10 ส่วนของร่างกายที่ไร้ประโยชน์ซึ่งวิวัฒนาการกำลังรับมือกับมันอยู่
ชัดเจนว่าร่างกายของเราไม่ได้เป็นอย่างที่มันเป็นในทุกวันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มาเลย อย่างที่คุณรู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นผลลัพธ์จากการวิวัฒนาการหลายต่อหลายปี เนื่องจากบรรพบุรุษของเราได้เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของพวกเขาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพแวดล้อม พอหลายปีผ่านไป ร่างกายก็ตอบสนองโดยปรับตัวให้เข้ากับความจำเป็นใหม่ ๆ ของพวกเขา ซึ่งตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ การวิวัฒนาการ, การเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวไม่เคยมีวันหยุด แต่สิ่งที่น่าตลกก็คือไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงมีบางส่วนของร่างกายที่ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่นักกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของเรา แต่หน้าที่จริง ๆ ของมันคือการเผยให้เห็นข้อมูลมากมายในอดีตของเรา...
ชีวิตสดใสอยากแนะนำให้คุณได้รู้จัก 10 ส่วนของร่างกายมนุษย์ที่อาจจะเคยมีประโยชน์ต่อบรรพบุรุษของเรา แต่ในทุกวันนี้มันไม่ได้มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วและร่างกายของเราก็รู้ดี
1. กล้ามเนื้อปาล์มาริส
บางคนอาจจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากล้ามเนื้อปาล์มาริสและพวกเขาอาจจะอยู่มานานแล้วโดยที่ไม่รู้เรื่องของตัวเองเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนี้ก็ไม่ต้องกังวลไป คุณไม่ได้พลาดอะไรไปเลย ! จริง ๆ แล้วคนที่มีสิ่งนี้ก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีมันอยู่และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก่อนที่จะอธิบายถึงสาเหตุ เรามาดูกันดีกว่าว่าคุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณมีกล้ามเนื้อชนิดนี้หรือไม่ มันง่ายมาก ๆ ลองเอานิ้วก้อยไปแตะนิ้วโป้งของคุณในขณะที่ขยับฝ่ามือเข้าหาใบหน้าของคุณดูสิ ถ้าคุณมีกล้ามเนื้อชนิดนี้ คุณควรจะเห็นกล้ามเนื้อโดดเด่นขึ้นมาซึ่งคล้ายกับเส้นเอ็นที่แขนของคุณ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีคุณสมบัติพิเศษที่มีกล้ามเนื้อชนิดนี้ คุณอาจจะสงสัยว่ามันมีไว้เพื่ออะไร... จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีไว้ทำอะไรเลย หลักฐานทุกอย่างชี้ไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่าจริง ๆ แล้วมันก็เป็นแค่สิ่งที่เราได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ แน่นอนว่าพวกเขาเคยใช้กล้ามเนื้อชนิดนี้มาโดยตลอด แต่พอการใช้นิ้วโป้งกลายเป็นเรื่องที่ทำเป็นประจำ (เมื่อนานมาแล้ว) กล้ามเนื้อปาล์มาริสก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป แต่มันก็ยังคงอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไร มันเป็นแค่ร่องรอยจากอดีต
2. ไส้ติ่ง
พวกเราส่วนใหญ่นึกถึงการมีอยู่ของไส้ติ่งก็ต่อเมื่อมันบวมหรือนำไปสู่อาการไส้ติ่งอักเสบเท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเท่าไหร่... เพราะหลังจากที่ตัดมันออกไปแล้ว เราก็ใช้ชีวิตต่อไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจึงถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ แต่จริง ๆ แล้วงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าไส้ติ่งช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันของคุณ โดยเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียดีที่ช่วยควบคุมจุลชีพที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์
มันอาจจะฟังดูคลุมเครือเล็กน้อย ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจสักหน่อย พอเราเป็นโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ ร่างกายของเราก็จำเป็นต้องทำความสะอาด นั่นคือช่วงเวลาที่มันจะเริ่มกำจัดแบคทีเรีย แต่มันก็ทำการชำระล้างโดยที่ไม่ได้แยกว่าเป็นแบคทีเรียที่ดีหรือไม่ดี และอย่างที่คุณได้ทำความเข้าใจไปแล้วว่าไม่ใช่แบคทีเรียทุกตัวที่จะเป็นแบคทีเรียที่ไม่ดี และจริง ๆ แล้วกระเพาะอาหารของเราต้องการแบคทีเรียที่ทำงานได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นเพื่อที่มันจะไม่ถูกกำจัดไปกับแบคทีเรียอื่น ๆ แบคทีเรียดีควรจะต้องอาศัยอยู่ในไส้ติ่งและเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติมันก็จะเติบโตตามปกติ แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นฟังดูดี แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกวันนี้เราใช้ไส้ติ่งน้อยกว่าบรรพบุรุษของเรามากซึ่งตอนนั้นอาหารการกินของพวกเขามีความหยาบกระด้างมากกว่า และต้องทำหน้าที่ในการย่อยอาหารที่ต่างจากเรา
3. กระดูกก้นกบ
กระดูกก้นกบของเราอยู่ที่บริเวณกระดูกสันหลังและมันอาจจะดูน่าอายเล็กน้อยกับความจริงที่ว่าบรรพบุรุษของเรามีหาง ! ใช่แล้วและมันก็เป็นหางที่ยาวซะด้วย มันช่วยแสดงให้เห็นหน้าที่ที่สำคัญในการช่วยให้พวกเขาทรงตัวและเคลื่อนที่ไปมาได้ แต่สายพันธุ์ของเราเรียนรู้ที่จะเดินแบบตัวตรงจึงทำให้สูญเสียวัตถุประสงค์ของมันไป และตอนนี้มันก็ทำหน้าที่รองในการเป็นตัวเชื่อมระหว่างกล้ามเนื้อ, เส้นเอ็นและเอ็นยึดเท่านั้น สิ่งนี้น่าจะอธิบายได้ว่าทำไมมันจึงไม่หายไปจากร่างกายของเราพร้อมกับหางเลยซะทีเดียว
4. อวัยวะเจค็อบสัน
อวัยวะเจค็อบสันถือเป็นอวัยวะเสริมที่เกี่ยวข้องกับการดมกลิ่นของคุณ มันอยู่ในโพรงจมูก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในจมูกของคุณ สัตว์หลายสายพันธุ์มีอวัยวะชนิดนี้ แต่สำหรับสายพันธุ์ของเราไม่มีอะไรที่มากไปกว่าอวัยวะที่เป็นร่องรอยซึ่งเป็นสิ่งที่ “ถูกทิ้งไว้” จากวิวัฒนาการ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่พบหลักฐานของเซลล์ประสาทรับความรู้สึกใด ๆ ที่ทำงานเหมือนสัตว์เหล่านั้นได้ ดังนั้นพวกมันจึงใช้ส่วนนี้ของร่างกายได้อย่างเหมาะสม
5. ฟันคุด
ฟันคุดน่าจะเป็นฟันที่เราจะคิดถึงน้อยที่สุดตอนที่เราอยู่ที่คลินิกทำฟันเพื่อไปถอนมันออก การสังเกตเห็นการมีอยู่ของฟันคุดนั้นมักจะเป็นข่าวร้าย เพราะนั่นหมายความว่ามันกำลังรบกวนอะไรบางอย่าง แต่ในขณะที่มันอาจจะสร้างความรำคาญให้กับเรา มันกลับเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับบรรพบุรุษซึ่งพวกเขาใช้มันเพื่อบดเนื้อเยื่อของพืช
ในความเป็นจริง งานวิจัยบางชิ้นบอกว่ากะโหลกศีรษะของบรรพบุรุษมีกรามที่ใหญ่กว่าและมีฟันที่เยอะกว่า เนื่องจากพฤติกรรมการกินของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป กรามของเรามีวิวัฒนาการจนมีขนาดที่เล็กลง และดูเหมือนว่าฟันกรามซี่ที่สามจะไม่ได้ถูกจดจำว่าไม่มีที่ว่างสำหรับฟันกรามในปากเล็ก ๆ ของเราอีกต่อไปแล้ว... แต่พวกมันยังคงงอกขึ้นอยู่ตลอด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ทำหน้าที่อะไรเลยก็ตาม น่ารำคาญซะจริง ! และจริง ๆ แล้วมันมักจะเป็นอันตรายมากกว่าสิ่งไหนซะอีก จึงทำให้ทันตแพทย์เลือกที่จะถอนมันออกไปซะ
6. ดาร์วินทูเบอร์เคิล
ถ้าคุณมีตุ่มเล็ก ๆ บนใบหูที่มีชื่อว่าดาร์วินทูเบอร์เคิล คุณจะสังเกตเห็นมันได้อย่างง่ายดายในหูของคุณในส่วนเล็ก ๆ ของวงใบหูที่หนา คุณอาจจะมีคุณลักษณะนี้ในหูเพียงหนึ่งข้างหรือสองข้างก็ได้ และชื่อนี้มาจากการที่ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) เป็นคนแรกที่กล่าวถึงชื่อนี้ในสื่อสิ่งพิมพ์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอธิบายว่ามันเป็นสิ่งที่เราสืบทอดมาจากบรรพบุรุษและมันแสดงให้เห็นว่าเรามีบรรพบุรุษร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีหูแหลม
7. กล้ามเนื้อหู
ลิงบางชนิดมีกล้ามเนื้อในหูของมันเพื่อที่มันจะได้เคลื่อนที่ไปรอบ ๆ และระมัดระวังเสียงใด ๆ ก็ตามที่แสดงถึงการคุกคามรอบตัวได้ แต่สายพันธุ์ของเราและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างลิงอุรังอุตังกลับมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อหูที่ไม่ดีนัก ซึ่งกล้ามเนื้อเหล่านี้ไม่ได้ใช้งานและไม่มีเหตุผลทางชีววิทยาที่จะต้องใช้งาน
แต่เราก็อาจจะพบคนที่มีความสามารถแปลก ๆ ซึ่งไม่ใช่พลังวิเศษโดยพวกเขากระดิกหูได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่น่าทึ่งหากทำได้ มันก็ยังห่างไกลจากความจำเป็นสำหรับการอยู่รอดของเราเช่นเดียวกับพวกลิง
8. ปลิก้า เซมิลูนาริส
มันเป็นรอยพับที่เล็กมากของเนื้อเยื่อที่พบบริเวณหัวตาด้านใน ผู้คนมีแนวโน้มที่จะสับสนมันกับต่อมน้ำตาซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตน้ำตา ปลิก้า เซมิลูนาริสเป็นร่องรอยของเปลือกตาที่สามหรือนิกทิเทติ้ง เม็มบราน (nictitating membrane) ซึ่งคุณจะพบได้ในสัตว์ชนิดอื่นอย่างนก ทุกวันนี้ส่วนนี้ของร่างกายเพียงแต่ช่วยให้เรากลอกลูกตาและเป็นที่ไหลผ่านของน้ำตา
9. กล้ามเนื้อพลาทิสม่า
คุณเห็นมันหรือเปล่า ? มันเป็นกล้ามเนื้อที่ไม่สำคัญที่อยู่ด้านหน้าคอไปถึงหน้าอกของเรา มันมีประโยชน์ไหมน่ะเหรอ ? ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ประโยชน์ของมันส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความงามและมันช่วยให้แสดงออกทางสีหน้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันทำให้สังเกตในปากของเราได้มากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อหดรัดตัวมันจะทำให้มุมปากเลื่อนลงมาและทำให้เราดูเศร้า มันยังช่วยให้เราอ้าปากและกรามได้มากกว่าการที่เราไม่มีกล้ามเนื้อพลาทิสม่า สันนิษฐานกันว่าแท้จริงแล้วมันเป็นร่องรอยของแพนนิคิวลัสคาร์โนซัส (panniculus carnosus) (ชื่อของสิ่งที่ทำให้สัตว์กระตุกหนวดของพวกมัน) ที่สัตว์บางชนิดใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น ป้องกันไม่ให้นกและแมลงมาเกาะพวกมัน
10. ปฏิกิริยาตอบกลับ
เราไม่เพียงแต่หลงเหลืออวัยวะบางอย่างจากวิวัฒนาการเท่านั้น แต่ปฏิกิริยาตอบกลับทางพฤติกรรมบางอย่างที่ร่างกายของเรามีต่อสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงก็ยังคงหลงเหลืออยู่ด้วย โดยส่วนใหญ่มันจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไร ลองนึกถึงอาการขนลุกในตอนที่อากาศหนาวหรือรู้สึกเกร็งดูสิ สำหรับบรรพบุรุษของเราแล้ว การที่ขนตามร่างกายตั้งขึ้นเป็นความสามารถที่มีประโยชน์หากพวกเขาต้องการดูตัวใหญ่ขึ้นและทำให้ผู้ล่ารู้สึกกลัว นั่นเป็นสิ่งที่แมวยังคงทำในทุกวันนี้ ขนที่ตั้งชันจะช่วยให้สัตว์รู้สึกอบอุ่นขึ้น แต่ในปัจจุบันมนุษย์ได้สูญเสียเส้นขนไปมากและไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะนั้นอีกต่อไปแล้ว มันจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้ใช้งานอีกต่อไป
แม้แต่การกำฝ่ามือของเด็กทารกที่อายุไม่กี่เดือนที่กำนิ้วมือหรือสิ่งของที่สัมผัสกับฝ่ามือของพวกเขาอย่างแน่น อาจจะมาจากปฏิกิริยาตอบกลับที่เราได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เรายังคงเห็นสัตว์ที่เกิดใหม่ที่ใช้ปฏิกิริยาการตอบกลับในการกำมือเพื่อเพิ่มโอกาสของการเอาชีวิตรอดเมื่อขี่อยู่บนหลังที่มีขนของแม่ของมัน
คุณเป็นหนึ่งในคนที่กระดิกหูได้หรือเปล่า ? คุณมีดาร์วิน ทูเบอร์เคิลที่หูหรือไม่ ? แล้วกล้ามเนื้อปาล์มาริสล่ะ ? เล่าให้เราฟังถึงส่วนที่ไม่ได้ใช้งานอีกต่อไปแล้วที่คุณพบในร่างกายของคุณได้เลย รวมถึงฟันคุดด้วย