15 เรื่องราวที่พิสูจน์ว่าโลกนั้นเต็มไปด้วยความเมตตาซึ่งเราอาจไม่สังเกตเห็น
บางครั้ง มันรู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างพังทลายลงและโลกทั้งใบก็ทิ้งคุณ คุณเข้าโซเชียลมีเดียและสิ่งต่างๆ ก็แย่ลงไปอีก โลกนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย รุนแรง และเหล่าผู้คนที่ไม่สนใจอะไร และทุกครั้งที่คุณหมดศรัทธาในความเมตตา สิ่งดีๆ ก็เกิดขึ้น มันอาจเป็นการที่คนเดินผ่านมาแล้วเอากระเป๋าเงินที่คุณทำหล่นมาคืน เพื่อนบ้านที่ช่วยลูกแมวจรจัด หรือรอยยิ้มจากคนที่คุณรัก
พวกเราชีวิตสดใสเชื่อว่าความเมตตานั้นช่วยโลกได้ และเราพิสูจน์ได้จากเรื่องราวของคนที่รู้ข้อเท็จจริงที่ว่าโลกนี้ยังมีความเมตตาอยู่อีกมากมาย
- ตอนที่ผมกับภรรยากำลังอยู่ในขั้นตอนการซื้ออพาร์ตเมนต์ ผมนอนแค่วันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้นทำให้ผมใช้ชีวิตค่อนข้างเหม่อลอย เช้าวันหนึ่ง ผมกำลังถือสัญญาซื้อขายและ...ทิ้งมันไว้บนรถบัส เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็เริ่มค้นหามันบนรถบัสที่ผมขึ้นแต่ก็ไม่เจอ ดังนั้น ผมจึงกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่ย่ำแย่ เมื่อผมไปถึงประตูบ้าน ผมเห็นแฟ้มที่สัญญาเคยอยู่ในนั้น แต่แฟ้มกลับว่างเปล่า ผมเปิดประตูและเห็นสัญญาวางอยู่บนพื้น มีคนสอดมันไว้ใต้ประตูเพื่อไม่ให้ใครขโมย ประเด็นคือมีคนใจดีเก็บมันได้และตามหาอพาร์ตเมนต์ของผมจนพบ แม้ว่าประตูจะไม่มีหมายเลขที่อยู่ก็ตาม ผมมีความสุขมากในวันนั้น! คนๆ นี้ฟื้นศรัทธาในมนุษยชาติของผมได้จริงๆ © Kinvrig / Pikabu
- ตอนที่ฉันอายุประมาณ 8 ขวบ ฉันต้องเดินกลับบ้านจากโรงเรียนเพราะไม่มีใครมารับ วันนั้นอากาศหนาว แต่ฉันไม่คิดว่าฝนจะตก เมื่อฉันเริ่มเดินฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ไม่นานนักฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนข้างนอกเต็มไปด้วยฝนตกหนัก ฉันยังอยู่เดินกลับไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำแต่แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ขับรถบรรทุกเสนอพาฉันไปส่งที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ฉันถูกสอนว่าคนแปลกหน้านั้นอันตรายและวางแผนที่จะปฏิเสธและเริ่มวิ่งหนีถ้าเธอตื๊อ เธอถามฉันว่าฉันจะไม่ไปด้วยจริงๆ ใช่ไหม และฉันก็ตอบว่าใช่ จากนั้นเธอก็ดึงร่มดอกไม้บานใหญ่ออกมาแล้วยื่นให้ฉัน “ขอให้ไม่เปียกไปมากกว่านี้นะ หนูน้อย” เธอพูด จากนั้นก็ขับรถออกไปหลังจากที่ฉันรับร่มมาจากมือของเธอ ฉันยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินต่อไปโดยถือร่มของที่เธอให้ไว้เหนือหัวและยิ้มออกมา ร่มคันนี้ยังคอยบังแดดบังฝนให้ฉันเป็นอย่างดีมา 7 ปีแล้ว ฉันหวังว่าเธอยังคงทำเรื่องดีๆ ต่อไปและเป็นคนที่เข้มแข็งนะ © LifeAndDeath69 / reddit
- แม่ของฉันโดนรถชนจนพิการ วันหนึ่ง เรากำลังดูทีวีและมีโฆษณาเกี่ยวกับการปกป้องเสือ แม่พูดว่า “พระเจ้า แม่อยากลูบเสือจัง!” จู่ๆ ฉันก็มีไอเดียผุดขึ้นมา — จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันส่งข้อความหาที่ๆ ดูแลเสือ? ฉันอธิบายสถานการณ์และความฝันของแม่ให้พวกเขาฟัง 5 นาทีต่อมา ฉันได้รับคำตอบว่า “มาหาเราพรุ่งนี้สิ เรามาช่วยกันทำให้ฝันของแม่คุณเป็นจริงกันเถอะ” แม่ของฉันมีความสุขอย่างล้นหลาม เรายังคงจำวันที่วิเศษนั้นได้อยู่เลย ฉันยังคงเชื่อว่ามีคนดีๆ อยู่ในโลกนี้ © ortustella / Pikabu
ผู้ชายที่ดูดีและสะอาดเริ่มปรากฏตัวใกล้ทางเข้าตึกอพาร์ตเมนต์ของฉัน ไม่มีใครไล่เขาไป เขาไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ และยังช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของคนอื่นด้วย และวันหนึ่งเราก็เริ่มพูดคุยกัน ชื่อของเขาคือไมค์ เขาทำเอกสารเข้าอยู่อพาร์ตเมนต์หายและเข้าอาศัยไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงกลับไปหาโทรศัพท์เครื่องเก่าของฉัน ลงทะเบียนซิมการ์ด แล้วมอบมันให้กับเขา จากนั้นก็ช่วยเขาเรื่องเอกสาร แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเขาก็หายไป และเมื่อวาน ในที่สุดก็ได้เจอไมค์ เขาเก็บเบอร์ของฉันไว้และฉันพบเขาที่อพาร์ตเมนต์เล็กๆ ซึ่งเขาได้เช่าอยู่ ตอนนี้เขาหาเงินได้เยอะ และฉันรู้สึกดีมากที่ได้ให้โอกาสผู้ชายคนนี้ ฉันคิดว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่ดีจริงๆ © zloybublik / Pikabu
ตอนที่ฉันอายุ 3 ขวบ ฉันหลงทาง มีผู้หญิงคนหนึ่งพาฉันไปสถานีตำรวจ ระหว่างที่เธอกำลังรอพ่อแม่ของฉัน เธอก็เริ่มคุยกับเจ้าหน้าที่ เท่าที่ฉันรู้ภายหลัง พวกเขาตกหลุมรักกันและแต่งงานกันหลังจากนั้นไม่นาน และฉันรู้เรื่องนี้เพราะแฟนที่อายุน้อยกว่าฉัน 4 ปี เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังตอนที่เขาแนะนำฉันให้รู้จักกับพ่อแม่ของเขา นี่คือวิธีที่ฉันทำให้แฟนของฉันเกิดขึ้นมาไงล่ะ © Overheard / vk
ผมทำงานที่บริษัทขนย้าย งานของเมื่อวานนี้คือ เรากำลังช่วยแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกชายวัย 4 ขวบของเธอขนย้ายของจากอพาร์ตเมนต์ไปที่บ้านพ่อแม่ของเธอ ในตอนแรกที่เราแพ็คของ เราต้องบันทึกความเสียหายของสิ่งของก่อนที่จะแพ็คมันแล้วใส่ลงในรถบรรทุก ในงานนี้ แม่และย่าของเด็ก (ซึ่งไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนเราแพ็คของ) โวยวายเรื่องความเสียหาย ซึ่งทั้งหมดเราได้บันทึกเอาไว้ก่อนแล้ว สิ่งนี้ทำให้กระบวนการทั้งหมดยากขึ้น เพราะมันทำให้เราทุกคนช้าลง ทำให้พวกเขาต้องจ่ายเงินมากขึ้นอีก (บริษัทของเราคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายชั่วโมง และเรามีงานอื่นที่ต้องทำในวันนั้น ดังนั้นเราจึงอยากทำงานนี้ให้เสร็จ) แถมพวกเธอยังบ่นเรื่องนี้ด้วย ในตอนท้าย ตอนที่ผมกับเพื่อนร่วมงานกำลังทำความสะอาดอยู่ เด็กชายวัย 4 ขวบเข้ามาหาผมแล้วพูดว่า: “ผมคิดว่าคุณทำได้ดีแล้ว แต่แม่ของผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมขอโทษด้วย แต่คุณสามารถเอาเงินเพนนีนี่ไปได้นะ ผมเจอมันในห้องใหม่ของผม!” จากนั้นเขากอดขาผมแล้ววิ่งไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้ผมรู้สึกดีทั้งวัน และตอนนี้ผมก็มีความสุขกับมันด้วย © RedHaze54 / reddit
เธอถักหมวกเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อให้ศูนย์พักพิงท้องถิ่น! มันน่าเหลือเชื่อมากเลยล่ะ!
ภรรยาของผมหยิบเสื้อผ้าเก่าๆ ของลูกๆ ออกมาแล้วพูดว่า “มีผู้ชายคนหนึ่ง ภรรยาของเขาเสียชีวิตและเขามีลูกสาวอายุ 5 ขวบ เธอวิ่งไปวิ่งมาและกระตือรือร้นมาก แต่เธอไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เธอเริ่มปาหินใส่สุนัขของเรา ฉันเลยคุยกับเธอ ให้ชากับขนม และขอให้เธออย่าทำร้ายสุนัข
วันนั้นภรรยาของผมมีความสุขมาก เธอพูดว่า “เจค ฉันเอาเสื้อผ้าและของเล่นให้เธอ คุณควรจะได้เห็นแววตาของเธอนะ!” เธอพูดขอบคุณ 10 ครั้ง แล้วเธอก็วิ่งไป เธออาบน้ำ แต่งตัว แล้วใส่เสื้อผ้าใหม่มาอวด เด็กน้อยเข้ามากระซิบบอกฉันว่า “ขอบคุณนะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้พวกหมาน้อยเจ็บอีก” จากนั้น พ่อของเธอก็ออกมาหาและเอาถุงอาหารสุนัขมาให้พวกเรา แถมบอกอีกว่าถ้าฉันอยากให้เขาช่วยอะไร ฉันสามารถบอกเขาได้เลย © cma4000 / Pikabu
คืนหนึ่ง ฉันกลับบ้านดึก และขณะที่ฉันกำลังจะขึ้นไปชั้นบน ฉันได้ยินเสียงบางอย่างที่ใต้ระเบียง ฉันไม่ได้สนใจมากนักและเข้าไปข้างใน วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฉันกลับบ้านหลังเลิกงาน ฉันได้ยินเสียงเดิม ฉันมองไปที่ใต้ระเบียงและเห็นลูกแมวตัวเล็กๆ ที่อุ้งเท้าของมันติดอยู่กับน้ำแข็ง ฉันวิ่งกลับบ้านเพื่อเอาน้ำอุ่นมาช่วยสัตว์ตัวน้อยที่น่าสงสารให้มีอิสระ มันยังเดินได้ไม่ดีนัก แต่กินเยอะและกินยาเข้าไปด้วย © Overheard / vk
- ลูกสาวของฉันทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตุรกีซึ่งเป็นที่ๆ มีแขกบางคนมาพักพร้อมเด็กเล็ก พวกเขานิสัยดีและเด็กก็มีของเล่นชิ้นโปรด นั่นคือนกฮูก เขาพานกฮูกไปไหนมาไหนด้วยเสมอ หลังจากวันหยุดพักร้อน พวกเขาออกไปจากโรงแรมและลืมของเล่นไว้ที่ห้องพักในโรงแรม หลายวันต่อมา พวกเขาโทรมาถามว่าเราจะส่งของเล่นไปให้พวกเขาได้ไหม เพราะเด็กไม่กินไม่นอนเลยถ้าไม่มีของเล่นชิ้นนี้ ลูกสาวของฉันจึงแต่งเรื่องเกี่ยวกับนกฮูกตัวนั้น เธอบอกว่านกฮูกอยากอยู่ในโรงแรมนานกว่านี้สักหน่อย ซึ่งมันจะกลับบ้านเร็วๆ นี้ และสัญญาว่าจะส่งรูปให้เด็กน้อยทุกวัน เธอถ่ายรูปภาพมันเอาไว้แล้วส่งให้เด็กชายในขณะที่นกฮูกกำลังอยู่ระหว่างถูกส่งกลับไป © akrilik78 / Pikabu
ตอนที่พ่อผมเสีย ผมมีอายุ 21 ปี แฟนสาวทิ้งผมไป และผมก็หยุดเรียนมหาวิทยาลัยกลางคัน ผมรู้สึกหดหู่มากๆ ชีวิตของผมกลายเป็นฝันร้าย ผมจึงตัดสินใจขึ้นรถและขับไป ขับไปเรื่อยๆ และขับไปเรื่อยๆ สองสามวันต่อมา ผมอยู่ที่วาฟเฟิล เฮ้าส์ซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งนอกแอตแลนต้า ตีตอนนั้นเป็นเวลาตี 3 และผมเป็นลูกค้าเพียงคนเดียว มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและนั่งอยู่ข้างๆ ผม ผมคิดว่ามันแปลกเพราะมีที่นั่งว่างมากมาย เราได้คุยกันและผมก็เปิดใจกับผู้ชายคนนี้เกี่ยวกับชีวิตของผมและการต่อสู้ดิ้นรนทั้งหมด เขาตั้งใจฟังผมอย่างดี เขาบอกให้ผมกลับบ้าน เพราะการหนีปัญหาไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง เรากอดกันและผมร้องไห้ 8 ปีต่อมา ผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวัสดุศาสตร์และได้ทำงานในสาขาที่ผมรัก ผมมีแฟนใหม่และมุมมองใหม่ๆ ในชีวิต มันไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่ผมถือว่าความสำเร็จทั้งหมดของผมมาจากคนแปลกหน้าคนนี้ที่ฟังผมเป็นอย่างดีในวาฟเฟิล เฮ้าส์นอกแอตแลนต้า © bondsman333 / reddit
ฉันอายุ 17 ปี และในอีก 2 สัปดาห์ ก็จะถึงงานพรอมแล้ว และพ่อแม่ของฉันมีเงินเพียงพอซื้อชุดเดรสใส่ไปทะเลธรรมดาๆ ให้ฉัน ฉันกับแม่ตัดสินใจไปสอดส่องร้านขายชุดแต่งงานหลายแห่ง ที่ร้านหนึ่ง พวกเขานำชุดแสนสวยซึ่งซิปมันพังแล้วมาให้ฉัน ฉันใส่มันแล้วพนักงานก็เห็นว่ามันดูเหมาะกับฉัน และ...พวกเขาก็ให้ชุดมาฟรีๆ เลย! นี่มันคือปาฏิหาริย์! พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนฝัน! และฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด ประหนึ่งซินเดอเรลล่าเลยล่ะ © Overheard / vk
ทุกคนเรียกเขาว่าเทอร์รี่ เขาทำงานเป็นคนขับรถบัสมา 15 ปีแล้ว เราพบกันเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้น ฉันกับสามีซึ่งเป็นคนพิการกำลังเดินทางกลับจากโรงพยาบาล เขาต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงต้องเข้าเมืองหลายครั้งต่อสัปดาห์ เทอร์รี่จะไปรับเราที่บ้าน และเมื่อเรามาถึงเมือง เขาจะขับรถไปต่ออีกสองสามช่วงตึกเพื่อพาเราไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วเขาก็ทำแบบเดียวกันกับตอนขามาเมื่อเราเสร็จธุระจากโรงพยาบาลแล้ว © mamakerova / Pikabu
“เขาช่วยฉันเยอะเลย”
ตอนที่ฉันอายุได้ 10 ขวบ มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของฉัน เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่ดีกับเขาอยู่ดี ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทำให้ฉันหงุดหงิด โดยเฉพาะหนวดของเขา เวลาที่ฉันเห็นเขา ฉันคิดว่าถ้าฉันเป็นผู้กำกับนะ ฉันจะเลือกให้เขาแสดงเป็นตัวร้ายแน่นอน แต่แล้วฉันก็เห็นเขาพาสุนัขไปเดินเล่นและทุกอย่างก็เปลี่ยนไป มันเป็นสุนัขธรรมดา แต่อุ้งเท้าข้างหนึ่งของมันไม่มีข้อต่อ เขาห่วงใยและรักสุนัขตัวนี้มาก ต่อมาไม่นานฉันก็รู้ว่าเขาพบลูกสุนัขตัวนี้ตอนที่มันหลงทาง เนื้อตัวสกปรก และป่วย และคลินิกสัตวแพทย์ก็รักษาอุ้งเท้าของมันไม่ได้ แล้วฉันก็คิดว่าคนประเภทนี้ไม่ได้เป็นคนไมดีแน่ๆ ดังนั้น ถ้าฉันเป็นผู้กำกับ (ตอนนี้ฉันรู้เรื่องราวที่แท้จริงแล้ว) เขาจะได้เป็นนักบินหรือฮีโร่แน่ๆ © Sibirskix / Pikabu
ตอนเป็นนักเรียนฉันแทบไม่มีเงินเลย ฉันไปซื้อของด้วยเงินที่เหลือน้อยนิดในบัญชี กลับกลายเป็นว่าบิลค่าโทรศัพท์ทำให้เงินของฉันหมดบัญชี และฉันก็หมดตัว ฉันต้องทิ้งของทั้งหมดไว้ที่แคชเชียร์และออกไปข้างนอกเพื่อดูว่าจะขอยืมเงินใครได้ไหม ฉันเจอผู้หญิงที่น่าทึ่งมากๆ คนหนึ่งที่มาบอกฉันว่าเธอเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว และเธอมีลูกชายที่เป็นนักเรียนที่ประสบกับสถานการณ์คล้ายๆ กัน เธอกอดฉันและยื่นเงินใส่กระเป๋าให้ฉัน ตอนนั้นฉันรู้สึกตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรได้ แต่คุณผู้หญิงคนนั้นคะ ถ้าคุณอ่านข้อความนี้ อยากให้รู้ไว้คุณเปลี่ยนความคิดของฉันเกี่ยวกับคนทั่วไป และทำให้ฉันกินได้กินข้าวดีๆ เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์ ขอบคุณคุณคนแปลกหน้าที่แสนใจดี ฉันหวังว่าความดีจะตอบแทนคุณนะ © Ageati / reddit
ตอนที่ฉันกับสามียังเป็นคู่หนุ่มสาว เราค่อนข้างยากจน คืนหนึ่งในเดือนธันวาคม มีคนวางกล่องที่เต็มไปด้วยของขวัญ ของขวัญสำหรับลูกน้อย บัตรของขวัญให้เรา เงินสด 12,000 บาท และของอื่นๆ นี่มันทำให้เราร้องไห้ได้เลยล่ะ © otherm0ther / reddit
ในชีวิตนี้ คุณเคยเจอสถานการณ์ที่มีบางคนที่คุณไม่รู้จักทำสิ่งที่ดีต่อใจให้กับคุณบ้างหรือเปล่า?