ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

อาหารเพื่อสุขภาพกว่า 10 ชนิดที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้

บ่อยครั้งที่ผู้คนอาจคิดว่าอาหารบางชนิด หากขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแล้วก็จะสามารถกินมันได้โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ แต่ความจริงก็คือ ยังมีอาหารบางกลุ่มที่สามารถเป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน พวกผักตระกูลกะหล่ำอย่างเคล อาจมีปริมาณตะกั่วอยู่เป็นจำนวนมาก จันทน์เทศอาจทำให้เกิดอาการมึนเมาได้ และคูสคูส (couscous) ก็เป็นอาหารที่มีเส้นใยต่ำมาก ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณไขมันให้ร่างกายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณกินอื่น ๆ ด้วย

ชีวิตสดใสอยากจะช่วยให้คุณได้รู้จักอาหารเหล่านี้ให้มากขึ้น คุณจะได้รู้ว่าคุณกำลังกินอะไรเข้าไปกันแน่

1. เคล

ผักตระกูลกะหล่ำอย่างเคล อาจสะสมโลหะหนักจากดินได้ และในผักเคลบางต้นก็อาจมีตะกั่วสะสมอยู่เป็นปริมาณมาก ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบใส่ผักเคลลงในมื้ออาหารทุกวัน ขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นผักชนิดอื่นบ้างเป็นครั้งคราว

2. ข้าวพอง

ข้าวพองอาจเป็นขนมที่กินแทนมันฝรั่งทอดและคุกกี้ได้ดี แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีแคลอรีต่ำ แต่ยังไงมันก็ยังเป็นอาหารแปรรูปชนิดหนึ่งที่ขาดทั้งวิตามินและแร่ธาตุ นอกจากนั้น ยังเคยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบสารหนูในอาหารที่ทำจากข้าวอีกด้วย

3. น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวได้รับการโฆษณาในฐานะที่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงก็คือมันมีไขมันอิ่มตัวมากกว่า 80% ซึ่งจะเพิ่มไขมันเลวให้แก่ร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้

4. ปลาทูน่าสด ๆ

ถึงแม้ว่ามันจะมีโอเมก้า 3 อยู่เยอะมาก แต่นักวิจัยบางท่านกลับพบว่าปลาทูน่าสดใหม่ที่ตกได้จากมหาสมุทรแอตแลนติกอาจมีปริมาณสารปรอทสูง ซึ่งทำให้เป็นพิษได้

5. อบเชย

อบเชยมักนำมาใช้ชงชา ทำขนมหวาน หรือเป็นเครื่องปรุงรส แต่หนึ่งในสารประกอบของเครื่องเทศชนิดนี้คือคูมาริน (coumarin) ซึ่งสามารถทำให้เกิดพิษและยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

6. จันทน์เทศ

จันทน์เทศเป็นเครื่องเทศที่มาจากอินโดนีเซียและอินเดียเป็นหลัก โดยรู้กันดีว่าเป็นเครื่องเทศที่ให้รสชาติที่เข้มข้นมาก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการเมาจันทน์เทศเป็นจำนวนมาก การรับประทานจันทน์เทศน์มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และเกิดผลข้างเคียงที่เป็นภาวะพิษแอนตีโคลิเนอร์จิก (anticholinergic) ได้

7. กาแฟ

มีบางคนที่ต้องพึ่งกาแฟเพื่อที่จะได้ตื่นเต็มตา ช่วยทำให้มีสมาธิ หรือเป็นการพักเบรกในตอนกลางวัน แต่มีรายงานการศึกษามากมายที่แสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟในปริมาณมากเกินไปจะทำให้อาการข้อเสื่อมและข้ออักเสบแย่ลง รวมถึงโรคอ้วนด้วย

8. คูสคูส

เพราะคูสคูสมีใยอาหารต่ำมาก ดังนั้นถ้ายิ่งรวมกับการกินอาหารไขมันสูง คูสคูสอาจเข้าไปเพิ่มมวลไขมันและทำให้เกิดโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ คูสคูสยังมีคาร์โบไฮเดตเป็นปริมาณมากและอาจทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงได้ ถ้าคุณเป็นเบาหวาน หรือมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นในอนาคต ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้เสียดีกว่า

9. แซลมอนรมควัน

แซลมอนรมควันคือผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนมลพิษทางน้ำและกระบวนการรมควัน โดยได้รับการรายงานว่ามีสารประกอบโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (polycyclic aromatic hydrocarbons) ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งอาจทำให้มีสารพิษ เกิดการกลายพันธุ์ และ/หรือ มีคุณสมบัติที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้

10. ชาหมักคอมบูชา

ชาหมักคอมบูชา (Kombucha) คือเครื่องดื่มหมักที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากเพราะได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกรณีที่ได้รับการรายงานว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการเมาคอมบูชา และมีอาการไตวายหลังจากดื่มมันมาแล้ว ดังนั้น ข้อแนะนำปริมาณการบริโภคชาหมักคอมบูชานี้จึงเฉลี่ยอยู่ที่ 114 กรัม

11. มันฝรั่ง

ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งทอด ต้มหรือบด ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะกินมันยังไง แต่ถ้าคุณเกิดไปเจอมันฝรั่งสีเขียวเข้า คุณควรจะทิ้งมันไปซะ หรือไม่ก็ปอกส่วนที่เป็นสีเขียวพวกนั้นออกไปให้หมด เพราะในพืชหัวประเภทนี้จะมีปริมาณสารพิษไกลโคแอลคาลอยด์ (Glycoalkaloid) ที่สูงมาก จนอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนและอาเจียนได้

12. มะม่วง

ถ้าคุณเคยมีประวัติแพ้ต้นพอยซันไอวี (poison ivy) มาก่อน คุณควรจะหลีกให้ไกลจากบรรดามะม่วงนานาชนิด เพราะต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้มีสารตัวเดียวกันที่อาจทำให้เกิดอาการคัน เป็นผื่นแดง เกิดลมพิษ และเป็นแผลพุพองได้

คุณรู้มาก่อนไหมว่าอาหารพวกนี้อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของคุณได้ ? ร่างกายของคุณเคยมีปัญหาหลังจากกินอาหารเหล่านี้ไหม ? บอกให้เรารู้หน่อยนะ !

เครดิตภาพพรีวิว afc-49 / reddit, depositphotos.com
แชร์บทความนี้