ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 เครื่องใช้ของสาว ๆ ในยุคสมัยใหม่ ที่แท้จริงแล้วมีปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่หลายศตวรรษก่อนแล้วนะ

ผู้หญิงทุกคนล้วนเคยได้ลองใส่ต่างหู ถุงน่อง ลิปสติก และรองเท้าส้นสูงมาแล้วอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต ทุกวันนี้ เครื่องใช้เหล่านี้เป็นสิ่งของที่ใช้ได้กับทุกคน แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ และในอดีต สิ่งของเหล่านี้อาจมีราคาที่ทำให้คุณหมดเนื้อหมดตัวไปเลยก็ได้

ชีวิตสดใสสนใจในประวัติศาสตร์เครื่องใช้ของผู้หญิงเป็นอย่างมาก และก็ได้พบว่าหลายอย่างที่ของเหล่านี้แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีไว้ใช้ในหมู่ท่านชาย หรือบางอย่างก็ไม่ใช่ว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าถึงได้ง่าย ๆ หรือบางครั้งพวกมันอาจจะมีวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ต่างไปจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

1. ลิปสติกที่ต้องแลกมาด้วยอะไรต่อมิอะไรมากมาย

  • ลิปสติกสมัยใหม่นั้นผลิตขึ้นจากไข (wax) น้ำมันและสีย้อม แต่ในยุคโบราณ พวกเขามักจะใช้สีจากต้นเฮนน่าและสารสีแดงคาร์มีน (ที่ได้มาจากแมลงปีกแข็ง) ส่วนริมฝีปากของพระราชินีเนเฟอร์ติติ (Nefertiti) ชื่อดังน่าจะมีการเคลือบด้วยไขผึ้ง (beeswax)
  • พูดถึงสีแดงคาร์มีน เชื่อไหมว่าต้องใช้แมลงปีกแข็งถึง 70,000 ตัวเลยนะถึงจะให้ผลผลิตเป็นสีย้อมคาร์มีน (สีแดง) ได้หนึ่งปอนด์ไว้ให้พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra) ไว้แต่งแต้มพระโอษฐ์ของพระองค์ได้
  • ส่วนในอารยธรรมเมโสโปเตเมีย สตรีที่นั่นจะใช้การบดอัญมณีที่ล้ำค่าและกึ่งล้ำค่าให้กลายเป็นผุยผง เพื่อแต่งแต้มริมฝีปากของพวกเธอ

2. ชุดว่ายน้ำที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อปกปิดสะดือ

  • ประวัติศาสตร์ของชุดว่ายน้ำไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวกับความสะดวกสบายหรือเป็นการพัฒนาของวงการสิ่งทอแต่อย่างใด แต่เป็นประวัติศาสตร์แห่งการปลดปล่อยเสรีภาพให้แก่น้องสะดือล้วน ๆ ก่อนครึ่งหลังของศตวรรษที่ 17 สตรีชาวยุโรปนั้นอาจจะอาบน้ำโดยไม่สวมเสื้อผ้า หรือใช้ผืนผ้าพันกายเท่านั้น
  • ต่อมา สตรีเริ่มนิยมเปิดเปลือยแขนขาของตนเองอย่างช้า ๆ ชุดว่ายน้ำเริ่มไม่มีปก และขอบคอเสื้อก็ต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เกิดเหตุการณ์ขาดแคลนเนื้อผ้าขึ้น จึงทำให้ชุดว่ายน้ำแบบทูพีซที่เปิดช่องท้องส่วนบนนั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนในปี 1946 นี้เองที่ หลุยส์ เรอาร์ด (Louis Réard) ได้เปิดตัวชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดให้เห็นสะดือสู่สาธารณะชน

3. สีย้อมผม: สารเคมีกับความปลอดภัย

  • ในยุคโบราณ ชายและหญิงต่างย้อมสีผมจากวัตถุดิบต่าง ๆ มากมายหลายแบบ ตั้งแต่เปลือกไม้แคสเซีย บาร์ก (cassia bark), กระเทียมต้น (leeks), ปลิง, ไข่ไหม้ ๆ, ต้นเฮนน่า หรือแม้แต่ผงทองคำ
  • นอกจากนี้ สีย้อมผมมักสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อีกด้วย ราวปี 1700 สาว ๆ ชาวเวนิสมักนิยมการเอนกายอาบแดดบนชานนอกบ้าน หลังจากหมักน้ำด่างลงบนผมเพื่อให้ผมกลายเป็นสีบลอนด์ ซึ่งก่อนหน้านั้น คนที่มีผมสีบลอนด์เคยถูกมองไม่ดีอย่างมาก จนกระทั่งช่วงยุคกลางมานี่เองที่การย้อมสีผมกลายเป็นความเคยชินของสตรีไป
  • ในบางครั้ง สีย้อมผมก็ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ใช้ทางการรักษาได้ ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอัฟกานิสถาน ผู้คนเชื่อกันว่าถ้าคุณย้อมผมเป็นสีแดงแล้วละก็ มันจะช่วยทำให้คุณหายจากอาการปวดหัวได้

4. ชุดชั้นในที่มีต้นกำเนิดจากนักกีฬา

  • ทุกคนต่างรู้กันว่าชุดคอร์เซ็ตคืออะไร แต่เคยมีอะไรก่อนหน้านั้นหรือเปล่านะ ? รู้ไหมว่า นักกีฬาผู้หญิงในยุคโรมันโบราณเคยใช้ผ้าพันอกเอาไว้เฉย ๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับชุดชั้นในไร้รอยต่อแบบไร้สายมาก หรือก็คือผ้าคาดอกนั่นแหละ ภาพโมเสกที่แสดงให้เห็นถึงชุดชั้นในแบบดั้งเดิมแบบแรก สามารถหาชมได้ที่ซิซิลีและปอมเปอี
  • มีการออกสิทธิบัตรชุดชั้นในเป็นครั้งแรกในปี 1914 แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 15 เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ในปี 2012 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเศษผ้าลินินในยุคกลางที่มีลักษณะเป็น “ถุงเต้านม” ที่ดูคล้ายกับเสื้อในเป็นอย่างมากด้วย

5. ต่างหูนั้นแท้จริงแล้วแสดงถึงความเป็นพวกโบฮีเมียนหรือหัวขโมย

  • จากประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่ผ่านมา ต่างหูนั้นถูกใช้เป็นเครื่องหมายที่แสดงนัยยะที่แตกต่างกันออกไปมากมาย ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ มันเคยถูกใช้เป็นเครื่องทำเครื่องหมายของความเป็นทาส เป็นศิลปิน หรือแม้แต่ผู้นับถือศาสนา
  • ในช่วงยุคของเชกสเปียร์ (Shakespeare) ต่างหูคือสัญลักษณ์ที่แยกผู้คนได้ว่าใครคือนักกวีอีกด้วย เช่นนี้เอง แม้แต่ภาพวาดของตัวเชกสเปียร์เองก็ยังเป็นภาพเขาใส่ต่างหูปรากฏอยู่ในภาพศิลปะ

6. แต่ก่อนนี้ รองเท้าส้นสูงมีไว้สำหรับผู้ชาย

  • รองเท้าส้นสูงคู่แรกปรากฏขึ้นในอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ โดยที่ทหารจะใส่รองเท้าส้นสูงกันระหว่างขี่ม้า เพื่อที่ว่ารองเท้าจะได้ติดยึดอยู่กับโกลนได้ หลังจากนั้น รองเท้าเหล่านี้ก็แพร่หลายไปทั่วยุโรป โดยเหล่าขุนนางชายจะใส่ให้ตัวเองดูสูงขึ้นจะได้น่าเคารพน่าเกรงขามมากขึ้น
    ภายใต้อิทธิพลแฟชั่นจากชายชาตรีเหล่านี้นี่เอง ทำให้เหล่าสตรีเริ่มที่จะเลือกสวมใส่ส้นสูงตามบ้าง จนกระทั่งในช่วงกลางปี 1800 — 1809 รองเท้าเหล่านี้ก็เริ่มถูกสงวนให้เป็นของที่ใช้เฉพาะแต่ในหมู่สตรีเท่านั้น
  • แบรนด์รองเท้าชื่อดังคริสติยอง ลูบูแตง (Christian Louboutin) เชี่ยวชาญในประวัติศาสตร์แฟชั่นเป็นอย่างดี โดยในศตวรรษที่ 17 เหล่าขุนนางจากหลายประเทศต่างมีรองเท้ากีฬาที่มีพื้นรองเท้าและส้นสีแดงไว้สวมใส่ (โดยสีนี้เชื่อมโยงกับการสงคราม ในขณะเดียวกันมันก็เป็นสีย้อมที่มีราคาแพงอีกด้วย) จนกระทั่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) ได้ทำการตรากฏหมายที่กำหนดให้ทุกคนสามารถใส่รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าสีแดงได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในราชสำนักของพระองค์เท่านั้น

7. มาสคาร่าเคยเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์

  • เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 (Elizabeth I) ขึ้นครองราชย์ ผมสีแดงก็กลายกลับเป็นสีผมที่นำแฟชั่นเป็นอย่างมาก เหล่าสตรีต่างพากันย้อมผมและย้อมขนตาเพื่อให้รับกับสีผมอีกต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะส่วนผสมที่บรรดาสตรีผสมขึ้นกันเองเหล่านั้นมีส่วนผสมของสารที่เป็นพิษ
  • ยูจีน ริมเมล (Eugène Rimmel) ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอางริมเมล (Rimmel) และนักปรุงน้ำหอมในราชสำนักของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Queen Victoria) เป็นผู้พัฒนามาสคาร่าขึ้นมาจากปิโตรเลียมเจลลี่แบบใหม่ล่าสุดขณะนั้น นวัตกรรมของเขาเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก เพราะมันคือสีย้อมขนตาชิ้นแรกที่ไร้สารพิษ

8. สตรีนั้นล้วนได้รับผ้าอนามัยมาจากทหาร

  • ผ้าอนามัยชิ้นแรกสุดอาจจะมีอายุเก่าแก่มากกว่าที่พวกเราเคยคิดกันนะ มีการเขียนบันทึกครั้งแรกสุดเกี่ยวกับผ้าอนามัยไว้ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 10 โดยกล่าวถึงนักปราชญ์หญิงชาวกรีก ไฮพาเทีย (Hypatia) ผู้ซึ่งเป็นนักประพันธ์แห่งยุคศตวรรษที่ 4 ว่าเธอเป็นผู้ที่เคยได้ใช้สิ่งนี้ด้วยตนเอง
  • เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) อาจจะเป็นผู้ที่ปฏิรูปพัฒนาผ้าอนามัยยุคใหม่แบบใช้แล้วทิ้งก็เป็นได้ โดยอาจได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าพันแผลที่ดูดซับได้ดี ซึ่งมักใช้ในการรักษาบาดแผลให้เหล่าทหารหาญ บรรดานางพยาบาลนี่แหละจึงน่าจะเป็นสตรียุคแรก ๆ ที่ได้ลองใช้ผ้าอนามัยสุดล้ำสมัยในตอนนั้น

9. ถุงน่องและกางเกงรัดรูปเคยมีไว้สำหรับขุนนางบุรุษเท่านั้น

ในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 15 กางเกงรัดรูปตัวแรกนั้นเป็นถุงน่องแบบทอมือให้ต่อกันตรงช่วงกลางตัว บุรุษผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูงมักจะสวมกางเกงรัดรูปที่ทำจากวัสดุล้ำเลิศ เช่น ไหม หรือผ้าขนสัตว์ชั้นดี ต่างจากพวกที่บรรดาศักดิ์แค่ชั้นกลางหรือต่ำลงมา อาภรณ์ชิ้นดังกล่าวนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายสตรีเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งศตวรรษที่ 18 นี่แหละ

10. ถ้วยอนามัยปรากฏขึ้นในศตวรรษที่ 19

ถ้วยอนามัยไม่เคยมีการประดิษฐ์ขึ้นจนกระทั่งในศตวรรษที่ 21 นี่เอง ไม่เคยมีแม้แต่ในศตวรรษที่ 20 แต่อย่างไรก็ตาม เคยมีการโฆษณานวัตกรรมถ้วยยางที่เชื่อมติดอยู่กับเข็มขัดพิเศษมาแล้ว ในปี 1884

คุณเคยได้รู้เรื่องจริงเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ของผู้หญิงเหล่านี้มาก่อนบ้างไหม ? เรื่องไหนทำให้คุณประหลาดใจที่สุด ? บอกต่อเราได้ในคอมเมนต์นี้เลย

เครดิตภาพพรีวิว Michelle Tribe / CC BY / Wikimedia Commons, Wellcome Collection
ชีวิตสดใส/คน/10 เครื่องใช้ของสาว ๆ ในยุคสมัยใหม่ ที่แท้จริงแล้วมีปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่หลายศตวรรษก่อนแล้วนะ
แชร์บทความนี้