ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

กว่า 10 สิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ที่ทำให้เราเข้าใจผิดโดยที่เราไม่รู้ตัว

ภาพยนตร์ที่งดงาม ไม่เพียงแต่ทำให้คนที่รักหนังประทับใจ แต่ยังทำให้คนที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์อื่น ๆ รักในภาพยนตร์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาจะได้วิเคราะห์และชี้ให้เห็นว่าผู้สร้างหนังได้ทำอะไรผิดพลาดบ้าง

พวกเราที่ชีวิตสดใสคิดว่าการเป็นผู้เชี่ยวชาญในบางหัวข้อและการสังเกตเห็นข้อผิดพลาดในภาพยนตร์ที่ผู้คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นนั้นเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งบทความของเราเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดเหล่านี้

  • จักรพรรดิไม่ได้ “คว่ำนิ้วโป้งลง” เพื่อตัดสินการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นจากภาพวาดที่มีชื่อว่า โปลิเช แวร์โซ ที่วาดโดยฌอง เลออง เจอโรม (Jean-Léon Gérôme) และผู้สร้างภาพยนตร์ก็ทำตามนั้น จากคำบอกเล่าของนักประวัติศาสตร์บางคน ในความเป็นจริงพวกเขาใช้ท่าทางที่แตกต่างไปจากนี้ โดยนิ้วหัวแม่มือได้ชี้ไปที่คอหรือหน้าอก แต่ไม่ชัดเจนว่านิ้วหัวแม่มือนั้นยกขึ้นหรือคว่ำลง
  • ในการต่อสู้ทางอากาศจำลองในยุคใหม่ นักบินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้กันเกิน 152 เมตร นี่คือเหตุผลว่าการต่อสู้ของฮอลลีวูดที่ดูเจ๋งนั้นไม่ใช่เรื่องที่สมจริง
  • เมื่อหัวใจของคนหยุดเต้น ทุกคนต้องทำการปั๊มหัวใจเพื่อเริ่มการไหลเวียนเลือด หลังจากนั้นพวกเขาถึงจะทำการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะกำจัดภาวะที่ทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวได้ 10% จากกรณีทั้งหมด ดังนั้นฉากในภาพยนตร์ที่เครื่องกระตุ้นหัวใจทำให้หัวใจสูบฉีดหลังจากการกระตุ้นเพียงครั้งเดียวโดยที่ไม่ต้องปั๊มหัวใจเลยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมจริงสุด ๆ
  • เมื่อร่มชูชีพกางออก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดคุยกัน แต่ทุกอย่างจะเงียบสนิทเมื่อร่มชูชีพกาง
  • เชื่อกันว่าถ้าคุณทำงานในวงการสื่อ คุณจะซื้อรองเท้ามาโลโน บลาห์นิคใส่ได้เดือนละครั้ง และคุณจะมีเวลาและเงินมากพอที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่คาเฟ่ นักข่าวได้เงินไม่เท่ากันในแต่ละประเทศและมันก็มักจะไม่ได้เยอะมาก ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของนักข่าวในสเปนอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท (1,800 ดอลลาร์) ต่อเดือนและรองเท้ามาโลโน บลาห์นิคราคาประมาณ 33,000 บาท (995 ดอลลาร์) แน่นอนว่านักข่าวที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ได้เงินมากกว่านั้นเยอะ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอย่างอื่นที่คุณจะต้องคำนึงถึงอีก
  • คุณจะหลีกเลี่ยงจากการถูกลงโทษในคดีอาชญากรรมที่คุณก่อได้ ถ้าคุณแกล้งเป็นบ้า ไม่ว่าภาพยนตร์ซักกี่เรื่องจะบอกว่ายังไง แต่ทนายความก็แทบจะไม่เคยใช้อาการวิกลจริตมาเป็นข้ออ้างเลย เนื่องจากการปล่อยตัวใครสักคนเป็นเรื่องที่หายากมาก นอกจากนี้ผู้ป่วยทางจิตยังต้องถูกส่งเข้ารับการบำบัดภาคบังคับอยู่ดี และพวกเขาต้องใช้เวลาในโรงพยาบาลนานพอ ๆ กับเวลาที่เขาจะต้องอยู่ในคุก
  • การตีใครสักคนที่หัวไม่ได้ทำให้ความจำเสื่อมหรือทำให้ความทรงจำของใครกลับมาได้ในทันที
  • ปืนกลยิงต่อเนื่องได้ไม่เกิน 1 นาที และบางอันบรรจุกระสุนได้แค่ 30 ลูกเท่านั้น และใช้เวลาประมาณแค่ 4 วินาทีในการยิง
  • ปืนเก็บเสียงไม่ได้ทำให้เสียงของการยิงหายไปเลย แต่เสียงจะปลอดภัยกับหูมากขึ้นเท่านั้น
  • มันเป็นไปไม่ได้ที่ทรายดูดจะดูดคุณลงไปข้างใต้ เนื่องจากความหนาแน่นสูงของของเหลว
  • คนที่จมน้ำจะไม่โบกมือหรือตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาต้องอาศัยอากาศในปอดเพื่อหายใจ และใช้แขนในการช่วยให้ตัวเองลอยน้ำอยู่ได้
  • น้ำมันเบนซินระเหยได้ง่ายมาก ดังนั้นฉากที่ตัวร้ายเทน้ำมันลงไปบนรถแล้วเดินจากมานั้นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นล้วน ๆ ในชีวิตจริงน้ำมันจะไหม้มือและดวงตาของพวกเขา
  • ยาสลบทำให้คนหลับในทันทีไม่ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องไร้สาระที่จะใส่ยาสลบลงไปบนผ้าและโปะที่ใบหน้าของใครบางคน มันทำให้คนสลบได้แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที
  • เครื่องจับเท็จบอกไม่ได้ว่าใครกำลังโกหกอยู่หรือไม่ได้โกหก มันแค่วัดระดับความวิตกกังวล ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะไม่ได้โกหกอยู่ นอกจากนี้ในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องคุณจะเห็นได้ว่าตัวละครจะใช้เล่ห์เหลี่ยมกับเครื่องจับเท็จโดยการวางเข็มไว้ข้างใต้รองเท้าบูธของพวกเขา และเหยียบลงไปทุกครั้งที่ตอบคำถาม ความเจ็บปวดนี้จะส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมามั่วซั่ว แต่นี่เป็นความจริงแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น สิ่งของจะต้องมีความแหลมคมพอที่จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดหลังจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เพื่อที่ผู้สัมภาษณ์จะไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

มีข้อผิดพลาดอะไรบ้างที่คุณสังเกตเห็นในภาพยนตร์ ? แบ่งปันสิ่งที่คุณเจอในช่องคอมเมนต์ด้านล่างหน่อยสิ !

เครดิตภาพพรีวิว Mission: Impossible / Paramount Pictures
ชีวิตสดใส/ภาพยนตร์/กว่า 10 สิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ที่ทำให้เราเข้าใจผิดโดยที่เราไม่รู้ตัว
แชร์บทความนี้