เหตุใดเรายังต้องการอวัยวะทั้ง 11 ส่วนนี้ทั้งที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องมีพวกมันเพื่อดำรงชีวิต
ร่างกายของคนเรามีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก คือเราอาจสูญเสียอวัยวะมากมาย แต่ร่างกายก็ยังคงทำงานได้ดี เว้นแต่ว่ามันจะต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ ๆ แต่ทว่าหากคุณสูญเสียอวัยวะสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ของร่างกายที่มีบทบาทสำคัญไป มันก็มีวิธีแก้ไขอยู่เสมอ อย่างเช่นการเพิ่มวิตามินเสริมลงในมื้ออาหารของคุณ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม มันก็ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตคุณมากนัก และคุณนั้นก็ยังสามารถมีชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรงได้
ชีวิตสดใสขอนำเสนอรายการอวัยวะของร่างกายที่เราไม่จำเป็นต้องมีพวกมันเพื่อให้มีชีวิตอยู่
1. รูจมูก
จมูกของเรามี 2 รู หรือรูจมูกที่ถูกคั่นด้วยผนังกั้นโพรงจมูก (คือสิ่งที่แยกรูจมูกด้านขวาและซ้าย) พวกมันทำงานผ่านสิ่งที่เรียกว่าการคัดจมูกสลับข้างตามธรรมชาติ แล้วสิ่งนี้เองที่ทำให้เรามีจมูก 2 ข้าง เพราะกระบวนการนี้ชี้ให้เห็นว่ารูจมูกข้างหนึ่งของคุณทำงานหนักกว่ารูจมูกอีกข้าง
ทุก ๆ สองสามชั่วโมงเราได้เปลี่ยนจากการหายใจผ่านรูจมูกข้างหนึ่งไปยังรูจมูกอีกข้าง เนื่องจากเนื้อเยื่อภายในจมูกของเรานั้นบวม แล้วสิ่งสำคัญก็คือรูจมูกข้างหนึ่งต้องมีกระแสลมผ่านน้อยกว่ารูจมูกอีกข้าง เพราะมันทำให้เรามีความสามารถในการดมกลิ่นได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าพวกเราเป็นยอดมนุษย์จริง ๆ เลยล่ะ !
2. ปอด
อย่างที่รู้กันดีว่าปอดทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือเราสามารถทำงานและสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยปอดเพียงข้างเดียว ซึ่งมีความเสื่อมถอยเพียงเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มศักยภาพ แต่ก็ยังสามารถออกกำลังกายได้
ร่างกายจะเคยชินกับการทำงานแบบไร้ปอดอีกข้างด้วยการชดเชยการสูญเสียออกซิเจน อีกทั้งปอดที่ไม่ได้เอาออกไปก็จะใหญ่ขึ้น โดยมีการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดต้องใช้ทั้งเวลาและการฝึกฝนเพื่อให้เคยชินกับมันได้อย่างเต็มที่
3. กระเพาะอาหาร
คุณได้ยินถูกแล้วล่ะ คนส่วนใหญ่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีกระเพาะอาหาร แม้ว่าลำไส้เล็กจะมีความสำคัญในการดำรงชีวิตและเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการย่อยอาหาร แต่กระเพาะอาหารไม่ได้มีความสำคัญ เพราะร่างกายของเราสามารถข้ามขั้นตอนการย่อยอาหารและส่งผ่านไปยังลำไส้ได้
ในขั้นตอนการผ่าตัดศัลยแพทย์สามารถเชื่อมต่อหลอดอาหาร (ท่อที่เชื่อมระหว่างลำคอกับกระเพาะอาหาร) เข้ากับลำไส้เล็กได้ จึงส่งผลให้คนเราสามารถกินอาหารได้ตามปกติพร้อมกับกินวิตามินเสริม อย่างไรก็ตาม กระเพาะอาหารมักจะถูกนำออกไปก็ต่อเมื่อคน ๆ นั้นมีโรคร้ายแรง อย่างเช่นมะเร็งกระเพาะอาหาร
4. ต่อมทอนซิล
ส่วนใหญ่การนำต่อมทอนซิลออกไปจะทำกันตั้งแต่เด็กตอนที่มีอายุน้อย ๆ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถกำจัดมันออกไปได้เช่นกัน แล้วก็มีชีวิตอยู่โดยที่ไร้พวกมันได้ด้วย ต่อมทอนซิลอยู่บริเวณด้านหลังคอของคุณ ซึ่งหน้าที่ของพวกมันก็คือป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในปาก
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ต่อมทอนซิลมักจะมีขนาดเล็กลงเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่บางครั้งมันก็ไม่เล็กลง ซึ่งนี่ก็คือตอนที่พวกมันติดเชื้อ และจำเป็นต้องกำจัดมันออกไปผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการผ่าตัดต่อมทอนซิล
5. กล้ามเนื้อที่เกิดอาการขนลุก
ใช่แล้วล่ะ เราทุกคนรู้ดีว่าอาการขนลุกจะเกิดขึ้นในยามที่เราฟังเพลงที่ซาบซึ้งกินใจ หรือไม่ก็อากาศข้างนอกที่หนาวมาก ๆ หรือในตอนที่เรากลัว แต่เรานั้นไม่ได้ต้องการพวกมันจริง ๆ เว้นเสียแต่ว่าพวกเราถูกสร้างขึ้นมาเหมือนบรรพบุรุษที่มีขนดกที่อยากมีมันเอาไว้ เพื่อปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็นเป็นพิเศษ
เส้นใยกล้ามเนื้อที่รู้จักกันในชื่อ อาเร็กเตอร์ส ไพโลรัม (arrectores pilorum) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ทำให้เกิดขนลุก แล้วร่างกายของเราในอดีตก็มุ่งมั่นที่จะใช้มันเหมือนกับเป็นเสื้อแจ็กเก็ตพอง ๆ แบบในปัจจุบันเพื่อรับมือกับอากาศหนาว
6. บางส่วนของหู
แน่นอนอยู่แล้วว่าเราต้องการหูเพื่อใช้ฟัง แต่เราไม่จำเป็นต้องขยับพวกมันในการทำสิ่งนี้ แต่มีกลุ่มของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า ออริคิวลาริส (auriculares) ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้ใช้ในการขยับหูเพื่อการได้ยินที่ดีขึ้นและแสดงอารมณ์เช่นเดียวกับสัตว์
แม้ว่าเรายังคงมีพวกมันอยู่ในปัจจุบันและสามารถกระดิกพวกมันได้เล็กน้อย แต่พวกมันก็อ่อนแอลงเนื่องจากเหตุผลทางด้านวิวัฒนาการ อย่างไรก็ตามหูของเราจะขยับเมื่อเรารู้สึกเข้าถึงอารมณ์อย่างเช่นมีความสุข ซึ่งนี่ก็คือปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้
7. ลำไส้ใหญ่
หน้าที่หลักของลำไส้ใหญ่คือการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหารเลย แถมยังมีเส้นทางตรงไปสู่ท้อง นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้หากไม่มีมัน แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำมันออกไป เว้นเสียแต่ว่าเป็นโรคร้ายแรง แล้วก็ไม่ต้องกลัว เพราะคุณสามารถมีชีวิตที่สมบูรณ์แข็งแรงได้โดยที่ไม่มีมัน
8. เปลือกตาที่สาม
หากคุณจ้องดูดวงตาของคุณในกระจก คุณจะเห็นวงกลมสีชมพูเล็ก ๆ อยู่ตรงมุมของดวงตา นี่ก็คือเปลือกตาที่สามของคุณ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์สำหรับเรา แต่ว่ามีประโยชน์สำหรับสัตว์อย่างเช่นนก โดยป้องกันฝุ่นและเศษผงที่กระจัดกระจายไม่ให้เข้าตาของพวกมัน
หากคุณเคยได้ยินเรื่องทฤษฎีการคัดเลือกทางธรรมชาติ เรื่องนี้ก็อาจฟังดูคุ้นหูสำหรับคุณ ซึ่งพูดง่าย ๆ เลยก็คือการคัดเลือกทางธรรมชาติจะเก็บส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเอาไว้ให้อยู่ไปตลอดชั่วอายุคน แต่อวัยวะบางส่วนก็มีโทษ ดังนั้นมันจึงค่อย ๆ หยุดใช้งานในรุ่นต่อไป แล้วอวัยวะส่วนอื่น ๆ ที่ไม่คงอยู่นั้นก็คือเปลือกตาที่สาม
9. กระดูกก้นกบ
จริง ๆ แล้วเรามีกระดูกก้นกบ และมันก็ค่อนข้างไร้ประโยชน์สำหรับเรา ซึ่งไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องการมันเพื่อความสมดุลและใช้สื่อสาร กระดูกก้นกบไม่มีประโยชน์แม้แต่กับบรรพบุรุษของเราตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเริ่มหัดเดินด้วยขา 2 ข้าง
วิวัฒนาการเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นกระดูกที่ฐานกระดูกสันหลังของเรา แล้วงานวิจัยบางชิ้นก็ได้ชี้ให้เห็นว่ากระดูกนี้ยังคงถูกใช้เพื่อรองรับกล้ามเนื้อบางส่วนและบริเวณอุ้งเชิงกราน แต่มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วเช่นกันว่ามันมีประโยชน์เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
10. ม้าม
ม้ามอยู่ตรงด้านซ้ายของช่องท้องถัดจากกระเพาะอาหารของคุณและเป็นอวัยวะที่สำคัญ แต่ว่าคนเราก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีมัน แต่เมื่อม้ามหยุดทำงานตามปกติลง อย่างเช่นขยายใหญ่ขึ้นหรือเกิดความเสียหาย มันก็จะเกิดปัญหา แล้วสิ่งนี้เองที่เป็นสัญญาณให้นำมันออกไป
หลังจากนำมันออกไปแล้ว ผลลัพธ์ก็อาจทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้เร็วขึ้น แต่ว่าตับก็จะเข้ามาทำหน้าที่แทน และคุณยังคงสามารถจัดการกับการติดเชื้อเหล่านี้ได้
11. ถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีอยู่ตรงด้านขวาของช่องท้องใต้ตับ หากไม่มีมัน ร่างกายจะไม่สามารถรวบรวมน้ำย่อยที่เรียกว่าน้ำดีได้ แต่ก็จะมีอวัยวะอื่นมาทำแทน ซึ่งก็คือตับที่จะทำหน้าที่นี้และปล่อยน้ำดีไปยังลำไส้เล็ก
คุณยังคงสามารถย่อยอาหารได้จำนวนมาก แต่ทว่าการกินอาหารมัน ๆ หรือมีไขมันมากเกินไปก็อาจกลายเป็นปัญหาเนื่องจากมันจะส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดและมีแก๊ส
อวัยวะที่จริง ๆ แล้วเราไม่ต้องการส่วนไหนที่ทำให้คุณถึงกับประหลาดใจ ? คุณเคยกำจัดมันออกไปมั้ยนะ ?