ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

14 นักแสดงที่ยอมเปลี่ยนโฉมตัวเองเป็นอย่างมากเพื่อเข้าถึงบทบาทให้มากที่สุด

ในบรรดาการแสดงที่ยากจะลืมเลือนในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ มีบางเรื่องที่น่าจดจำเป็นพิเศษเพราะนักแสดงพยายามอย่างมากในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกเขา เช่น อดอาหารเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือทำให้น้ำหนักขึ้นมากๆ จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ อีกต่อไป

นี่คือ 14 ตัวอย่างของนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับงานของพวกเขาอย่างน่าประทับใจ

1. จาเร็ด เลโต (Jared Leto) — Dallas Buyers Club (2012)

จาเร็ด เลโตลดน้ำหนักไป 13 กิโลกรัมเพื่อบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้และเขาก็ได้รับรางวัลออสการ์ด้วย เลโตเข้าถึงตัวละครของเขาตลอดการถ่ายทำ เขาถึงขนาดไปซื้อของที่ร้านขายของในขณะที่สวมบทบาทอยู่และมันดึงดูดสายตาคนได้ด้วย

“ร่างกายของคุณต้องผ่านช่วงที่แปลกประหลาด มันอาจจะดูฟังไม่ขึ้น แต่สำหรับผม เรื่องการลดน้ำหนักให้มากที่สุดนั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับการได้เข้าถึงตัวละครนั้นๆ” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์

Chapter 27 (2007)

ในขณะที่การรับบทเป็นมาร์ก เดวิด แชปแมน (Mark David Chapman) (ฆาตกรที่ฆ่าจอห์น เลนนอน) จาเร็ด เลโตต้องเพิ่มน้ำหนัก 30 กิโลกรัม ซึ่งทำให้เขามีคอเลสเตอรอลสูง เป็นโรคเกาต์ ปวดหลัง และหัวใจเต้นผิดปกติ เพราะน้ำหนักที่เยอะขึ้นมาก เขาถึงขั้นต้องนั่งรถเข็นหลายครั้งเลยด้วย นักแสดงยังกล่าวอีกว่าเขาไม่เคยฟื้นสภาพร่างกายทั้งหมดได้อย่างเต็มที่หลังจากที่เพิ่มน้ำหนักแล้ว

2. ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron) — Monster (2003)

เธอไม่เพียงแต่ต้องเพิ่มน้ำหนัก 13 กิโลกรัมสำหรับบทนี้ แต่ ชาร์ลิซ เธอรอน ยังต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างมากเพื่อรับบท ไอลีน วอร์นอส (Aileen Wuornos) ซึ่งนี่รวมถึงการย้อมผม โกนขนคิ้ว สวมฟันปลอม และแต่งหน้าที่ทำให้ผิวของเธอดูมีริ้วรอยและมีอายุมากขึ้น

เธอเลือกที่จะเพิ่มน้ำหนักแทนการใส่ “ชุดที่ทำให้ดูอ้วน” เพื่อที่จะได้ “เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง” ในบทไอลีน

3. คริสเตียน เบล (Christian Bale) — American Hustle (2013)

เพื่อให้เข้าถึงลักษณะทางกายภาพของตัวละครของเขา คริสเตียน เบล ต้องเพิ่มน้ำหนักมากกว่า 18 กิโลกรัม หวีผมเรียบปัดเป๋, ทำตัวงอ และจบลงด้วยหมอนรองกระดูกสองแผ่นเคลื่อนทับเส้นประสาท

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการกินอาหารของเขา เขาตอบง่ายๆ ว่า “ผมกินพายเยอะเลยล่ะ” เขายังยอมรับด้วยว่าการลดน้ำหนักใช้เวลานานกว่า 6 เดือน ไม่ใช่ 2 เดือนอย่างที่คิดไว้แต่แรก

The Machinist (2004)

สำหรับบทบาท เทรเวอร์ เรสนิค (Trevor Reznik) คริสเตียน เบล ต้องลดน้ำหนักถึง 28 กิโลกรัม ผู้ผลิตภาพยนตร์ยังกล่าวอีกว่าเบลต้องการลดให้เหลือ 45 กิโลกรัม แต่พวกเขาไม่ยอมให้เขาลดเหลือน้อยกว่า 56 กิโลกรัมเพราะกลัวว่าสุขภาพของเขาจะแย่และมันอันตรายมากเกินไป

ผู้กำกับแบรด แอนเดอร์สัน (Brad Anderson) ตกใจมากที่เจอเบลในวันแรกของการถ่ายทำ เนื่องจากเขาไม่ได้ขอให้เบลลดน้ำหนักมากขนาดนั้น สิ่งที่ตลกคือ นักแสดงสารภาพว่าสนุกกับกระบวนการนี้ และอีกหนึ่งปีต่อมา เขากลับมาเพิ่มน้ำหนักอีกครั้งเพื่อรับบทบาทแบทแมนในเรื่อง Batman Begins

4. กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow) — Shallow Hal (2001)


สำหรับบทบาทของเธอในฐานะผู้หญิงอ้วน พัลโทรว์ต้องแต่งหน้านานถึง 4 ชั่วโมง เธอยังเดินไปยังที่สาธารณะด้วยสภาพนั้น โดยบอกว่าไม่มีใครจำเธอได้หรือสบตากับเธอ

5. แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ (Matthew McConaughey) — Dallas Buyers Club (2012)

นักแสดงชายที่ชนะรางวัลออสการ์คนนี้ต้องลดน้ำหนักไป 21 กิโลกรัมเพื่อรับบทบาทผู้ป่วยโรคเอดส์ เขาลดน้ำหนักได้ 4 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์แรกด้วยการเผาผลาญ 1,800 แคลอรีต่อวัน อาหารของเขาคือ: ปลาและผัก 141 กรัม

เขาบอกว่ามันยากมากที่จะลดน้ำหนักให้เหลือ 72 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้น การลดให้เหลือ 68 กิโลกรัมก็ไม่ยากแล้ว ตามที่เขาพูด เขาอาจจะ “สูญเสียพลังงานไป 35%

6. เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) — Southpaw (2015)

นักแสดงหนุ่มต้องเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วเพื่อแสดงบทบาทนักมวย บิลลี่โฮป (Billy Hope) เขาทำได้โดยออกกำลังกายวันละสองครั้ง 7 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 5 เดือน หลังจากที่เขาลดน้ำหนักได้ 29 กิโลกรัมตอนที่รับบทบาทในเรื่อง Nightcrawler การที่ต้องซิทอัพวันละ 2,000 ครั้ง วิ่ง 12 กิโลเมตร และคอร์/เวทเทรนนิ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกายที่เข้มข้นของเขา

7. เคท แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) — I’m Not There (2007)

นักแสดงหญิงคนสวยคนนี้ต้องแสดงเป็นบ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) ในช่วงกลางทศวรรษที่ 60 ซึ่งสำหรับบทบาทนี้ เธอต้องสวมวิก แว่นกันแดด และใส่เสื้อผ้าผู้ชาย เธอยังสวมถุงเท้ายาวใต้กางเกงแบบผู้ชาย และกล่าวว่า “มันช่วยให้เธอเดินเหมือนผู้ชาย”

8. เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (Edward Norton) — American History X (1998)

เอ็ด นอร์ตัน ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ได้โกนหัวจนเกลี้ยงเกลาและเพิ่มน้ำหนัก 14 กิโลกรัมเพื่อรับบท เดเร็ก วินยาร์ด (Derek Vinyard) ตัวละครที่ตัดผมสกินเฮด นักแสดงชายคนนี้กินวันละ 7 ครั้ง และส่วนใหญ่เขากินไก่ ไก่งวง และปลา

9. มาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) —The Godfather (1972)

สำหรับการแสดงที่ยากจะลืมเลือน มาร์ลอน แบรนโด เขาได้รับแรงบันดาลใจจาก แฟรงค์ คอสเตลโล (Frank Costello) แก๊งสเตอร์ในชีวิตจริง โดยเลียนแบบเสียงที่โดดเด่นของเขา นอกจากการลดน้ำหนักแล้ว เขายังใช้สำลียัดที่แก้ม ใส่ฟันยางที่ทำโดยทันตแพทย์ และแต่งหน้าเพื่อช่วยให้เขาดูแก่ขึ้น ความพยายามทั้งหมดนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่สอง

10. แอล เฟนนิง (Elle Fanning) — Three Generations (2015)

เธอเล่นเป็นคนข้ามเพศในภาพยนตร์ ซึ่งเธอสวมเสื้อผ้าผู้ชายพร้อมกับทำผมสีเข้มและทำผมสั้น แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่การแสดงของแอลก็ได้รับการยกย่องโดยทั่วไป และทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในดาราฮอลลีวูดชื่อดัง

11. โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) — Raging Bull (1980)

เดอ นีโร เพิ่มน้ำหนัก 27 กิโลกรัมเพื่อรับบทเป็น เจค ลามอตตา (Jake LaMotta) นักมวยอาชีพ ในการเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทของเขา โรเบิร์ต เดอ นีโรต้องผ่านการฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก จากนั้นเข้าร่วมชกมวยบรู๊คลิน บ๊อกซิ่งของจริง 3 แมทช์และชนะ 2 รายการ

เรื่องน่ารู้: โรเบิร์ต เดอ นีโร ทำซี่โครงของ โจเปสซี (Joe Pesci) หักโดยไม่ได้ตั้งใจในฉากชก ฉากนี้ปรากฏในภาพยนตร์: โดย รีโร ต่อย เปสซี ที่ด้านข้าง เปสซีโอดครวญและมีการตัดฉากนี้ไปที่อีกมุมหนึ่งอย่างรวดเร็ว

12. รูนนี่ มาร่า (Rooney Mara) — The Girl with the Dragon Tattoo (2011)

รูนี่ มาน่า ลดน้ำหนักไปเยอะมากสำหรับบทบาท ลิซเบ็ธ (Lisbeth) แม้ว่าผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) จะไม่เคยขอก็ตาม เธอทำเพื่อให้ตัวละครของเธอดูผอมและเห็นโครงร่างชัด

นอกจากนี้ ทุกการเจาะที่อยู่บนร่างกายของเธอนั้นเป็นของจริง เธอยังเก็บมันตรงบริเวณหัวนมขวาไว้เผื่อกรณีที่อาจมีภาคต่อ “มันไม่ใช่ตรงบริเวณที่คุณอยากจะเจาะซ้ำแน่ๆ” เธอกล่าว

13. วินเซนต์ โดนอฟรีโอ (Vincent D’Onofrio) — Full Metal Jacket (1987)

วินเซนต์ โดนอฟรีโอ ต้องเพิ่มน้ำหนัก 32 กิโลกรัมสำหรับบทบาท ไพรเวท ไพล์ (Private Pyle) โดยใช้เวลา 7 เดือนในการเพิ่มน้ำหนักและใช้เวลา 9 เดือนในการลดน้ำหนัก มีการกล่าวว่านี่เป็นน้ำหนักที่มากที่สุดที่ต้องเพิ่มสำหรับแสดงในภาพยนตร์ ซึ่งมากกว่าพยายามเรื่องน้ำหนักที่ เดอนีโร ทำได้เพื่อรับบทในเรื่อง Raging Bull ในปี 1980

14. ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) — Philadelphia (1993)

ทอม แฮงค์ส ซึ่งแสดงเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ ต้องลดน้ำหนักเกือบ 14 กิโลกรัมเพื่อให้ดูผอมแห้งอย่างเหมาะสมกับฉากในห้องพิจารณาคดีของเขา มีรายงานว่า แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ (Matthew McConaughey) โทรหาแฮงค์สเพื่อขอคำแนะนำก่อนที่จะถ่ายเรื่อง Dallas Buyers Club.

นักแสดงคนไหนที่คุณประทับใจมากที่สุด? คุณรู้จักนักแสดงที่เปลี่ยนตัวเองเป็นอย่างมากเพื่อเข้าถึงบทบาทบา้างไหม? แบ่งปันความคิดเห็นของคุณกับเราในช่องคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!

เครดิตภาพพรีวิว The Machinist / Filmax Group, Reign of Fire / Spyglass Entertainment
ชีวิตสดใส/ภาพยนตร์/14 นักแสดงที่ยอมเปลี่ยนโฉมตัวเองเป็นอย่างมากเพื่อเข้าถึงบทบาทให้มากที่สุด
แชร์บทความนี้