12 ครั้งที่นักแสดงไม่ต้องแสดง แต่ได้โชว์อารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขาออกมา
การแสดงต้องการความทุ่มเทอย่างมากรวมถึงความทุ่มเททางด้านอารมณ์ด้วย ในบางครั้งนักแสดงไม่จำเป็นต้องจำบท แต่แสดงสิ่งที่พวกเขารู้สึกจริง ๆ ออกมา และหลายครั้งที่พวกเขาอินกับบทที่แสดงมากจนต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูจากอารมณ์ที่ได้เจอ
ที่ชีวิตสดใสเราได้พบภาพยนตร์ที่นักแสดงได้แสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมา
เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ ภาค 1
ในฉากที่พีต้าปรากฏตัวในโทรทัศน์และแคทนิสก็เกือบจะร้องไห้ออกมาเมื่อได้เห็นเขา อารมณ์ที่เธอแสดงออกมานั้นเป็นอารมณ์จริง ๆ
เรื่องของเรื่องคือเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) และจอร์ช ฮัทเชอร์สัน (Josh Hutcherson) ที่แสดงเป็นแคทนิสและพีต้ากลายเป็นเพื่อนรักกันในขณะถ่ายทำภาพยนตร์ชุดนี้ ในเรื่องเกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ ภาค 1 (The Hunger Games: Mockingjay — Part 1) ทั้งคู่ได้ถ่ายทำด้วยกันแค่ไม่กี่ฉากและเจนนิเฟอร์ก็คิดถึงเพื่อนของเธอมากจนการได้เห็นเขาบนหน้าจอโทรทัศน์ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนอารมณ์
เอ็มไอบี หน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล
ฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่เจ้าหน้าที่เคจะต้องรับข้อมูลสำคัญจากแฟรงค์ หมาพันธุ์ปั๊ก ทอมมี่ ลี โจนส์ (Tommy Lee Jones) ที่แสดงเป็นเจ้าหน้าที่เคต้องเขย่าตัวหมาจริง ๆ และพูดกับมันไปด้วย
ฉากนี้ตลกมากซะจนนักแสดงหนุ่มต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่หลุดขำออกมา คุณจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่เคที่มักจะจริงจังอยู่เสมอกำลังยิ้มอยู่
นางมารสวมปราด้า
เมื่อเมอรีล สตรีป (Meryl Streep) ต้องรับบทเป็นมิแรนด้า พรีสท์ลีย์ เธอได้ใช้เทคนิคการแสดงที่มีที่มาจากวิธีการแบบสตานิสลาฟสกี ด้วยวิธีการนี้นักแสดงจะต้องอินกับบทบาทและแรงจูงใจภายในและอารมณ์ของตัวละคร
ตลอดการถ่ายทำ เธอต้องเว้นระยะห่างจากเพื่อนร่วมงานของเธอเพื่อคงความเยือกเย็นให้เหมือนกับมิแรนด้า เธอสวมบทบาทของตัวละครได้มากซะจนทำให้แอน แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) ที่รับบทเป็นแอนดี้กลัว หลังจากจบการถ่ายทำเมอรีลถึงกับมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตซึ่งทำให้เธอเลิกใช้วิธีการนี้สำหรับบทบาทในหนังเรื่องอื่น
คิล ยัว ดาร์ลิ่งส์
แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ที่รับบทเป็นอัลเลน กินสเบิร์กสารภาพว่าเขาต้องด้นสดในการถ่ายทำเยอะมาก เพราะงั้นแล้วในฉากดราม่าที่ลูเซียน (เดน เดอฮาน (Dane DeHaan)) ได้บอกลาอันเลนโดยบอกด้วยว่าเขากำลังจะไปปารีส น้ำตาของแดเนียลนั้นออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ
ในการให้สัมภาษณ์ นักแสดงหนุ่มบอกว่าก่อนการถ่ายทำฉากนี้ จอห์น โครคิดาส (John Krokidas) ได้ให้แดเนียลและเดนนั่งอยู่คนละฝั่งในห้องและแยกอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องทำ ผู้กำกับบอกแดเนียลว่าอย่าปล่อยให้ลูเซียนจากไปไม่ว่ายังไงก็ตาม
เราทุกคนจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครที่แสดงโดยแดเนียลขอร้องให้เพื่อนอย่าจากเขาไป แต่เมื่อลูเซียนบอกอัลเลนอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อัลเลนก็ระเบิดน้ำตาออกมาและจากไป แดเนียลบอกว่าฉากนั้นไม่ได้เขียนไว้ในบท เขาแค่รู้สึกแบบนั้นและร้องไห้ออกมาจริง ๆ
จอว์ส
การแสดงความรู้สึกประหลาดใจและรู้สึกกลัวบนใบหน้าของเหยื่อฉลามคนแรกนั่นเป็นสีหน้าที่แท้จริง ในความเป็นจริง ซูซาน แบ็คลินี่ (Susan Backlinie) นักแสดงหญิงไม่ได้ถูกบอกมาก่อนว่าในฉากนี้เธอจะต้องถูกลากลงไปใต้น้ำ วิธีการนี้ช่วยให้ได้อารมณ์ที่แท้จริงของคนที่ถูกฉลามลากและดึงลงไปใต้น้ำ
เอ็ดเวิร์ด มือกรรไกร
ในตอนที่คัดเลือกนักแสดง จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) อยากจะลบภาพความเป็นไอดอลวัยรุ่นของตัวเขาทิ้งไป เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีสำหรับบทบาทนี้ เดปป์ดูหนังของชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) หลาย ๆ เรื่องเพื่อทำความเข้าใจวิธีการแสดงอารมณ์แบบที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมา
นักแสดงหนุ่มไม่มั่นใจว่าทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ชอบการแสดงของเขาหรือเปล่า ในระหว่างการถ่ายภาพยนตร์ ทีมงานพักอยู่ในคันทรีคลับแล้วก็มีหญิงสาวสองคนมาเคาะประตูห้องของเดปป์และถามหาทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) หลังจากนั้นเขาก็หยุดคิดไม่ได้เลยว่าแฮงค์สจะมาแทนที่เขา
ความกังวลของเขานั่นไม่สมเหตุสมผลเพราะความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับตัวละครที่เดปป์แสดงและทิม เบอร์ตันก็พบว่าการแสดงของเดปป์ดูน่าเชื่อถือมาก ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับเล่นมุกว่ารอยแผลเป็นที่อยู่บนใบหน้าของเดปป์นั้นเป็นของจริงเพราะเขาต้องใช้เวลาสักพักเพื่อที่จะทำความคุ้นเคยกับการสวมกรรไกรไว้ที่มือ
แวมไพร์ ทไวไลท์ 4 เบรกกิ้งดอว์น ภาค 1
โรเบิร์ต แพททินสัน (Robert Pattinson) ที่แสดงเป็นเอ็ดเวิร์ดบอกว่าในฉากฮันนีมูนโรแมนติกบางฉาก คริสเต็น สจ๊วต (Kristen Stewart) ตื่นเต้นมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่านักแสดงหญิงตกหลุมรักโรเบิร์ตขึ้นมาจริง ๆ และทั้งคู่ก็เดทกันในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ชุดนี้
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1
หนึ่งในฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือในภาพยนตร์ภาคเจ็ดซึ่งเป็นฉากการเต้นรำของแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ ตอนที่ทั้งคู่ต้องตามหาฮอร์ครักซ์ต่อหลังจากที่รอนทิ้งพวกเขาไป ตามบทแล้ว ฉากนี้จะต้องเน้นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเพื่อนซึ่งแข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงเวลาอันมืดมนนี้
ในหนังครบรอบ 20 ปีแฮร์รี่ พอตเตอร์ คืนสู่เหย้าฮอกวอตส์ (Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts) เอ็มม่า วัตสัน (Emma Watson) บอกว่าเธอกลัวที่จะแสดงในฉากนี้ เพราะเธอมั่นใจว่าพวกเขาจะรู้สึกอึดอัดที่จะต้องเต้นรำด้วยกัน
แต่ความจริงที่ว่าเอ็มม่าและแดเนียลรู้จักกันมามากกว่า 9 ปีก็ช่วยทั้งคู่เอาไว้ เอ็มม่าบอกว่าเธอแสดงฉากนี้กับนักแสดงคนอื่นไม่ได้เพราะมันมีความรู้สึกที่ซ่อนอยู่มากมายที่ถ่ายทอดออกมาในฉากนั้น
ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
ในระหว่างการถ่ายทำ วิล สมิธ (Will Smith) ซึ่งรับบทเป็นตัวละครหลักมีความเชื่อมโยงกับคริส การ์ดเนอร์ ตัวละครที่เขาแสดง นักแสดงหนุ่มอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวให้ออกมาดูน่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเขาก็รู้สึกประทับใจอย่างมากเมื่อตัวละครที่เขาแสดงได้รับตำแหน่งในบริษัทที่รอคอยมาเป็นเวลานาน และในฉากตอนจบ เขาก็ร้องไห้ออกมาจริง ๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้วิลมีอารมณ์ที่อ่อนไหวในเรื่องราวนี้คือการที่เจเดน (Jaden) ลูกชายอายุ 8 ขวบของเขาแสดงเป็นลูกชายของการ์ดเนอร์ซึ่งมีชีวิตยากจนอยู่กับพ่อของเขาด้วย
โบฮีเมียน แรปโซดี
ท่ามกลางข้อเท็จจริงอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตของเฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ (Freddie Mercury) ภาพยนตร์ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเขากับแมรี่ ออสติน (Mary Austin) บทบาทของนักแสดงหนุ่มและแฟนสาวของเขาได้รามี มาเลค (Rami Malek) และลูซี่ บอยน์ตัน (Lucy Boynton) มาแสดง
นักแสดงทั้งสองตกหลุมรักกันจริง ๆ และเริ่มเดทกันในขณะทำภาพยนตร์ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้รามีและลูซี่ถ่ายทอดอารมณ์และความอ่อนโยนที่ยังคงมีอยู่ระหว่างตัวละครทั้งสอง เมื่อทั้งคู่แยกทางและเป็นแค่เพื่อนกัน
สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ
ฉากจูบของแจ็ค สแปร์โรว์และเอลิซาเบธ สวอนซึ่งเอลิซาเบธพยายามจะเบี่ยงเบนความสนใจเขาด้วยการจูบเพื่อที่จะได้ใส่กุญแจมือเขาได้และส่งเขาขึ้นเรือแล้วทิ้งไว้กลายเป็นฉากที่โด่งดัง ต่อมา เคียร่า ไนท์ลีย์ที่แสดงเป็นสวอนสารภาพว่าเธอชอบจูบกับจอห์นนี่ เดปป์มาก
นักแสดงหญิงบอกว่า “ฉันคิดว่าตัวฉันตอนอายุ 14 ปีคงจะร้องออกมาด้วยความดีใจ มันมหัศจรรย์มาก! ผู้หญิงคนหนึ่งจะขออะไรไปมากกว่านี้ได้อีกล่ะ” ซึ่งตอนที่เธอตอบคำถามว่าเธอชอบจูบกับนักแสดงคนไหนมากที่สุดที่เธอได้แสดงด้วย เธอตอบว่าจอห์นนี่ เดปป์โดยเธอให้คะแนนเดปป์สูงกว่าออแลนโด บลูม (Orlando Bloom) ซึ่งเป็นคนรักของเธอที่แสดงหนังเรื่องนี้ด้วย
โจ๊กเกอร์
วาคีน ฟินิกซ์ (Joaquin Phoenix) ที่รับบทเป็นตัวละครหลักเป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาไม่ชอบซ้อมหรือนั่งอ่านบท ในภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ (Joker) เขาพยายามแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติโดยการใช้ความกังวลและความตื่นเต้นของตัวเอง
เมื่อวาคีนต้องมารับบทโจ๊กเกอร์ เขาต้องลบภาพจำของนักแสดงคนอื่นที่เคยรับบทเป็นโจ๊กเกอร์มาก่อนออกจากหัว และนั่นคือสิ่งที่ทำให้การแสดงของเขามีความเป็นเอกลักษณ์ และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาด้วยเพราะฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) ซึ่งแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ในเรื่องแบทแมน อัศวินรัตติกาล (The Dark Knight) เคยเป็นเพื่อนสนิทของเขา
วาคีนทำการค้นคว้าอย่างกว้างขวางถึงความผิดปกติทางบุคลิกภาพมากมายที่แม้แต่จิตแพทย์ก็ระบุไม่ได้ว่าบุคลิกภาพของเขาคืออะไร เขายังมีการซักซ้อมการหัวเราะหลาย ๆ แบบเพื่อแสดงความเป็นธรรมชาติของตัวละครของเขาให้ดีขึ้น วาคีนยังได้ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ของบุคลิกภาพตัวละครของเขาจนวันท้าย ๆ ของการถ่ายทำ
การแสดงของนักแสดงในภาพยนตร์เหล่านี้ดูสมจริงมาก ๆ รึเปล่า คุณเชื่อในการแสดงของพวกเขาไหม บอกเราในช่องคอมเมนต์ด้านล่าง