13 ดาราชายและหญิงชื่อดังที่ต้องต่อสู้เพื่อความสำเร็จของตนเอง
เส้นทางสู่ความมีชื่อเสียงไม่ใช่เรื่องง่าย ความสามารถในการรับมือกับความล้มเหลวและไม่สูญเสียศรัทธาในตัวเองเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากในทุกอาชีพ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพการแสดง เพราะแม้แต่ดาราฮอลลีวูดอันโด่งดังและได้รับรางวัลออสการ์ก็ยังต้องรับมือกับการถูกปฏิเสธมากมายในช่วงเริ่มต้นของอาชีพ แล้วพวกเขาก็มักจะเจอกับประตูที่ปิดใส่หน้าพวกเขาอยู่บ่อย ๆ
พวกเราที่ชีวิตสดใสคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ในการไล่ตามความฝันของคุณ
แครี่ มัลลิแกน
แครี่ มัลลิแกน (Carey Mulligan) ถูกปฏิเสธจากโรงเรียนการละครที่เธอได้สมัครทั้งหมด ต่อมาเธอได้เรียกการไปออดิชั่นที่ศูนย์ละครลอนดอนว่า “ความทรมาน” ตัวแทนของเธอได้แนะนำให้เธอลองไปเป็นพิธีกรในรายการเด็ก แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจกับการถูกปฏิเสธ
ปัจจุบันเธอเป็นผู้ชนะรางวัลบาฟต้า (BAFTA) สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง เรียนไปปวดหัว...มีเธอดีกว่า และรางวัลจากสถาบันนักจารณ์สำหรับนักแสดงสาวผู้มีแวว ซึ่งหลายคนรู้จักแครี่ มัลลิแกน ในบทของเดซี่ (Daisy) ในเรื่อง เดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก
ลิซ่า คูโดรว์
ก่อนประสบความสำเร็จในหนังเรื่อง เฟรนส์ ลิซ่า คูโดรว์ (Lisa Kudrow) ถูกไล่ออกจากซิทคอมเรื่อง เฟรเชอร์ ในวันที่สามของการซ้อมตอนแรก โดยผู้สร้างได้ตัดสินใจเลือกนักแสดงคนอื่นมาแทนที่เธอ แม้ว่าลิซ่าจะยอมรับว่าตัวเธอนั้นเศร้ามาก แต่เธอก็มีพลังที่จะก้าวต่อไป
หลายปีต่อมา ลิซ่าได้รับรางวัลเอ็มมี่อะวอร์ดในสาขานักแสดงสมทบหญิงจากเรื่อง เฟรนส์ นอกจากนั้นตัวเธอและเพื่อนร่วมงานของเธอก็เป็นดาราทีวีที่มีรายได้สูงสุดในขณะนั้น โดยในแต่ละตอนของซีซันที่ 9 และ 10 ทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์
แจ็ก นิโคลสัน
เพื่อให้ใกล้ชิดกับโลกภาพยนตร์มากขึ้น แจ็ก นิโคลสัน (Jack Nicholson) ในวัย 20 ปี ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยที่แผนกแอนิเมชั่นที่เอ็มจีเอ็ม (MGM) ต่อมาเขาเริ่มเรียนการแสดงและการพูด จากนั้นในช่วงปลายยุค 50 เขาเริ่มมีบทบาทในการแสดงหนัง แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย
นิโคลสันเริ่มมีชื่อเสียงหลังจากหนังเรื่อง ขี่ผิดสูตร ที่โด่งดังได้ออกฉาย ซึ่งเขามีอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว นี่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความก้าวหน้าสำหรับเขา
ฮิลารี่ สแวงก์
ก่อนที่เธอจะได้รับบทใหญ่ครั้งแรก ฮิลารี่ สแวงก์ (Hilary Swank) ได้แสดงในซีรีส์ตอนเล็ก ๆ ในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักแสดง เธอรับบทเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวในซีรีส์เรื่อง เบเวอร์ลีฮิลส์, 90210 แต่แทนที่จะเป็นงานแสดง 2 ปีตามสัญญา ตัวละครของเธอถูกตัดออกหลังจากฉายไป 16 ตอน ซึ่งสแวงก์ได้กล่าวในภายหลังว่าเธอเสียใจมาก และคิดว่าถ้าเธอไม่ดีพอสำหรับหนังเรื่อง เบเวอร์ลี่ฮิลส์, 90210 เธอก็คงไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย
แต่ในปีถัดมาดาราสาวก็มีได้รับบทนำในเรื่อง ผู้ชายนี่หว่า ยังไงก็ไม่ร้องไห้ ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ และอีก 5 ปีต่อมาเธอก็ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่สองจากหนังเรื่อง เวทีแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรี
นาโอมิ วัตส์
หลังจากรับบทมากมายในหนังและละครโทรทัศน์ของออสเตรเลีย นักแสดงสาวจึงได้ตัดสินใจมาลองเสี่ยงโชคในแอลเอ แต่ว่างานแสดงแรกของเธอในฮอลลีวูดนั้นไม่ได้ทำให้เธอโด่งดัง นาโอมิ (Naomi) กล่าวว่าเธอมีเงินน้อยมาก ๆ จนไม่สามารถจ่ายค่าเช่าห้องหรือประกันสุขภาพได้
แต่ที่แย่ที่สุดคือเธอถูกปฏิเสธบ่อยมาก ๆ จนเธอเริ่มคิดว่าตัวเธอไม่มีอะไรดีเลย ในระหว่างการออดิชั่น เธอมักจะดูเครียดเกินไป หรือไม่ก็หัวเราะคิกคักมากไป และทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด แต่แล้วหนังเรื่อง ปริศนาแห่งฝัน ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความก้าวหน้าของเธอ ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลครั้งแรกและข้อเสนองานแสดงมากมาย
แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์
แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์ (Anthony Hopkins) ได้ตัดสินใจเป็นนักแสดงเมื่ออายุ 15 ปี แต่ว่าเขาได้กลายเป็นคนดังจริง ๆ ก็คือหลังจากที่เขาอายุ 50 ปี เขาเคยแสดงอยู่ที่โรงละครในอังกฤษ ต่อมาในปี 1970 เขาตัดสินใจย้ายไปฮอลลีวูด แต่ส่วนใหญ่เขามักจะปรากฏตัวอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ เขารู้สึกท้อแท้และกลับบ้าน พร้อมทั้งคิดว่าบทบาทนี้ในชีวิตของเขาคงถูกปิดไปตลอดกาล
จากนั้นเขาก็ได้รับบทเป็นฮันนิบาล เล็กเตอร์ (Hannibal Lecter) ในหนังเรื่อง อำมหิตไม่เงียบ โดยผู้กำกับต้องการสัตว์ประหลาดและได้เลือกฮอปกินส์ให้มารับบท ทำให้ในปี 1992 เขาได้รับรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในบทนี้
มินดี้ คาลลิ่ง
มินดี้ คาลลิ่ง (Mindy Kailing) โด่งดังหลังจากที่รับบทเป็นเคลลี่ คาปูร์ (Kelly Kapoor) ในหนังเรื่อง ดิออฟฟิศ อีกทั้งเธอยังเป็นนักเขียน ผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับรายการอีกด้วย นอกจากนี้มินดี้ เพื่อนร่วมงานของเธอ และโปรดิวเซอร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่อะวอร์ด สาขารายการตลกยอดเยี่ยมที่สุด 6 ครั้งติดต่อกัน
ในการให้สัมภาษณ์ นักแสดงสาวเคยเล่าว่าเธอนั้นถูกไล่ออกจากซิทคอมที่โปรดิวเซอร์ต้องการให้เธอเล่นเป็นตัวเอง โดยเหตุผลก็คือ เธอดูไม่ตลกหรือดึงดูดใจไม่มากพอที่รายการจะเน้นไปที่ตัวเธอได้
เคต วินสเล็ต
เคต วินสเล็ต (Kate Winslet) เล่นละครแบบสมัครเล่นในโรงเรียนและโรงละครท้องถิ่นเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก แต่เส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์ของเธอก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเคตบอกว่าเธอมีน้ำหนักตัวเยอะ เพื่อนร่วมชั้นเรียกเธอว่าอ้วนและล้อเลียนรูปร่างหน้าตาของเธอ อีกทั้งประสบการณ์การแสดงของเธอก็เพียงแต่เพิ่มความสนใจที่เธอไม่ต้องการมากขึ้น และเธอมักถูกปฏิเสธเพราะน้ำหนักที่เกินของตัวเธออยู่บ่อย ๆ
ในปี 1992 เธอได้รับบทเป็นลูกสาวของหญิงอ้วนคนหนึ่งในเรื่อง แองโกลแซกซอน แอดทิจูด โดยระหว่างการถ่ายทำ ผู้กำกับบอกว่าเคตดูคล้ายกับนักแสดงที่แสดงเป็นแม่ของเธอมาก ๆ จึงทำให้ดาราสาวลดน้ำหนัก บทบาทที่โดดเด่นของเธอคือเรื่อง ทรพีนี้ เพื่อรักเรา และก็โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากรับบทเป็น โรส (Rose) ในเรื่อง ไททานิค
เฟร็ด แอสแตร์
เฟร็ด แอสแตร์ (Fred Astaire) เป็นนักเต้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หนัง แต่เขาโด่งดังค่อนข้างช้า แม้จะประสบความสำเร็จจากการเต้นในช่วงแรก ๆ แต่อาชีพในวงการหนังก็ยังคงหลุดมือไป โดยเขาได้ออดิชั่นมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้โปรดิวเซอร์สนใจได้ ตอนนั้นผู้บริหารสตูดิโอรายหนึ่งได้เขียนว่า “ร้องเพลงไม่ได้ แสดงก็ไม่ได้ หัวล้านเล็กน้อย และก็เต้นได้นิดหน่อย”
เมื่อเขาอายุมากกว่า 30 ปี เขาได้ลองเสี่ยงโชคในฮอลลีวูดเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้เขาโชคดี เพราะเขาได้รับบทเล็ก ๆ ที่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ให้กับเขา เฟร็ดได้แสดงคู่กับจินเจอร์ โรเจอร์ส (Ginger Rogers) และการเต้นรำของพวกเขาในเรื่อง ฟลายอิ้ง ดาวน์ ทู ริโอ ก็ได้ขโมยฉากเด่นของทั้งเรื่องไป
เคียร่า ไนท์ลีย์
เคียร่า ไนท์ลีย์ (Keira Knightley) เกิดในครอบครัวนักแสดงและเธอได้แสดงในหนังตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เธอโด่งดังมากหลังจากที่แสดงในเรื่อง ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน แม้ว่าเธอจะมีชื่อเสียง แต่เธอก็ถูกปฏิเสธมาหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งเธอยังกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอจะไม่แนะนำให้ลูกสาวของเธอเป็นนักแสดง เพราะจำนวนครั้งที่เธอถูกปฏิเสธนั้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก
“และก็ไม่สำคัญหรอกว่าคุณเป็นคนแบบไหน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ส่งผลกระทบ แม้ว่าคุณจะประสบความสำเร็จ คุณก็ยังต้องผ่านการถูกปฏิเสธมามากมาย”
เคอร์รี่ วอชิงตัน
ก่อนที่เธอจะได้รับบทนำในเรื่อง เธอชื่อโลกีย์ เคอร์รี่ วอชิงตัน (Kerry Washington) ถูกไล่ออกจากงานแสดงอื่น ๆ 2 รายการ โดยบทในตอนแรกที่มีเธอได้เปลี่ยนไป และตามคำบอกเล่าของนักแสดงสาว ในทั้งสองรายการนั้น กรรมการที่คัดเลือกอยากให้เธอมีภาพลักษณ์แบบเหมารวมมากกว่า และเธอก็ไม่โอเคกับเรื่องนั้น
ต่อมาเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่อะวอร์ดสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และรางวัลลูกโลกทองคำ โดยเธอได้ปรากฏตัวอยู่ในหนังฟอร์มยักษ์ และทำงานร่วมกับเควนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino)
แม็กกี้ จิลเลนฮาล
ตลอดอาชีพการแสดงของเธอ แม็กกี้ จิลเลนฮาล (Maggie Gyllenhaal) มักต้องรับมือกับความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธออยู่บ่อย ๆ นี่คือเหตุผลที่เธอไม่ได้รับบทบางบท อย่างเช่นบทโรแมนติก เธอได้รับการยอมรับครั้งแรกและได้รับรางวัลแรกจากเรื่อง เปลือยรัก อารมณ์พิลึก แต่เธอก็ยังผิดหวังกับหลาย ๆ อย่างในวงการฮอลลีวูด
เธออายุ 37 ปีตอนที่ถูกบอกว่าตัวเธอนั้นแก่เกินไปที่จะแสดงเป็นกิ๊กของชายวัย 55 ปี ต่อมาในปี 2021 แม็กกี้ได้เปิดตัวในฐานะผู้กำกับ โดยหนังของเธอคือเรื่อง ลูกสาวที่สาบสูญ ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิส
รีส วิเธอร์สปูน
รีส วิเธอร์สปูน (Reese Witherspoon) นักแสดงและโปรดิวเซอร์ที่ตอนนี้อาชีพการงานอยู่ในจุดสูงสุด ได้กล่าวไว้ว่าเธอมักจะถูกมองข้ามตั้งแต่เริ่มอาชีพนี้ และเธอก็ได้ยินคำว่า “ไม่” มามากมาย โดยเธอมักจะถูกบอกว่าตัวเธอนั้นคือตัวเลือกที่สองสำหรับบทนี้ ดังนั้นเธอจึงแย่กว่านักแสดงคนอื่น ๆ อยู่เสมอ แต่เธอก็พยายามต่อไปและไม่เคยปล่อยให้เรื่องแบบนี้มาทำอะไรเธอ
คุณคิดว่าคุณสมบัติใดสำคัญที่สุดสำหรับการเป็นนักแสดงกันนะ ?
คุณมีภาพถ่ายหรือเรื่องราวเจ๋ง ๆ แล้วอยากจะนำเสนอกับทางชีวิตสดใสหรือไม่ ? ส่งทั้งหมดมาที่นี่และตอนนี้ได้เลย พวกเรากำลังรอคุณอยู่นะ !