9 นักแสดงที่อาชีพของพวกเขาถูกทำลายจากบทบาทการแสดงบทบาทเดียว
เส้นทางสู่ชื่อเสียงอันโด่งดังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับนักแสดงส่วนใหญ่ เพื่อที่จะทำให้ผู้กำกับชื่อดังอยากจะชวนพวกเขาไปร่วมแสดงในภาพยนตร์ด้วย นักแสดงจะต้องทำงานกับผู้กำกับที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักก่อน แต่บางครั้งการได้เล่นหนังที่ได้รีวิวแย่ ๆ และกลายเป็นสิ่งที่แปดเปื้อนชื่อเสียงของพวกเขาก็เกิดขึ้นหลังจากที่เล่นหนังที่ประสบความสำเร็จไปแล้วหลายเรื่อง และไม่ใช่นักแสดงทุกคนที่จัดการตัวเองเพื่อที่จะออกมาจากความผิดพลาดนี้ได้
ชีวิตสดใสได้รวบรวมรายชื่อของนักแสดงซึ่งอาชีพของพวกเขาดิ่งลงเหวหลังจากได้เล่นบทที่ไม่ดี
เดมี่ มัวร์ - จี.ไอ. เจน
ภาพยนตร์เรื่องวิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (Ghost ) ออกฉายในปี 1990 และมันไม่ได้แค่ทำให้เดมี่ มัวร์ (Demi Moore) มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่มันยังทำให้เธอได้รับรางวัลเกี่ยวกับหนังและได้รับคำเชิญให้ไปเข้าร่วมโปรเจกต์อื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในปี 1996 ภาพยนตร์เรื่องหัวใจนี้หยุดโลกได้ (Striptease ) ก็ออกฉายและมันก็ได้รับคำวิจารณ์ที่แย่มากจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์ เดมี่ได้รางวัลโกลเด้น ราสเบอร์รี่ (Golden Raspberry Award) รางวัลออสการ์สำหรับหนังห่วยจากการแสดงเป็นเอริน แกรนท์ (Erin Grant)
แต่บทบาทของเดมี่ในภาพยนตร์แอ็กชั่นเรื่องจี.ไอ. เจน (G.I. Jane) ทำให้อนาคตทางด้านการแสดงของเธอต้องถึงจุดจบ การร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอได้รางวัลนักแสดงยอดแย่ แต่เดมี่บอกว่าจี.ไอ. เจน เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องโปรดของเธอและโปรเจกต์นี้ก็ได้รับการวิจารณ์ที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เดมี่บอกในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งของเธอว่า “การวิจารณ์แบบนั้นทำให้ฉันอยู่ในพื้นที่ที่สูญเสียความหลงใหลไปบ้าง และมันก็อาจจะทำให้ฉันท้อแท้ได้” และหนึ่งในผู้บริหารสตูดิโอได้บอกว่า: “คนแค่ไม่อยากจะดูเธอ เราต้องทั้งฉุดกระชากลากถูพวกเขาให้มาดูหนังเรื่องนี้”
ลินด์เซย์ โลฮาน - ฆ่าเธอเป็นเธออีก
ในช่วงปลายของยุค 90 และช่วงต้นของยุค 2000 ลินด์เซย์ โลฮาน (Lindsay Lohan) เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงอายุน้อยที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด เธอถูกมองว่าจะต้องมีอนาคตที่ยอดเยี่ยม แต่ในปี 2007 ภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำที่มีชื่อว่าฆ่าเธอเป็นเธออีก (I Know Who Killed Me) ก็ออกฉายซึ่งทุกอย่างตั้งแต่เนื้อเรื่องไปจนถึงการแสดงนั้นเป็นอะไรที่แย่มาก และในช่วงเวลาการถ่ายหนัง ลินด์เซย์ก็ไปรักษาอาการเสพติดหลายต่อหลายครั้งและมักจะมาสายหรือไม่ก็ไม่มากองถ่ายเลย ซึ่งส่งผลในเชิงลบต่อความต้องการของผู้กำกับที่จะทำงานกับเธอ
ภาพยนตร์เรื่องฆ่าเธอเป็นเธออีกเป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุด ๆ ไม่ใช่แค่กับนักวิจารณ์หรือคนดูเท่านั้น แต่ตัวนักแสดงหญิงเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ตอนที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งบอกว่าเขาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ 2 รอบในคืนเดียว ลินด์เซย์ถึงกับบอกว่า “2 ครั้งมันเยอะเกินไปนะ !”
เอลิซาเบธ เบิร์คลีย์ - หยุดหัวใจ...คนทั้งโลก
ภาพยนตร์เรื่องหยุดหัวใจ...คนทั้งโลก (Showgirls) เปิดตัวในปี 1995 มันได้รับการวิจารณ์เชิงลบมากมายจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมเกือบจะทันทีหลังจากรอบปฐมทัศน์ และได้รับรางวัลโกลเดน ราสเบอร์รี่ (Golden Raspberry Awards) สองรางวัล ตัวเอลิซาเบธ เบิร์กลีย์ (Elizabeth Berkley) เองยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการแสดงที่แย่ของเธออย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ แฟน ๆ ของเธอก็รับมือกับการเปลี่ยนแปลงบทบาทอย่างกระทันหันของเธอไม่ได้ นักแสดงหญิงเคยแสดงละครซิทคอมสำหรับวัยรุ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นเวลา 2-3 ปีก่อนที่เธอจะมาแสดงภาพยนตร์ของพอล เวอร์โฮเวน (Paul Verhoeven) ชื่อเสียงในเชิงลบครั้งใหม่ส่งผลที่ไม่ดีต่ออาชีพการงานของเธอ และผู้กำกับก็เริ่มปฏิเสธที่จะทำงานกับเธอ หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย แม้แต่ตัวแทนของเธอก็ปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเธอ
จีน่า เดวิส - ผ่าขุมทรัพย์ ทะเลโหด
ในปี 1991 จีน่า เดวิส (Geena Davis) ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องมีมั่งไหมผู้ชายดี ๆ ซักคน (Thelma & Louise) และชนะรางวัลมากมายสำหรับบทบาทการแสดงในเรื่องนี้ แต่ 4 ปีต่อมา ภาพยนตร์เรื่องผ่าขุมทรัพย์ ทะเลโหด (Cutthroat Island) ก็ออกฉายและอาชีพทางการแสดงของจีน่าก็ดิ่งลงเหว ด้วยทุนสร้าง 3.234 พันล้านบาท (98 ล้านดอลลาร์) แต่บ็อกซ์ออฟฟิศทำเงินได้แค่ 330 ล้านบาท (10 ล้านดอลลาร์) เท่านั้น และมันก็เป็นหายนะ
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ไม่อาจให้อภัยได้ ไม่ว่าผลงานจากเรื่องมีมั่งไหมผู้ชายดี ๆ ซักคนจะเป็นอย่างไร แต่หลังจากเรื่องผ่าขุมทรัพย์ ทะเลโหด เธอก็ไม่เคยได้เล่นบทบาทสำคัญ ๆ อีกเลย
คริส ไคลน์ - เกมดุ คนเดือด
ออซ (Oz) นักกีฬาหนุ่มสุดหล่อจากภาพยนตร์เรื่องอเมริกันพาย (American Pie) ทำให้ผู้ชมตกหลุมรัก ในจุดนี้ คริส ไคลน์ (Chris Klein) นักแสดงหนุ่มกับบทบาทสำคัญครั้งที่สองของเขาได้รับความนิยมมาก หนึ่งปีต่อมาหลังจากเรื่องอเมริกันพายภาค 2 คริสก็ได้เล่นเรื่องเกมดุ คนเดือด (Rollerball) ภาพยนตร์รีเมคจากปี 1975 ที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้ หนังเรื่องนี้ได้รับรีวิวที่แย่มากจากทั้งคนดูและนักวิจารณ์ และอาชีพของคริสที่เพิ่งเริ่มต้นก็พังทลายลงในทันที
เจนนิเฟอร์ โลเปซ - คู่ฉ่ำเฉือนคม
จากทั้งคำกล่าวของผู้ชมและนักวิจารณ์ ภาพยนตร์เรื่องคู่ฉ่ำเฉือนคม (Gigli ) เป็นภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดในชีวิตการทำงานของเบน แอฟเฟล็ค (Ben Affleck) เขาตั้งใจจะกอบกู้ชื่อเสียงของเขาในฐานะนักแสดง แต่เจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez) กลับล้มเหลวในการทำแบบเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนที่เธอจะร่วมแสดงในภาพยนตร์หายนะเรื่องนี้ เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe Award) จากบทบาทของเธอในเรื่องเซเลน่า (Selena) แต่ภาพยนตร์เรื่องคู่ฉ่ำเฉือนคมทำให้อาชีพทางการแสดงของเธอถึงจุดจบและตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็รู้จักเธอในฐานะนักร้อง ไม่ใช่นักแสดงและเธอก็สมบูรณ์แบบสำหรับบทบาทนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำลายชื่อเสียงของมาร์ติน เบรสท์ (Martin Brest) ผู้กำกับเรื่องผู้ชายหัวใจไม่ปอกเปลือก (Scent of a Woman) ซึ่งทำให้อัล ปาชิโน (Al Pacino) ได้รับรางวัลออสการ์ ก่อนที่จะมาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ หลังจากหายนะครั้งยิ่งใหญ่ มาร์ตินก็ออกจากวงการไปเลย
จอห์น ทราโวลต้า - สงครามผลาญพันธ์มนุษย์
ชีวิตการทำงานของจอห์น ทราโวลต้า (John Travolta) เต็มไปด้วยขาขึ้นและขาลง ภาพยนตร์เรื่องกรีส (Grease) ที่ออกฉายในช่วงปลายของยุค 70 ทำให้เขาโด่งดัง แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้เล่นหนังที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากจนทารันติโน่ (Tarantino) ได้มอบโอกาสให้เขาได้ร่วมงานในเรื่องเขย่าชีพจรเกินเดือด (Pulp Fiction) ซึ่งเป็นหนังระดับตำนาน ในปี 2000 จอห์นกำกับภาพยนตร์เรื่องสงครามผลาญพันธ์ุมนุษย์ (Battlefield Earth) และเล่นเป็นตัวละครหลักเองด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโกลเด้น ราสเบอร์รี่และมีรีวิวในเชิงลบที่เยอะมาก จากทุนทำหนังมูลค่า 2.31 พันล้านบาท (70 ล้านดอลลาร์) หนังเรื่องนี้ทำเงินได้ไม่ถึงครึ่งของทุนสร้าง
เจนนิเฟอร์ เลิฟ เฮวิทท์ - จิวโทเปีย
ตั้งแต่ช่วงต้นของยุค 90 จนถึงปลายยุค 2000 เจนนิเฟอร์ เลิฟ เฮวิทท์ (Jennifer Love Hewitt) เล่นหนังมากมายหลายเรื่อง แต่หนังสยองขวัญวัยรุ่นเรื่องซัมเมอร์สยอง...ต้องหวีด (I Know What You Did Last Summer) และภาคต่อของมันทำให้เธอมีชื่อเสียงมาก ในปี 2013 ภาพยนตร์เรื่องจิวโทเปีย (Jewtopia) ที่มาจากละครบรอดเวย์ในชื่อเดียวกันได้ออกฉาย หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่และได้รับรีวิวแย่ ๆ เยอะมากจากคนดูเพราะมีการใช้ตัวละครจากภาพจำและมุขแป้กเยอะมาก หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เจนนิเฟอร์ก็แทบจะไม่ได้ร่วมงานในโปรเจกต์ใหญ่อีกเลย และตอนนี้เราก็ได้เห็นเธอแค่ในซีรี่ย์ทางโทรทัศน์เท่านั้น
เนฟ แคมป์เบล - เกมซ่อนกล
เนฟ แคมป์เบล (Neve Campbell) นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน-แคนาดาเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ถูกเรียกว่าเป็นตัวแม่ของการหวีด เธอโด่งดังจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่องหวีดสุดขีด (Scream) โดยรับบทเป็นซิดนีย์ เพรสคอทท์ (Sidney Prescott) หญิงสาวที่พยายามหลบหนีจากนักฆ่าหน้าผีถึง 4 ภาค แต่ในปี 1998 เธออยากลองอะไรใหม่ ๆ และได้ร่วมเล่นหนังสยองขวัญอีโรติคเรื่องเกมซ่อนกล (Wild Things) ถึงแม้ว่าผลตอบรับของผู้ชมต่อหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างเป็นไปในทางบวก แต่มันล้มเหลวในบ๊อกซ์ออฟฟิศและภาพจำของเนฟในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์เชิงบวกของเธอในเรื่องหวีดสุดขีดเลย และเธอก็ไม่ดึงดูดแฟน ๆ ของเธออีกต่อไป
ถ้าไม่รวมภาคสามและภาคสี่ของเรื่องหวีดสุดขีด เนฟก็ไม่ได้เล่นหนังอีกเลยจนกระทั่งปี 2016 ตอนนี้เธอกลับมาเล่นบนจอแก้วและได้แสดงซีรี่ย์ทางโทรทัศน์เรื่องเฮ้าส์ ออฟ การ์ดส (House of Cards)
นักแสดงคนไหนไม่สมควรถูกกีดกันจากโปรเจกต์หนังใหญ่ ?