ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

13 สิ่งน่ารำคาญที่เราต้องหยุดทำบนเครื่องบิน

ด้วยจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 4.3 พันล้านคนในแต่ละปี การพบปัญหากับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่สามารถเปลี่ยนเที่ยวบินไม่กี่ชั่วโมงของคุณให้กลายเป็นฝันร้ายจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเราต้องจำไว้ว่าเราทุกคนถูกอัดแน่นอยู่ในพื้นที่จำกัดที่เราไม่สามารถหนีออกไปไหนได้ อีกทั้งความเครียดของเราก็ถูกผลักให้ไปถึงขีดจำกัด ดังนั้นแล้วทางที่ดีเราทุกคนควรจะเกรงใจผู้คนรอบข้างและหยุดทำสิ่งที่อาจถูกมองว่าหยาบคายหรือน่ารำคาญเพื่อให้เที่ยวบินนั้น ๆ มีความน่ารื่นรมย์

ทางชีวิตสดใสได้รวบรวมรายการสิ่งน่ารำคาญที่ผู้คนควรหยุดทำในขณะที่เดินทางบนเครื่องบิน ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่นั้นทนไม่ได้กันเลยล่ะ

13. วางเท้าบนเบาะนั่ง ผนัง และที่วางแขน

ไม่มีอะไรเจ็บปวดมากไปกว่าการติดแหง็กอยู่กับที่นั่งเครื่องบินเล็ก ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยที่รู้สึกไม่สบายตัว แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างในการที่คุณต้องเอาเท้าล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัว แต่ว่าคุณไม่เพียงแต่กำลังบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของใครบางคนเท่านั้น แต่คุณยังทำให้พวกเขาขยับตัวได้ยากขึ้นด้วย ดังนั้นแล้วหากคุณต้องการยืดขาและเปลี่ยนท่าให้หายปวดเมื่อย เมื่อสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัยดับลง คุณก็สามารถยืนขึ้นและเดินไปตามทางเดินเพื่อยืดเส้นยืดสายได้

12. การปิดแอร์เหนือที่นั่งของคุณ

ในระหว่างเที่ยวบินเครื่องบินมักจะวางระบบปรับอากาศไว้ต่ำเสียแทบทนไม่ได้ จนทำให้เรารู้สึกเหมือนกับอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย แต่ที่เป็นแบบนั้นก็มีเหตุผลอธิบาย คืออุณหภูมิต่ำในเครื่องบินกักเก็บแบคทีเรียไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วและยังป้องกันคุณจากหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นเมื่อคุณปิดแอร์เหนือที่นั่ง แบคทีเรียจะอยู่รอดได้ง่ายขึ้น แล้วสิ่งนี้ก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณและผู้คนที่อยู่ใกล้คุณ โดยทำให้พวกเขาได้รับเชื้อไวรัสในอากาศที่แอร์เหนือที่นั่งของคุณไม่สามารถดูดมันเข้าไปได้อีกต่อไป

11. การสวมกางเกงขาสั้นระหว่างเที่ยวบิน

บางครั้งผู้คนเลือกสวมกางเกงขาสั้นระหว่างการเดินทาง เนื่องจากอากาศหรือจุดหมายปลายทางที่ร้อน แต่ทว่ามีปัญหาหลายอย่างในเรื่องนี้ อย่างแรกคือเครื่องบินไม่ได้รับการทำความสะอาดระหว่างเที่ยวบิน ทำให้มีเชื้อโรค ไร และแบคทีเรียส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนที่นั่ง ดังนั้นคุณจึงกำลังเผยผิวหนังและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของคุณที่อาจได้รับอันตรายมากมาย

อย่างที่สองเมื่อผู้คนถูกยัดให้อยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ มันอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและมีกลิ่นตัวเหม็น ๆ ได้ แม้ว่าคุณจะอาบน้ำก่อนขึ้นเครื่องมาแล้ว แต่การนั่งบนอยู่บนที่นั่งเป็นเวลานาน ๆ สามารถทำให้คุณเหงื่อออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาจากผิวหนังของคุณ

10. นอนหลับก่อนเครื่องออก

การนอนหลับสนิทก่อนเครื่องขึ้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางครั้ง แต่ทว่าช่วงเวลาก่อนเครื่องขึ้นคือเวลาที่ทุกคนกำลังเตรียมตัว เตรียมสัมภาระและหาที่นั่ง แล้วก็มีหลายสถานการณ์ที่อาจต้องการให้คุณลุกขึ้น ขอความช่วยเหลือจากคุณ หรือสลับที่นั่งกับใครสักคน ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจที่จะต้องปลุกคุณให้ตื่น ทั้งผู้โดยสารคนอื่น ๆ และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

นอกจากนี้ก่อนเครื่องออก พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะแสดงข้อมูลความปลอดภัยทั้งหมดที่คุณต้องรู้ในระหว่างเที่ยวบิน ถึงแม้ว่าเหตุฉุกเฉินบนเที่ยวบินจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่มันก็เป็นสิ่งสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของคุณเองที่ต้องรู้กฎเหล่านี้เอาไว้ อีกทั้งการนอนหลับในช่วงเวลานี้ยังเป็นการไม่ให้เกียรติพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอีกด้วย ซึ่งพวกเขาได้สละเวลาเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าต้องทำอย่างไรในกรณีที่ชีวิตของคุณตกอยู่ในอันตราย

9. กดปุ่มเรียกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

บางคนโดยเฉพาะคนที่เดินทางเป็นครั้งแรกจะรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปในเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ของเครื่องบิน จนทำให้คุณกดปุ่มเรียกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมายังที่นั่งของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถตอบสนองทุกความต้องการในเที่ยวบินของคุณได้ แต่ทว่าปุ่มนี้จะใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น อย่างเช่นถ้าคุณรู้สึกไม่สบาย คนข้าง ๆ ป่วย หรือช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะเปิดออกระหว่างที่เครื่องกำลังขึ้นหรือลง แล้วคุณไม่สามารถลุกออกจากที่นั่งได้ เป็นต้น

8. ถอดรองเท้าออก

นิสัยนี้อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้โดยสารส่วนใหญ่ และเกือบทุกคนสามารถยืนยันในเรื่องนี้ได้ โดยมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้คุณไม่ควรถอดรองเท้าระหว่างเที่ยวบิน ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือความไม่สุภาพและการไม่เคารพผู้โดยสารคนอื่น ๆ ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเท้าหรือถุงเท้าของคุณสกปรกหรือส่งกลิ่นเหม็น

อย่างไรก็ตามเนื่องจากความกดอากาศค่อนข้างต่ำในระหว่างเที่ยวบิน มันอาจทำให้การไหลเวียนของเลือดไปที่เท้าของคุณตีบตันลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดของคุณในการจัดการกับสิ่งนี้คือการสวมรองเท้าหนังกลับแบบผูกเชือกหลวม ๆ เพื่อให้สบายเท้าโดยที่ไม่รบกวนผู้โดยสารคนอื่น

7. ใช้ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะอย่างเห็นแก่ตัว

เป็นเรื่องปกติที่ผู้โดยสารจะคิดเอาเองว่าที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง ซึ่งพวกเขาสามารถใส่สัมภาระและสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ที่พวกเขาต้องการได้ และเพื่อตอบคำถามยอดฮิตว่าช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะเป็นของใคร คำตอบก็คือไม่มีใครเป็นเจ้าของ

แล้วนี่ก็คือคำอธิบายในเรื่องนี้ จริง ๆ แล้วช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะไม่ได้ถูกกำหนดว่าเป็นของที่นั่งใดเพื่อบอกให้คุณวางกระเป๋าสัมภาระเมื่ออยู่บนเครื่องบิน เพราะพื้นที่นั้นมีไว้สำหรับทุกคน แล้วนั่นก็คือเหตุผลที่เมื่อผู้โดยสารทุกคนขึ้นเครื่อง ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะจึงกลายเป็นเกมล่าขุมทรัพย์ แล้วโปรดจำไว้ว่าเนื่องจากสิ่งของที่สามารถใส่ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะได้มีจำนวนที่กำหนด ดังนั้นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของไปรอบ ๆ หรือจัดให้เป็นกระเป๋าสัมภาระชิ้นใหญ่เมื่อตอนเช็คอิน

6. ใช้ห้องน้ำก่อนเครื่องออก

เมื่อธรรมชาติเรียกร้อง คุณก็ต้องรับมือกับมัน แต่ทุกคนมีโอกาสเข้าห้องน้ำที่สนามบินได้บ่อยตามที่ต้องการตลอดจนระหว่างที่รอเรียกขึ้นเครื่องหรือแม้กระทั่งหลังจากที่เครื่องบินออกเดินทางแล้ว แม้ว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์เฉพาะที่ห้ามไม่ให้คุณใช้ห้องน้ำก่อนเครื่องออก แต่การทำธุระในขณะที่เครื่องบินอยู่บนรันเวย์นั้นอันตรายจริง ๆ เพราะนักบินไม่สามารถสตาร์ทเครื่องบินหรือนำเครื่องขึ้นได้เมื่อมีใครใช้ห้องน้ำอยู่ ดังนั้นแล้วการใช้ห้องน้ำในช่วงเวลานี้อาจทำให้เกิดความล่าช้าระหว่างเที่ยวบินได้

5. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

เราทุกคนรู้กฎนี้ เราต้องคาดเข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบินเมื่อสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัยยังติดอยู่ และสำหรับคนที่กลัวการบินซึ่งจะรู้สึกอ่อนไหวต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเที่ยวบินมากกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศปั่นป่วน แม้ว่าคุณจะตัดสินใจแล้วว่าไม่จำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ความปั่นป่วนทางอากาศเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้คุณเคลื่อนไปมาในที่นั่งได้ ซ้ำยังทำร้ายตัวคุณเองหรือผู้โดยสารคนอื่น ๆ รอบตัวคุณด้วย โดยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สายการบินแอร์แคนาดาต้องลงจอดฉุกเฉินในคาลการี เนื่องจากอากาศปั่นป่วนฉุกเฉินและมีผู้โดยสาร 21 คนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย และที่แย่ที่สุดคือพวกเขาทำให้คนรอบข้างที่รัดเข็มขัดนิรภัยได้รับบาดเจ็บไปด้วย

4. ทะเลาะกับผู้โดยสารคนอื่น

เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อคุณติดอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กระสับกระส่ายเหมือน ๆ กัน และแม้แต่ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดการโต้เถียงกันในเรื่องเล็กน้อยได้ โดยมีหลายครั้งนับไม่ถ้วนที่เครื่องบินต้องหันหลังกลับหรือลงจอดฉุกเฉินเพราะผู้โดยสารทะเลาะกันและกลายเป็นการทำร้ายร่างกาย ซึ่งมี 2 สิ่งที่ผู้โดยสารทุกคนไม่ต้องการคือมลภาวะทางเสียงกับความเครียดจากการอยู่ท่ามกลางการทะเลาะวิวาทของผู้โดยสาร และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงการทะเลาะกันบนเครื่องบินสามารถคลิกดูได้ที่นี่

3. ไม่ดูแลสุขอนามัยของคุณเอง

ไม่มีใครอยากนั่งข้างใครก็ตามที่มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก หรือสุขอนามัยส่วนตัวทั่ว ๆ ไปที่ไม่ดีเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และในขณะที่คุณอาจกังวลเกี่ยวกับการนั่งข้างคนที่มีสุขอนามัยไม่ดี คุณควรดูแลตัวเองก่อน ดั่งคำโบราณที่ว่า “จงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้” และสิ่งนี้ก็ใช้ได้กับสิ่งเล็กน้อยที่สุด ดังนั้นควรพกหมากฝรั่งติดตัว ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และที่สำคัญที่สุดคืออาบน้ำก่อนขึ้นเครื่องบินอยู่เสมอ

2. การเลือกที่นั่งตรงกลางหรือริมหน้าต่าง แล้วต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ

จากการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ผู้คนยอมเลือกที่จะไปหาหมอฟัน (ซึ่งน่ากลัวมาก) มากกว่าที่จะนั่งเบาะตรงกลางบนเครื่องบิน เนื่องจากเบาะที่นั่งตรงกลางสามารถทำให้เครียดได้ เพราะคุณไม่รู้วิธีทำให้ตัวเองสบาย แต่ที่น่ารำคาญกว่านั้นคือเวลาที่มีคนกระเพาะปัสสาวะเล็กที่ต้องการเข้าห้องน้ำทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ซึ่งหากการไปห้องน้ำเป็นเรื่องเร่งด่วน จงอย่าอายและขอสลับที่นั่งกับคนข้าง ๆ ซักพัก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องขอให้พวกเขาขยับตัวตลอดทั้งเที่ยวบิน ซึ่งนี่เป็นวิธีที่เกรงใจที่สุดในการจัดการกับเรื่องนี้

1. ทำทุกอย่างที่จะรบกวนผู้โดยสารคนอื่น

สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องชัดเจน แต่ก็ยังน่าจดจำเอาไว้ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถรบกวนคนอื่น ๆ ได้ และบางครั้งเราก็อาจทำสิ่งน่ารำคาญเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไม่ดี จนกระทั่งมีคนตัดสินใจได้ว่าพวกเขาไม่ทนแล้วและบอกให้เราหยุดทำพฤติกรรมนั้นซะ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข อย่าทำสิ่งดังต่อไปนี้

  • อย่าถอนขนคิ้ว ตัดเล็บ หรือแม้แต่แคะหูระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน เพราะมีเวลาและสถานที่สำหรับทำสิ่งเหล่านี้ และแน่นอนว่าไม่ใช่ในที่สาธารณะอย่างบนเครื่องบิน
  • อย่ายืนขวางตรงทางเดินเพื่อพูดคุยกับเพื่อนที่นั่งเบาะอื่น ! ผู้คนไม่ต้องการแอบฟังการสนทนาส่วนตัวของคุณ ซ้ำยังอาจทำให้พวกเขาไม่สบายใจอีกด้วย
  • เวลาคุยกับผู้โดยสารข้าง ๆ ให้พยายามพูดเบา ๆ เพราะผู้โดยสารบางคนชอบนอนหลับบนเครื่องบิน
  • อย่าเล่นเกมในโทรศัพท์ของคุณเสียงดัง เพราะมันเป็นการเสียมารยาทกับผู้โดยสารคนอื่น

สิ่งที่คุณไม่ชอบที่สุดเวลาอยู่บนเครื่องบินคืออะไร ? ทางเราอยากได้ยินประสบการณ์และเรื่องราวส่วนตัวของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณรำคาญในขณะที่เดินทาง

เครดิตภาพพรีวิว edjfhsywe / Reddit, joshua_silver / Instagram
ชีวิตสดใส/สิ่งแปลกๆ/13 สิ่งน่ารำคาญที่เราต้องหยุดทำบนเครื่องบิน
แชร์บทความนี้