ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเสื้อผ้าในเรื่อง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ที่เรามักมองข้ามไป

ภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) กลายเป็นหนึ่งในงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โลกใบนี้สร้างขึ้นมาด้วยฝีไม้ลายมือของนักเขียน เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) จนสามารถโลดแล่นมีชีวิตขึ้นมาได้จริง ๆ บนหน้าจอภาพยนตร์ ซึ่งต้องขอบคุณการทำงานอย่างหนักของผู้คนมากมาย พวกเขาพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเคารพในวิสัยทัศน์ของโรว์ลิงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องรังสรรค์เสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดง ซึ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเน้นบุคลิกลักษณะของตัวละครแต่ละตัวให้โดดเด่นขึ้นมาได้ และยังให้ความรู้สึกถึงความเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ที่ทำให้ทั้งคนแก่และคนหนุ่มสาวต่างต้องมนตร์หลงใหลไม่มีที่สิ้นสุด

ชีวิตสดใสได้รวบรวมเรื่องราวบางเรื่องที่แปลกที่สุดเบื้องหลังงานเสื้อผ้าอันเป็นที่น่าจดจำในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์เหล่านี้ ตั้งแต่สัญลักษณ์ที่สำคัญ ๆ ไปจนถึงการเปลี่นแปลงรายละเอียดที่เล็กน้อยสุด ๆ ที่เหล่าตัวนักแสดงเองได้ทำไว้บนเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อความเป็นเอกลักษณ์

1. คอนแทคเลนส์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์

หนังสือนิยายเกี่ยวกับพ่อมดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเรื่องนี้ได้อธิบายไว้ว่าแฮร์รี่นั้นมีดวงตาสีเขียว (เหมือนกับแม่ของเขา) ซึ่งแต่เดิมนั้น มีความตั้งใจให้นักแสดง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ต้องสวมคอนแทคเลนส์สีเขียว เพราะดวงตาจริง ๆ ของเขาเป็นสีฟ้า แต่ความคิดนั้นก็ต้องถูกโยนทิ้งไปเพราะคอนแทคเลนส์ทำให้เขาเจ็บตา ดังนั้น พล็อตต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้แฮร์รี่ พอตเตอร์มีดวงตาสีฟ้าแทน

2. การบอกลาชุดนักเรียน

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (Harry Potter and the Prisoner of Azkaban) เป็นภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านมาก ตั้งแต่เปลี่ยนผู้กำกับใหม่ (อัลฟอนโซ กัวรอน (Alfonso Cuarón)) นักแสดงหลักไม่ดูเป็นเด็กอีกต่อไป และรวมไปถึงนักออกแบบเครื่องแต่งกาย เจนี่ เทมิม (Jany Temime) ก็ได้เข้ามาร่วมในกระบวนการผลิตในหนังภาคนี้ด้วย สำหรับภาพยนตร์ภาคนี้นั้น เทมีมตัดสินใจว่านักแสดงหลักทั้งสามควรสวมเสื้อผ้าที่พวกเขา “มักจะใส่ในวันธรรมดา” เธอจึงทิ้งเครื่องแบบนักเรียนสุดคลาสสิกของฮอกวอตส์ (Hogwarts) เพื่อแสดงให้เห็นว่าแฮร์รี่ รอน (Ron) และ เฮอร์ไมโอนี่ (Hermione) นั้นเติบโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นแล้ว

3. เสื้อผ้าของเบลลาทริกซ์กลายเป็นที่นิยมมาก

เทมีมกล่าวว่าเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ (Bellatrix Lestrange) ที่เป็นมือขวาของโวลเดอมอร์ (Voldemort) นั้น กลายเป็นตัวละครที่เธอชื่นชอบมากเมื่อต้องออกแบบเสื้อผ้าให้กับผู้หญิงคนนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นตัวละครที่สร้างปัญหาให้เธอมากที่สุดเช่นกัน เพราะเธออยากให้ตัวละครนี้ออกมามีลุคส์ที่โทรม ๆ หน่อย อย่างไรก็ตาม ด้วยความทุ่มเทของนักแสดงสาวเฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ (Helena Bonham Carter) กลับทำให้ทุกอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

เบลลาทริกซ์เป็นที่นิยมในหมู่แฟน ๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ขนาดที่ว่าในงานพบปะแฟน ๆ เทมีมได้รับการขอร้องให้สร้างไลน์เสื้อผ้าที่ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากตัวละครด้านมืดตัวนี้เลยทีเดียว

4. ชุดราตรีที่แสนอ่อนโยนของเฮอร์ไมโอนี่

ในภาคที่ 4 ของนิยายเรื่องนี้ อีกฉากหนึ่งที่เป็นฉากอันน่าจดจำที่สุดก็คือฉากงานเลี้ยงเต้นรำวันคริสต์มาส โดยในฉากนี้ เราจะได้เห็นความต่างด้านต่าง ๆ ในโลกแห่งเวทมนตร์ แม้แต่กับตัวละครเอง โดยชุดราตรีของเฮอร์ไมโอนี่นั้น เทมีมได้อธิบายไว้ว่าชุดนั้นเหมือน “ตุ๊กตา” เพื่อตั้งใจจะแสดงให้เห็นว่าเฮอร์มาโอนี่ก็สามารถมีมุมอ่อนโยนอยู่ภายใต้ลักษณะภายนอกที่ดู “แข็งกร้าว” ของเธอ

5. ต่างหูสุดประหลาดของลูน่า

เมื่ออีวานน่า ลินซ์ (Evanna Lynch) รับที่จะเล่นบทลูน่า เลิฟกู๊ด (Luna Lovegood) ความหลงใหลที่เธอมีต่อนวนิยายภาคต่อเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน เพื่อที่จะแสดงบทเด็กสาวสุดประหลาดจากบ้านเรเวนคลอ (Ravenclaw) ออกมาให้ได้อย่างเต็มที่ที่สุด ลินช์ต้องทำงานใกล้ชิดกับเทมีมเป็นอย่างมาก เป้าหมายของพวกเธอคือการออกแบบเสื้อผ้าที่ตัวละครตัวนี้จะเลือกสวมใส่จริง ๆ เพื่อแสดงออกถึงนิสัยแปลก ๆ ในตัวเธอเอง โดยลินช์ได้ช่วยออกแบบเครื่องประดับให้ลูน่า เลิฟกู๊ดชิ้นนี้ด้วย

6. จินนี่ วีสลีย์กับความหลงใหลในโลกแฟชั่น

เทมีมได้เปิดเผยว่านักแสดงส่วนใหญ่มักจะสวมใส่เสื้อผ้าโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นก็คือบอนนี่ ไรท์ (Bonnie Wright) นักแสดงเด็กสาวที่รับบทเป็นน้องสาวของรอน จินนี่ วีสลีย์ (Ginny Weasley) โดยตัวของบอนนี่เองนั้นเป็นลูกสาวของ 2 นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง ดังนั้นเธอจึงได้รับการถ่ายทอดเซนส์ทางด้านแฟชั่นมาเป็นอย่างดี ซึ่งเธอได้นำสิ่งนั้นมาปรับใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

7. โดโลเรส อัมบริดจ์กับสีชมพู

หนึ่งในตัวละครที่ถูกเกลียดมากที่สุดในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์นั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโดโลเรส อัมบริดจ์ (Dolores Umbridge) ตัวร้ายตัวนี้โดดเด่นออกมาจากตัวละครตัวอื่น ๆ เพราะเธอไม่ได้สวมชุดสีทึมหรือเสื้อผ้าโทรม ๆ ใด ๆ ตรงกันข้าม นักแสดงตัวนี้สวมเสื้อผ้าที่มีเฉดสี “น่ารัก ๆ” ของสีชมพู แถมยังรักน้องแมวอีกด้วย ซึ่งสะท้อนผ่านทางผ้าพันคอของเธอ เทมีมเปิดเผยว่านี่เป็นหนึ่งในของประดับที่เธอชอบมาก ๆ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่ขัดแย้งกับนิสัยน่ารังเกียจของอัมบริดจ์มากที่สุด

8. เครื่องแบบที่แพงหูฉี่

เทมีมต้องการให้เครื่องแบบของฮอกวอตส์ออกมาอย่างมีคุณภาพดีที่สุด เธอจึงทุ่มทุนสุดตัวไปกับการออกแบบเสื้อผ้าชุดนี้ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม เพียงแค่เนคไทเส้นเดียวก็ทำมาจากผ้าไหมคุณภาพเยี่ยมที่สุด ซึ่งทำให้เครื่องแบบชุดนี้เป็นหนึ่งในชุดที่แพงที่สุดในภาพยนตร์เลยทีเดียว

9. สงครามที่ฮอกวอตส์จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายชุดมาก

ในภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ เราจะได้เห็นภาพทั้งโรงเรียนรวมตัวกันต่อสู้กับเหล่าสาวกของลอร์ด โวลเดอมอร์ สำหรับนักออกแบบและผู้ผลิตเสื้อผ้าแล้ว ฉากนี้เป็นฉากที่ยุ่งวุ่นวายสุด ๆ เพราะพวกเขาต้องทำให้เห็นถึงภาพเสื้อผ้าที่ฉีกขาดจากการสู้รบ พวกเขาต้องฉีกทำลายเสื้อผ้าไปถึง 10 — 15 เซ็ตต่อวันตลอด 4 เดือนที่ถ่ายทำฉากนี้

10. เสื้อผ้าของโวลเดอมอร์และความเชื่อมโยงกับฮอร์ครักซ์ทั้งหลาย

ในภาคที่ 6 ของภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ ได้มีการเปิดเผยว่า “เจ้าแห่งศาสตร์มืด (The Dark Lord)” ได้แยกวิญญาณของตัวเองออกเป็น 7 ส่วนที่เรียกว่าฮอร์ครักซ์ (Horcruxes) อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็นว่าเสื้อคลุมของโวลเดอมอร์จะเสื่อมสภาพลงทุกครั้งที่ฮอร์ครักซ์อันใดอันหนึ่งถูกทำลาย ดังนั้นเสื้อคลุมของเขาที่เคยเป็นสีมืดทึมจึงกลายเป็นสีเทาฝุ่น ๆ และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะจบลงที่กลายเป็นฝุ่นผงไปจริง ๆ

มีเสื้อผ้าชุดไหนในภาพยนตร์ชุดนี้ที่คุณอยากเลือกมาสวมใส่ในชีวิตประจำวันบ้างไหม ? แบ่งปันความคิดเห็นให้เราฟังได้เลย

แชร์บทความนี้