ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

11 ครั้งที่นักแสดงออกนอกบทแล้วผู้กำกับบอกว่า “เออ มันก็ดีเว้ยเฮ้ย”

นักแสดงชายหญิงบางคนนั้นตีบทแตกเหลือเกิน เราแทบจินตนาการไม่ออกว่าจะให้ใครมารับบทแทนเลยเล่นดีขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ทำตามที่ผู้กำกับบอกอย่างเดียว แต่ยังคิดมุกเองด้วย และไม่กลัวที่จะด้นสด

ชีวิตสดใสจำได้เลยว่ามีนักแสดงชายหญิงที่ใส่บทเพิ่มเข้าไปเองในหนัง แล้วกลายเป็นว่าดีกว่าเดิมอีก โบนัสช่วงท้ายจะบอกคุณว่าคนเราเผลอพูดไปคำหนึ่งแต่ทำให้คนเขียนบทได้แรงบันดาลใจทำตอนจบซีรีส์ตลอดซีซันให้หลุดโลกสุดคัลท์ได้อย่างไร

เอมมา วัตสันปฏิเสธไม่ใส่คอร์เซตในฉากเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast)

เอมมา วัตสัน (Emma Watson) ตัดสินใจว่าคาแรคเตอร์เธอจะต้องสดใสปราดเปรียวกว่าปกติ เธอไม่ขอใส่คอร์เซตเวลาถ่ายทำ เพื่อให้เบลล์ (Belle) ได้ขี่ม้าคล่องและเต้นได้พริ้ว ชุดคอสตูมเธอดูเบาและสวยงาม แล้วก็ไม่ได้เน้นช่วงเอวให้รัดแน่น และไม่ปิดบังการเคลื่อนไหวสุดงดงามของตัวละครเลย

เจอราร์ด บัตเลอร์ไม่ได้ถูกวางบทให้ตะโกนว่า “ที่นี่สปาร์ตา !”

การตะโกนก้องของกษัตรย์ลีโอนิดาส (King Leonidas) ว่า “ที่นี่สปาร์ตา !” นั้นไม่ได้เป็นแผนตามบทที่วางไว้ ตามผู้กำกับแล้วคือเจอราร์ด (Gerard) จะต้องกระซิบคำนั้นด้วยซ้ำ เขาขออีกเทค แล้วพอตะโกนปุ๊บก็เรียกเสียงฮาทั้งกอง แต่ผู้กำกับดันชอบ ฉากนี้ที่ไม่ได้เตี๊ยมกันก็เลยมาอยู่ในหนังดัง

ตอนถ่ายทำไททานิค (Titanic) เคท วินสเล็ตตัดสินใจถ่มน้ำลายใส่คู่หมั้นเธอในฉาก

เคท วินสเล็ต (Kate Winslet) เสนออีกมุมของพฤติกรรมตัวละครตอนต้นเลยที่เรือเริ่มโกลาหล โรส (Rose) รีบไปช่วยแจ็ค (Jack) ส่วนคาร์ล (Cal) ก็พยายามห้ามคู่หมั้นตัวเอง ตามบทแล้วเธอจะต้องเอาปิ่นปักผมแทงคาร์ล แต่โรสกลับนอกบทด้วยการถ่มน้ำลายใส่คู่หมั้นตัวเองแทน ผู้กำกับเห็นด้วยกับเธอเพราะว่าก่อนหน้าแจ็คก็สอนให้เธอถ่มน้ำลายพอดี แล้วเธอก็ถ่มเป็นไวซะด้วย

ฉากที่แดเนียล เครกขึ้นจากน้ำนั้นไม่ได้อยู่ในบทของคาสิโนรอยัล นักแสดงแค่อยากว่ายน้ำเฉย ๆ

ตอนที่ถ่ายทำที่ทะเล แดเนียล เครก (Daniel Craig) คิดว่าจะแกล้งกองเล่น ๆ เลยทำเป็นว่ากำลังว่ายน้ำตรงน้ำตื้น ๆ แล้วก็โผล่ขึ้นจากน้ำมาเท่ ๆ สรุปฉากนั้นดันออกมาเท่จริง เลยเอามาไว้ตอนโปรโมตซะเลย และบางรูปก็เป็นรูปตั้งต้นในการโปรโมตหนังและสร้างภาพลักษณ์ของเจมส์ บอนด์ (James Bond) ไปซะเลย

ไมค์ ไมเยอร์สบอกว่าขอเปลี่ยนสำเนียงการพูดของเชร็ค

ไมค์ ไมเยอร์ส (Mike Myers) เป็นหนึ่งในผู้พากย์เสียงตัวละครเชร็ค (Shrek) เขาก็พากย์โดยใช้สำเนียงคนแคนาดา แต่ว่าหลังจากดูบทร่างแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนสำเนียงให้เป็นคนสก็อต เขาคิดว่าเหมือนเชร็คเป็นชนชั้นแรงงาน ซึ่งตามความคิดของไมเยอร์สแล้วมันต้องฟังดูเป็นแบบนี้สิ

การตัดสินใจครั้งนี้ของเขาทำให้ผู้สร้างแอนิเมชันต้องทำงานเพิ่มหลายชั่วโมงและเสียเงินเพิ่มอีก 167 ล้านบาท ($5 ล้าน) แต่ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นก็ถือว่าคุ้มทุน เพราะว่าผู้อำนวยการสร้างอย่างสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) นั้นปลาบปลื้มมาก และเชร็คก็กลายมาเป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์สำเนียงสก็อตติชในวัฒนธรรมป๊อปแห่งศตวรรษที่ 21 ไปโดยปริยาย

รีส วิทเธอร์สปูน “เขียนบทบาทใหม่” ให้คาแรกเตอร์ตัวเองใน วัยร้ายวัยรัก

รีส วิทเธอสปูน (Reese Witherspoon) ไม่อยากเล่นบทแอนเน็ตต์ (Annette) ในวัยร้ายวัยรัก (Cruel Intentions) เพราะว่าเธอไม่ชอบคาแรกเตอร์ตัวละครที่คนเขียนบทกำหนดขึ้นมา เธอมองว่าแอนเน็ตต์นั้นขี้อายเกินไปและหัวอ่อนเกินเหตุ เธอทำงานคิดค้นคาแรคเตอร์ใหม่เอง เปลี่ยนบทเองหลายประโยค และในที่สุดก็ได้ตัวละครที่ลึกซึ้งมีบุคลิกซับซ้อนออกมาได้

เจสัน ไอแซคเปลี่ยนหน้าตาคาแรกเตอร์ลูเชียส มัลฟอยไปเลย

ทีแรกเลย ดีไซเนอร์คนออกแบบคอสตูมของแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) เลือกชุดเป็นลายแล้วก็วิกสีขาวดำให้ลูเชียส มัลฟอย (Lucius Malfoy) และนักแสดงอย่างเจสัน ไอแซค (Jason Isaacs) ไม่ยอมรับลุคนี้แล้วก็ขอให้เปลี่ยนเป็นชุดพ่อมดและผมยาวสีขาวแทน

ต่อมาเจ้าตัวก็สารภาพว่าเขาพยายาทำให้ผมตรงตลอดเวลาเลยต้องเงยหน้าตลอดเหมือนกัน ทำให้ตัวละครดูหยิ่งผยองไปอีก ซึ่งก็เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นลูเชียส มัลฟอยไป

วาคีน ฟีนิกซ์มีไอเดียว่าจะขอเข้าตู้เย็นตอนถ่ายโจ๊กเกอร์

ตอนถ่ายฉากในครัว วาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ก็เริ่มเอาของออกจากตู้เย็น แล้วก็ต้องเข้าไปในตู้เย็นแล้วปิดประตู ทั้งทีมงานถ่ายทำแปลกใจกันหมด แต่ก็ไม่หยุดถ่าย เพื่อนร่วมงานของฟีนิกซ์ถึงกับงงตั้งตาดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในฉากที่ทรงพลังที่สุดในหนัง

แซมมวล แอล แจ็คสันขอดาบสีม่วงจากผู้กำกับตอนถ่ายทำ สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2 กองทัพโคลนส์จู่โจม

จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ตั้งกฎไว้ : คนดีจะได้ดาบสีฟ้าหรือสีเขียว แต่คนไม่ดีจะได้สีแดง แซมมวล แอล แจ็คสัน (Samuel L. Jackson) ขอผู้กำกับว่าให้ตัวละครที่เขาเล่นอย่างเมซ วินดู (Mace Windu) ได้ดาบสีม่วง ตามที่นักแสดงบอกก็คือจะทำให้ตัวละครโดดเด่นออกมาจากบรรดานักรบใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2 กองทัพโคลนส์จู่โจม (Star Wars: Episode II — Attack of the Clones) และลูคัสก็เห็นด้วย แจ็คสันก็แฮปปี้

ใน ใครว่าเราแกล้งโง่ คำพูดที่จิม แครีย์บอกว่า “ตายแล้ว เจ๋งมาก เราจอดลงดวงจันทร์แล้ว !” นั้นด้นสด

จิม แครีย์ (Jim Carrey) ชอบด้นสดในหนังเหลือเกิน แม้แต่ในเรื่อง ใครว่าเราแกล้งโง่ (Dumb and Dumber) ก็เช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้ย ฉากที่ลอยด์ (Lloyd) ออกจากคาเฟ่แล้วเห็นหนังสือพิมพ์เก่าบนผนัง ไม่ได้ถือว่าเป็นฉากที่จะให้ตัวละครมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนั้น แต่จิมก็เล่นใหญ่มากจนมันต้องเก็บฉากนี้ไว้ในหนัง และถือว่าเป็นหนึ่งในฉากสุดฮา

ในอเวนเจอร์ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ส่งต่อนิสัยตัวเองให้คาแรกเตอร์ที่เขาเล่น

ในเรื่องมหาประลัยคนเกราะเหล็กหรือ Ironman ที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) รับบทนำนั้น ตัวละครได้รับนิสัยของนักแสดงมาเต็ม ๆ ที่ชอบกินขนม เช่น เขาเข้าฉากแบบมีถุงขนมติดมือไปด้วย แถมยังชวนฮัลค์ (Hulk) กับกัปตันอเมริกา (Captain America) กินขนมอีก

โบนัส: เดวิด ชวิมเมอร์เป็นคนคิดคำพูดหลุดปากว่า “ผม รอส ขอรับคุณ ราเชล เป็นภรรยา” ซะเอง

พวกเราหลายคนจำความโป๊ะที่รอส (Ross) เผลอทำไปตอนแต่งงานกับเอมิลี (Emily) คนเขียนบทกำลังคิดกันหัวแตกว่าจะจบซีซันสี่ยังไงดี แต่เดวิด ชวิมเมอร์ (David Schwimmer) ก็ช่วยพวกเขา หนึ่งในตอนนั้นก็คือ เขาเอาชื่อราเชล (Rachel) มาแทนที่เอมิลีซะงั้น แล้วบอกว่า “ราเชล แท็กซี่อยู่นี่แล้ว” คนสร้างซีรีส์ชอบบทนั้นมาก ก็เลยเอามาทำใหม่ในตอนสุดท้ายของซีซัน เป็นฉากแต่งงานในตำนาน

คุณคิดว่านักแสดงสามารถด้นสดตอนถ่ายทำหรือว่าทำตามที่ผู้กำกับบอกอย่างเคร่งครัดจะดีกว่า ?

นี่ ๆ ! ชีวิตสดใสมีปริศนาให้เล่นแล้วนะ เรามีให้คุณเล่นทุกวันเลย ลองไปดูสิ

เครดิตภาพพรีวิว Beauty and the Beast / Walt Disney Pictures
แชร์บทความนี้