเป็นเพศอะไรก็ตาม”

ปู่ย่าของเขาสอนเขาเรื่องความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จ

ฮอลล์ตื่นเต้นมากที่สามีของเขาใส่ใจครอบครัวอย่างมาก และทำให้เขาภูมิใจสุด ๆ ที่ได้เป็นคู่ชีวิตกับโบเมอร์ เขาไม่มีอะไรต้องกังวลเลย เพราะคนรักของเขาพยายามอย่างหนักที่จะทำให้การแต่งงานของพวกเขาเป็นไปได้ด้วยดีและทำให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันตลอดไป นักแสดงภาพยนตร์เรื่อง เดอะ นอร์มอล ฮาร์ท บอกว่าปู่กับย่าของเขาเป็นคนสอนเขาว่าต้องทำอย่างไรชีวิตการแต่งงานจึงจะเป็นไปได้ด้วยดี

โบเมอร์อยากรู้วิธีที่จะทำให้พวกเขามีความสุข เขาเลยถามปู่กับย่าของเขาว่าความลับของชีวิตแต่งงานที่มีความสุขของพวกท่านคืออะไร พวกท่านก็บอกเขาว่ามันเป็นเรื่องของการรับมือสิ่งต่าง ๆ ทีละวันเท่านั้น นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้รักของเขากับฮอลล์แข็งแรง พวกเขายังยึดถือเอาความสุขและความปลอดภัยของครอบครัวมาก่อนด้วย ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นคู่แต่งงานที่เหมาะจะดูเป็นต้นแบบสุด ๆ

ไม่ว่าเด็กจะเป็นเกย์หรือเป็นคนรักเพศตรงข้าม ครอบครัวที่มีความสุขก็จะเลี้ยงเด็กที่วิเศษมาก ๆ ขึ้นมาได้เสมอ คุณประหลาดใจไหมตอนที่คุณได้ยินว่าคนดังคนนี้เป็นเกย์ ? คุณรู้จักคนดังคนอื่นที่จะเอามาใส่ในรายการนี้ได้อีกบ้างหรือเปล่า ? บอกให้เรารู้ในคอมเมนต์ด้านล่างหน่อยสิ

เครดิตภาพพรีวิว Bruce Glikas / FilmMagic / Getty Images, MattBomer / Twitter
ชีวิตสดใส/ครอบครัว & เด็ก/“ลูกชายคนโตบอกกับเราว่าเขาชอบผู้หญิง” แมต โบเมอร์เล่าว่าการเป็นพ่อร่วมกับไซมอน ฮอลส์สร้างตัวตนลูกชาย 3 คนของพวกเขาอย่างไร
แชร์บทความนี้