12 นักแสดงที่เล่นตัวก่อนที่จะตอบตกลงรับเล่นบทที่สำคัญในชีวิตของพวกเขา
เหล่านักแสดงชั้นยอดล้วนได้รับบทหนังอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พวกเขาจะปฏิเสธไปหลายงาน แม้กระทั่งตัวนักแสดงเองก็ยังจินตนาการออกได้ยากว่าหนังบางเรื่องจะประสบความสำเร็จในหมู่ผู้ชมได้อย่างไร ซึ่งก็มีบางครั้งที่พวกเขาได้เสียใจกับการตัดสินใจเลือกของตัวเอง แต่บางครั้งก็มีคนโน้มน้าวพวกเขา แล้วก็ลงเอยด้วยการตอบตกลงรับเล่นบทที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปเลยล่ะ
ที่ชีวิตสดใส พวกเราได้รวบรวมเรื่องราวของนักแสดงบางคนที่เกือบจะปฏิเสธบทอันน่าทึ่ง แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งได้โน้มน้าวพวกเขาให้รับเล่นบทนั้นได้ทันเวลา
1. มาร์ค รัฟฟาโล่ รับบทเป็น ฮัลค์ ในเรื่องดิ อเวนเจอร์ส
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ มาร์ค รัฟฟาโล่ (Mark Ruffalo) ได้ยืนยันว่าเขาเกือบจะปฏิเสธรับเล่นบทฮัลค์ (Hulk) เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรใหม่ ๆ ที่เขาจะสามารถนำมาใช้กับตัวละครได้ อย่างไรก็ตามผู้กำกับจอส วีดอน (Joss Whedon) ได้บอกกับเขาว่าเขาเชื่อจริง ๆ ว่าชายหนุ่มคือนักแสดงที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวละครตัวนี้ อีกทั้งโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) หรือไอร่อน แมน (Iron Man) เพื่อนร่วมงานของเขาก็ยุให้เขาตอบตกลงรับเล่นเพื่อที่พวกเขาจะได้ทำงานร่วมกัน
รัฟฟาโล่ได้ให้ผู้กำกับส่งบทจำนวนสองสามหน้ามาให้เขา และหลังจากที่อ่านบทแล้ว เขาก็มั่นใจที่จะรับเล่นมัน
2. เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ รับบทเป็น แคทนิส ในเรื่องเกมล่าเกม
เจนนิเฟอร์ (Jennifer) ไม่แน่ใจว่าเธอต้องการตอบตกลงรับเล่นบทในหนังแฟรนไชส์เรื่องดัง แต่แล้วแม่ของเธอเองที่ได้โน้มน้าวเธอในที่สุด
ลอว์เรนซ์ (Lawrence) ไม่สนใจว่าหนังจะดังแค่ไหน เพราะเธอดูแค่ตัวละครกับเนื้อเรื่อง ซึ่งหากเธอชอบ เธอก็รับเล่นมัน แต่แม่ของเธอชี้ให้เห็นว่าในกรณีนี้ เธอนั้นชอบเนื้อเรื่องของมัน ดังนั้นแล้วจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธรับเล่นบทนี้
3. ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ รับบทเป็น แจ็ค ในเรื่องไททานิค
หลังจากที่ถ่ายหนังเรื่องโรมิโอ + จูเลียต (Romeo and Juliet) ดิคาปริโอ้ (DiCaprio) ได้บอกกับพอล รัดด์ (Paul Rudd) หรือแอนท์-แมน (Ant-Man) ว่าเขาได้รับข้อเสนอให้ไปรับบทแจ็ค (Jack) ในหนังเรื่องไททานิค (Titanic) พ่อของรัดด์นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือไททานิค และนักแสดงหนุ่มก็ได้เล่าให้เขาฟังว่าเรื่องจริงนั้นของเรือลำนั้นเหลือเชื่อไปเลย ลีโอ (Leo) จึงไม่ค่อยมั่นใจที่จะรับเล่นบทนี้ แต่แล้วรัดด์ก็ได้พูดโน้มน้าวเขาว่า “นายควรทำมันนะ”
4. คริสเตียน เบล รับบทเป็น แบทแมน ในเรื่องแบทแมน บีกินส์
คริสเตียน เบล (Christian Bale) เพิ่งถ่ายหนังเรื่องหลอน...ไม่หลับ (The Machinist) เสร็จไป ตัวละครที่เขาเล่นทำให้เขาต้องลดน้ำหนักลงอย่างมาก แล้วนั่นก็เป็นเหตุผลที่ในตอนที่เขาถูกเสนอบทแบทแมน (Batman) ให้ เบลถึงขั้นไม่อยากรับฟังข้อเสนอด้วยซ้ำ แต่แล้วเป็นเพราะผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ที่ไปพูดโน้มน้าวเบลเป็นการส่วนตัว
5. แม็กกี้ จิลเลนฮาล รับบทเป็น อลิซาเบธ ในเรื่องดอนนี่ ดาร์โก้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้กำกับหนังเรื่อง ดอนนี่ ดาร์โก้ (Donnie Darko) ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าแม็กกี้ (Maggie) ลังเลที่จะตอบตกลงรับเล่นบทอลิซาเบธ ดาร์โก้ (Elizabeth Darko) โดยในตอนแรก แม็กกี้เชื่อว่าเธอได้รับการเสนอบทเพียงเพราะว่าเธอเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของหนุ่มเจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) ดังนั้นนักแสดงสาวจึงคิดว่าควรเสนอบทนี้ให้กับนักแสดงที่สำคัญมากกว่าเธอ
อย่างไรก็ตามวิธีที่แม็กกี้พูด ความมุ่งมั่นและความเสียสละ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ผู้กำกับตั้งใจที่จะพูดโน้มน้าวให้เธอตอบตกลงรับเล่นบทนี้
6. ปีเตอร์ ดิงค์เลจ รับบทเป็น ทีเรี่ยน แลนนิสเตอร์ ในเรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์
ในตอนที่เดวิด เบนิออฟ (David Benioff) ผู้อำนวยการสร้างและคนเขียนบทเรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) ของทางช่องเอชบีโอ (HBO) ได้เข้าไปพบปีเตอร์ ดิงค์เลจ (Peter Dinklage) เพื่อเสนอบททีเรี่ยน (Tyrion) ให้กับเขา นักแสดงหนุ่มนั้นลังเล โดยเขาไม่ต้องการที่จะเล่นเป็นตัวละครที่ไว้เครายาว ๆ และใส่รองเท้าหัวแหลม แถมยังถูกคิดแบบเหมารวมเรื่องคนตัวเล็ก
เบนิอออฟได้รับรองกับปีเตอร์ว่ากรณีเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับซีรีส์เรื่องนี้ เพราะตัวละครของเขาไม่ใช่ทั้งฮีโร่และวายร้าย เขามีจุดอ่อนและจุดแข็งเหมือนกับมนุษย์คนอื่น ๆ อย่างที่เราทราบกันดี ดังนั้นแล้วความซับซ้อนของตัวละครทีเรี่ยนจึงได้โน้มน้าวให้ดิงค์เลจรับเล่นบทนี้
7. เพนน์ แบดจ์ลีย์ รับบทเป็น แดน ฮัมฟรีย์ ในเรื่องแสบใสไฮโซ
เพนน์ แบดจ์ลีย์ (Penn Badgley) เกือบปฏิเสธหนึ่งในบทบาทที่ถูกจดจำมากที่สุดของเขา โดยในการให้สัมภาษณ์ เขาได้กล่าวว่าตัวเขาหงุดหงิด ไม่มีเงิน และรู้สึกหดหู่ แต่พ่อแม่กับผู้จัดการของเขาได้โน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าบทตัวละครแดน (Dan) คือสิ่งที่เขาต้องการ นักแสดงหนุ่มได้ตอบปฏิเสธไป แต่ผู้กำกับไม่เจอคนที่จะมาเล่นบทนี้ได้ดีกว่าเขา แล้วในที่สุดแบดจ์ลีย์ก็ตอบตกลง
8. แดเนียล เดย์-ลูอิส รับบทเป็น บิล ในเรื่องจอมคนเมืองอหังการ์
มาร์ติน สกอร์เซซี่ (Martin Scorsese) มั่นใจว่าเดย์-ลูอิส (Day-Lewis) ต้องเล่นบทนี้ ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) ได้ไปรับแดเนียล (Daniel) ที่บ้านของเขา พวกเขาเดินไปรอบ ๆ เมืองนิวยอร์กเป็นเวลานาน 10 นาทีโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ จนกระทั่งลีโอจึงกล้าพูดขึ้นมา แล้วในที่สุดพวกเขาก็ออกไปทานมื้อเย็นกับโทบี้ แม็คไกวร์ (Tobey Maguire) หรือสไปเดอร์-แมน (Spider-Man) ซึ่งในระหว่างพวกเขา 2 คน พวกเขาก็สามารถพูดโน้มน้าวใจเขาได้
9. วิกโก้ มอร์เทนเซ่น รับบทเป็น อารากอร์น ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์
วิกโก้ มอร์เทนเซ่น (Viggo Mortensen) ได้ปฏิเสธบทอารากอร์น (Aragorn) ไปแล้ว เพราะเขาไม่อยากไปถ่ายหนังไกลบ้านมากนัก แต่ทว่าลูกชายของเขาได้เห็นบทหนังอยู่บนโต๊ะในครัว เขาได้พูดเกี่ยวกับนิยายเรื่องลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ (Lord of the Rings) อย่างหลงใหล แล้วได้พูดโน้มน้าวให้พ่อของเขาตอบตกลงรับเล่นบทนี้ในที่สุด
10. ทอม ครูซ รับบทเป็น มาเวอริค ในเรื่องท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า
เพื่อโน้มน้าวให้ทอม ครูซ (Tom Cruise) ยอมตอบตกลงรับเล่นบทมาเวอริค (Maverick) ในหนังเรื่องท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า (Top Gun) โปรดิวเซอร์ก็ได้พาเขาบินไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียกับผู้เชี่ยวชาญ นักบินอยากจะแกล้งหนุ่มครูซ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามมอบประสบการณ์การบินอันสุดขั้วให้กับเขา ซึ่งพวกเขาคิดว่าน่าจะทำให้เขากลัว แต่พวกเขารู้จักครูซน้อยไป เพราะทันทีที่นักแสดงหนุ่มลงจากเครื่องบิน เขาได้โทรหาโปรดิวเซอร์เพื่อยืนยันว่าเขาจะรับเล่นบทนี้
11. เมอรีล สตรีป รับบทเป็น มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ในเรื่องมาร์กาเร็ต แธตเชอร์...หญิงเหล็กพลิกแผ่นดิน
เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) ไม่อยากเล่นเป็นแธตเชอร์ (Thatcher) เพราะเธอไม่ชอบตัวละครตัวนี้ แต่ทว่าผู้กำกับได้พูดโน้มน้าวเธอว่านั่นคือเหตุผลที่ทำไมเธอจึงควรรับเล่นบทนี้ เพราะเมอรีลจะมีโอกาสนำเสนอภาพของแธตเชอร์ในแบบที่เธอต้องการได้ สตรีปจึงคิดว่ามันคือโอกาสดีที่จะแสดงให้เห็นว่าตัวเธอดูไม่น่าพึงพอใจมากเท่าใด
12. คริส อีแวนส์ รับบทเป็น กัปตันอเมริกา ในเรื่องกัปตันอเมริกา:
อเวนเจอร์ที่ 1
แม่ของคริส อีแวนส์ (Chris Evans) คือคนที่โน้มน้าวให้นักแสดงหนุ่มตอบตกลงรับเล่นบทพระเอกในหนังเรื่อง กัปตันอเมริกา (Captain America) คริสรู้สึกกลัวที่จะโด่งดังมากเกินไป แล้วก็ไม่สามารถออกไปเดินเล่นกับสุนัขของเขาโดยที่ไม่ถูกรบกวนได้ แต่เมื่อเขาขอคำแนะนำจากแม่ของตัวเอง เธอได้พูดโน้มน้าวว่านี่คือโอกาสที่เขาจะได้ทำงานเป็นนักแสดงไปทั้งชีวิต แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่ายเงินค่าเช่าบ้านอีกต่อไป
โบนัส: จูเลีย โรเบิร์ตส์ ในเรื่องเฟรนส์
ในตอนที่แมทธิว เพอร์รี่ย์ (Matthew Perry) หรือแชนด์เลอร์ (Chandler) เข้าไปหาจูเลีย โรเบิร์ตส์ (Julia Roberts) เพื่อถามว่าเธอสนใจที่จะไปโผล่ในซีรีส์เรื่องเฟรนส์ (Friends) หรือไม่ จูเลียได้ตอบติดตลกไปว่า “เขียนบทความเรื่องฟิสิกส์ควอนตัมให้ฉันสิ แล้วฉันจะทำมัน” จากนั้นแมทธิวได้เขียนมันและส่งแฟกซ์ให้กับเธอในวันรุ่งขึ้น เมื่อถึงจุดนั้น จูเลียก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
คุณคิดว่าหนังหรือซีรีส์เรื่องไหนจะไม่ประสบความสำเร็จ หากไม่มีนักแสดงเหล่านั้นอยู่ในเรื่องนั้น ?
นี่ ๆ ! ตอนนี้ทางชีวิตสดใสมีแบบทดสอบของจริงแล้วนะ เราเผยแพร่ใหม่ทุกวันเลยด้วย ลองไปดูกันได้เลย