ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

8 ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่เรานั้นใช้ผิดวิธีไปหมดเลย

สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่โฆษณาดูเกินจริงบางตัว ทำให้ผิวของคุณรู้สึกแห้งราวกับทะเลทรายซาฮาร่า หรือไม่ก็ครีมมาสก์หน้าที่บอกว่า “ให้ความชุ่มชื้น” แต่กลับทำให้หน้ารู้สึกแห้งยิ่งกว่าเดิม แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องโยนผลิตภัณฑ์เสริมความงามทุกชิ้นที่คุณมีทิ้งไป เพราะบางทีแล้วสิ่งที่คุณต้องทำก็คือเปลี่ยนวิธีใช้ผลิตภัณฑ์บางตัวเท่านั้นเอง

ชีวิตสดใสเราอยากที่จะบอกคุณมาก ๆ เกี่ยวกับข้อผิดพลาดด้านความงามที่ฮิตมากที่สุด ซึ่งคุณนั้นอาจทำมันด้วย

1. คุณใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเครื่องสำอางทุกวัน

จะมีอะไรสะดวกไปกว่านี้อีกมั้ย ? พอคุณเช็ดเครื่องสำอางออกหมดแล้ว คุณก็ลืมมันไปเลย แต่ทว่าคุณไม่สามารถใช้ทิชชู่เปียกได้ตลอดเวลาหรอกนะ เพราะว่ามันทำความสะอาดผิวได้ไม่ดีพอ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังทำจากวัสดุที่หยาบ ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้งและแตก ดังนั้นคุณควรใช้เฉพาะในตอนที่คุณไม่มีน้ำหรือน้ำยาเช็ดทำความสะอาดดี ๆ เท่านั้น แต่สำหรับในการดูแลทุกวัน คุณควรใช้โฟมหรือเจลทำความสะอาดชนิดพิเศษ

2. คุณคิดว่าสามารถใช้เซรั่มอย่างเดียวก็ได้

ควรทาเซรั่มก่อนใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้น และทางที่ดีควรทามันในตอนเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเซรั่มตัวนั้นมีเรตินอล โดยการทำเช่นนี้จะช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นได้อย่างเต็มที่ และถ้ายิ่งมาสก์หน้าก็จะทำให้มันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ในฤดูร้อนเซรั่มที่มีเรตินอลสามารถใช้ควบคู่กับครีมกันแดดเท่านั้น เพราะเรตินอลทำให้ผิวไวต่อแดดมากเกินไป จึงทำให้ผิวไหม้แดดได้

3. คุณใช้ฟองน้ำที่แห้งลงรองพื้น

ฟองน้ำส่วนใหญ่ โดยเฉพาะฟองน้ำแต่งหน้าจำเป็นต้องเปียก เพราะหากมันแห้ง ฟองน้ำจะ “กิน” เนื้อผลิตภัณฑ์แต่งหน้ามากเกินไป หนำซ้ำยังเกลี่ยผลิตภัณฑ์ไม่สม่ำเสมออีกด้วย

4. คุณไม่รู้ความแตกต่างระหว่างคอนซีลเลอร์กับคอร์เรคเตอร์

พวกเราหลายคนสับสนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม 2 ตัวนี้ ดังนั้นเรามาพูดกันให้ชัด ๆ เลยดีกว่า คือคอนซีลเลอร์ (concealer) ควรใช้ในบริเวณที่ใกล้ดวงตาเท่านั้น ส่วนคอร์เรคเตอร์ (corrector) ใช้เพื่อปกปิดจุดบกพร่องของผิวหน้า โดยพวกมันมีความต่างกันเล็กน้อยที่คุณควรรู้ไว้เมื่อใช้พวกมัน นอกจากนี้เมื่อคุณใช้คอนซีลเลอร์ คุณควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวล่วงหน้า และควรใช้คอร์เรคเตอร์ด้วยการนวดลงบนผิว ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

5. คุณใช้เจลหรือโฟมล้างหน้าเพื่อล้างเครื่องสำอางเท่านั้น

คลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้าจะมีประโยชน์มากกว่ามาก ๆ หากไม่เพียงแค่ใช้มันล้างเครื่องสำอางในตอนเย็นเท่านั้น แต่ยังใช้มันในตอนเช้าอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้เองที่คุณสามารถขจัดความมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรก และเหงื่อที่อยู่บนผิวของคุณในเวลากลางคืนได้ นอกจากนี้จะเป็นการดีที่สุดหากคุณเลิกใช้สครับและคลีนเซอร์ที่เป็นกรด เพราะการทำความสะอาดผิวแบบรุนแรงไม่ได้ดีกว่าการไม่ใช้น้ำยาทำความสะอาดเลย

6. คุณมาสก์หน้าทิ้งไว้ค้างคืนหรือล้างออกหลังจากที่มันแห้งสนิทเท่านั้น

การมาสก์หน้าทุกประเภทควรใช้ตามคำแนะนำ แล้วอย่ามาสก์หน้าทิ้งไว้ค้างคืน เว้นเสียแต่ผู้ผลิตจะบอกว่าทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว มันอาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่ร้ายแรงได้ โดยแผ่นมาสก์หน้าแบบผ้าควรเอาออกก่อนที่มันจะแห้ง เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ มาสก์จะเริ่มดูดความชื้นจากผิว ซึ่งจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น และกฎเดียวกันนี้ยังใช้กับมาสก์แบบโคลน คือควรทาให้หนาเพื่อให้ความชุ่มชื้นระเหยได้ช้าลง แล้วล้างออกในขณะที่มันยังเหนียวอยู่

7. คุณถูหน้าด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

โลชั่นทาหน้าที่ต่างกันย่อมให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน แน่นอนว่าส่วนผสมจะแตกต่างกันไปตามการทำงานของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ แต่ทว่าโลชั่นส่วนใหญ่มีแอลกอฮอล์ และหากคุณใช้มันบ่อยมากพอ ผิวก็จะเริ่มผลิตไขมันมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง นอกจากนี้คุณไม่ควรทาโลชั่นทั่วใบหน้า แต่ควรทาเฉพาะจุดแทน

8. คุณไม่ล้างไมเซล่าวอเตอร์ออก

ไมเซล่าวอเตอร์ (Micellar water) ก็เหมือนกับโลชั่น แต่ต่างกันตรงที่มันไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะมันประกอบไปด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์อื่น ๆ (ไมเซลล์) และสิ่งสกปรกทั้งหลายที่มันสะสมไว้ก็จะยังคงอยู่บนใบหน้า เว้นเสียแต่คุณจะล้างมันออกด้วยน้ำ นอกจากนี้การที่ผิวสัมผัสกับไมเซล่าวอเตอร์เป็นเวลานานจะทำให้มันทำงานเหมือนกับสบู่ ซึ่งสิ่งนี้เองที่นำไปสู่การระคายเคืองผิว

เราหวังว่าเคล็ดลับของเราจะช่วยให้คุณเปล่งประกายในทุกสถานการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นนะ แล้วมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการแต่งหน้าหรือการดูแลผิวอะไรบ้าง ที่ตัวคุณหรือคนที่คุณรู้จักนั้นเคยทำ ? มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันมีค่าของคุณลงในคอมเมนต์กันได้เลย !

เครดิตภาพพรีวิว depositphotos, depositphotos
ชีวิตสดใส/คน/8 ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่เรานั้นใช้ผิดวิธีไปหมดเลย
แชร์บทความนี้