ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

7 คนดังที่ฟื้นคืนจากความผิดพลาดและเราทุกคนสามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้

ประสบการณ์ในแต่ละวันไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม สามารถทิ้งช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ไว้ให้กับเราได้ แล้วสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับเหล่าคนดังเช่นกัน ที่พบว่ามีสิ่งดี ๆ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ความท้าทาย หรือจากคนที่พวกเขารัก

1. เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์รอช่วงเวลาที่เหมาะที่จะแต่งงาน

เจนนิเฟอร์ (Jennifer) อยากรอจนกว่าเธอจะอายุ 30 ปีเพื่อแต่งงาน เพราะการแต่งงานครั้งแรกของเธอตอนวัย 20 ปีกับดาราหนุ่มสก็อตต์ โฟลีย์ (Scott Foley) จบลงด้วยการหย่าร้างในอีกสองปีครึ่งต่อมา โดยเธอเล่าว่าขั้นตอนการหย่าร้างเป็นประสบการณ์ที่บีบคั้นหัวใจและทำให้เธอเสียใจอย่างหนัก แม้จะเกิดเรื่องราวเหล่านั้น แต่เธอก็สามารถก้าวต่อไปและเก็บเอาความเชื่อเรื่องการแต่งงานของเธอไว้ แล้วเธอก็จะได้พบกับคนที่เธอจะสามารถผูกพันและเลี้ยงดูลูกให้เติบโตไปด้วยกันได้

2. โอปราห์ วินฟรีย์ถูกไล่ออกจากงานแรกของเธอ

งานแรกของโอปราห์ทางโทรทัศน์คือการเป็นนักข่าวภาคค่ำให้กับทางดับเบิ้ลยูเจซี-ทีวี (WJZ-TV) ของบัลติมอร์ (Baltimore) หลังจากนั้นเจ็ดเดือน เธอถูกโปรดิวเซอร์ไล่ออกเพราะว่าเธอใส่อารมณ์กับเรื่องราวมากเกินไป แถมยังบอกกับเธอว่าเธอ “ไม่เหมาะกับข่าวโทรทัศน์” ในเวลาต่อมาเธอบอกว่าเธอไม่รู้ว่าประสบการณ์นี้จะเป็นช่วงเวลาการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตวัยผู้ใหญ่ของเธอ จากนั้นโปรดิวเซอร์ก็ได้เสนอบทบาทในรายการทีวีช่วงกลางวันให้กับเธอ คือรายการ พีเพิ้ล อาร์ ทอล์คกิ้ง (People Are Talking) ซึ่งได้กลายเป็นรายการยอดฮิต

3. เดอะ ร็อคกับฝันที่ไม่เป็นจริงของเขา

ก่อนที่จะเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพและกลายเป็นดาราฮอลลีวูดในเวลาต่อมา ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) เคยเล่นให้กับแคนนาเดี้ยน ฟุตบอล ลีค (Canadian Football League) ตอนที่เขาอายุ 22 ปี เขาได้เข้าใกล้ความฝันด้วยการเล่นในเอ็นเอฟแอล (NFL) แต่สองวันหลังจากเกมแข่งขันฟุตบอลระดับโปรครั้งแรกของเขา เขาได้ถูกคัดออกและส่งกลับบ้านด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 260 บาท จากนั้นหลายปีต่อมา เขาตระหนักได้ว่าสิ่งหนึ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดคือสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย เพราะมันพาเขามาอยู่ในจุดที่เป็นตัวเขาในตอนนี้ โดยเขาได้กล่าวว่า “จงมีศรัทธาและก้าวต่อไป”

4. เซเรน่า วิลเลี่ยมส์กับเหตุผลของการเป็นแชมป์ที่ไม่ใช่เพียงชัยชนะ

เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ (Serena Williams) อาจเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ใด ๆ ในอาชีพการงานของเธอเลย อันที่จริงแล้วเธอยกเครดิตความพ่ายแพ้ของตัวเองว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงแห่งตำนานของเธอ ด้วยสถิติแชมป์เดี่ยวแกรนด์สแลม (Grand Slam) 23 รายการ เซรีน่าไม่ได้นิยามคำว่าแชมป์จากชัยชนะ แต่นิยามมาจากวิธีที่เธอสามารถฟื้นตัวได้เมื่อพ่ายแพ้ โดยเธออาจจะล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเธอจะกลับมาและพยายามทำให้ดีขึ้น

5. แองเจลีน่า โจลี่กับการตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอในบทบาทพ่อแม่

สุดยอดคุณแม่ลูก 6 รายนี้ไม่กลัวที่จะยอมรับว่าเธอไม่ใช่แม่ที่สมบูรณ์แบบ โดยเธอกล่าวว่าตัวเธอเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่เธอทำไม่ถูกต้องในตอนที่เลี้ยงลูกของเธอมากขึ้น ผลปรากฏก็คือเธอได้เรียนรู้ที่จะมองว่าพวกเขาคือ “มนุษย์รายบุคคลทั้งหกคน” และเธอถือว่าตัวเองคือสมาชิกครอบครัวที่ไม่ได้อยู่เหนือพวกเขา อีกทั้งเธอยังยกเครดิตเรื่องความเปิดเผยและความซื่อสัตย์ให้กับลูก ๆ ของเธออยู่เสมอ

6. ริฮานน่ากับความสำคัญของความล้มเหลว

ริฮานน่า (Rihanna) เชื่อมั่นว่าแทนที่จะถือว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นผิดพลาด ให้ถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียน อันที่จริงแล้ว เธอจดจำสิ่งนี้ไว้ในใจและมีรอยสักที่เขียนไว้แบบย้อนกลับ เพื่อที่เธอจะได้อ่านมันได้ตอนที่เธอส่องกระจก อีกทั้งเธอยังยกเครดิตให้กับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นแรงจูงใจให้เธอทำงานหนักขึ้น โดยอ้างถึงเวลาที่นักวิจารณ์เพลงได้ปฏิเสธเพลง พอน เดอ รีเพลย์ (Pon De Replay) ของเธอว่าเป็นเพลงฮิตฮิต เธอมองว่ามันคือความท้าทายเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยกล่าวว่า “ทุกครั้งมันคือความท้าทายของตัวเอง แล้วฉันต้องทำให้ดีขึ้น”

7. เจนนิเฟอร์ โลเปซกับการชะลอตัวและบทเรียนที่เธอเรียนรู้จากลูก ๆ ของเธอ

พ่อแม่อาจเป็นครูคนแรกของลูก แต่สำหรับกรณีของสาวเจโล (J.Lo) นั้น เธอคือคนที่เรียนรู้เรื่องชีวิตและความรักจากลูก ๆ โดยเธอบอกว่าลูก ๆ ของเธอมักจะเป็นความท้าทายสำหรับเธอ และสอนเธอเรื่องความอดทนกับความเข้าอกเข้าใจอยู่เสมอ

เรื่องราวเหล่านี้เรื่องใดที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณมากที่สุด ? แล้วคุณมีคนดังคนอื่น ๆ ที่คุณสามารถเพิ่มลงไปในลิสต์นี้ได้บ้างหรือเปล่า ? อย่าลังเลที่จะบอกพวกเราได้ในคอมเมนต์นะ !

ชีวิตสดใส/คน/7 คนดังที่ฟื้นคืนจากความผิดพลาดและเราทุกคนสามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้
แชร์บทความนี้