9 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจนนิเฟอร์ อนิสตันที่ทำให้เรารักเธอมากยิ่งขึ้น
หลังจากซิทคอมเรื่อง เฟรนส์ ได้ออกฉายในยุค 90 เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (Jennifer Aniston) ก็ได้กลายเป็นต้นแบบของเด็กสาวหลายคน และยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญเกี่ยวกับทรงผมมานานหลายปี อย่างไรก็ตามพวกเราต่างรักเธอด้วยเหตุผลที่นอกเหนือไปจากรูปร่างหน้าตาของเธอ อีกทั้งยังนึกถึงเธอในเรื่องของบุคลิกอันน่าเหลือเชื่อ
พวกเราที่ชีวิตสดใสหลงรักเจนนิเฟอร์ อนิสตัน แล้วนี่ก็คือข้อเท็จจริงบางประการที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเหตุใดเธอจึงคู่ควรกับความโด่งดัง
1. เธอทำให้ชีวิตเด็ก ๆ มีความสุขและง่ายขึ้น
เป็นเวลานานกว่าสิบปีแล้วที่เจนนิเฟอร์ อนิสตันได้ไปเยี่ยมโรงพยาบาลเด็กเซนต์จู๊ด (St. Jude) เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง อีกทั้งเธอยังติดต่อกับบรรดาครอบครัวที่เธอเจอที่นั่นอีกด้วย เด็ก ๆ ล้วนรักเธอและต่างเฝ้ารอ ซึ่งไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนดัง แต่เป็นเพราะว่าเธอมีบุคลิกที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
อนิสตันกล่าวว่าเธอเริ่มทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพราะพวกเขาคือฮีโร่ตัวน้อย ๆ โดยเธอยังกล่าวอีกว่า “คุณเห็นปาฏิหาริย์เล็ก ๆ พวกนี้เดินผ่านสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ควรมีเด็กคนไหนถูกเดินผ่านเลยไป”
2. เธอสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนด้วยสุนทรพจน์ที่เติมพลังให้กับพวกเขา
ในปี 2019 อนิสตันได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจและประทับใจใครหลาย ๆ คน โดยเธอได้สารภาพว่าเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นบุคคลที่ทรงพลัง เพราะตอนอายุ 11 ขวบ เธอได้รับการยกเว้นในการร่วมโต๊ะอาหารค่ำ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่มี “สิ่งที่น่าสนใจที่จะเพิ่มลงไปในบทสนทนาเลย” เหตุการณ์นี้จึงเกาะติดอยู่กับเธอ
ดังนั้นเมื่อปีที่แล้ว นักแสดงสาวจึงได้คิดเกี่ยวกับข้อความที่พวกเราได้ส่งไปยังเหล่าเด็กสาวว่ามีอิทธิพลต่อพวกเธออย่างไร และได้อธิบายว่า “สิ่งที่เราพูดและทำสามารถทำให้พวกเธอดีขึ้นได้ หรือไม่ก็ทำลายพวกเธอ และทำให้พวกเธอรู้สึกราวกับว่าเสียงของพวกเธอนั้นไม่สำคัญ”
อนิสตันอ้างว่าเด็กทุกคนสมควรได้รับที่นั่งที่โต๊ะ เด็กผู้หญิงควรรู้ว่าพวกเธอถูกมองเห็น เป็นที่รัก และมีพลัง และ “พลังที่แท้จริง” ก็คือเสียงของคุณ “เพื่อดึงผู้คนให้ลุกขึ้นและรวมผู้คนไว้ด้วยกัน”
3. เธอสนับสนุนองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่ง
นอกจากทำงานร่วมกับโรงพยาบาลเด็กเซนต์จู๊ดแล้ว อนิสตันยังเป็นคนใจบุญสุนทานและทำให้ชีวิตของผู้อื่นดีขึ้นอีกด้วย โดยเธอเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญลุกขึ้นสู้กับมะเร็ง (Stand Up to Cancer) ซึ่งเธอและเหล่าคนดังคนอื่น ๆ ตั้งเป้าที่จะสร้างความตระหนักในเรื่องโรคมะเร็ง
นอกจากนี้อนิสตันยังบริจาคเงินประมาณ 32 ล้านบาท ($1 ล้าน) ให้กับองค์กรการกุศลด้านความยุติธรรมทางเชื้อชาติหลายแห่ง แล้วเธอก็ไม่กลัวที่จะพูดถึงความโหดร้ายและการเหยียดเชื้อชาติ พร้อมทั้งยังบอกอีกว่ามันจะไม่มีทางเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แล้วเราก็ต้องรับรู้และให้ความรู้กับตัวเอง
จิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของอนิสตันได้ช่วยระดมเงินให้กับเฮติมากกว่า 1,900 ล้านบาท ($58 ล้าน) โดยเงินจำนวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความหวังสำหรับประเทศนี้ และรายการของการกระทำที่ใจดีของเธอก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
4. เธอแสดงให้เราเห็นถึงวิธีมีความสุขและการไม่ยอมแพ้
นับเป็นเรื่องน่าทึ่งจริง ๆ ที่เจนนิเฟอร์ อนิสตันยังดูดีในวัย 51 ปี แต่เธออธิบายว่าความสุขคือกุญแจสำคัญ และมันคือทางเลือก เธอมีปรัชญาชีวิตเป็นของตัวเองและไม่กังวลหรือรู้สึกทุกข์ “มันเป็นแนวทางของฉัน คือมันเป็นสิ่งที่ฉันได้รับรอบ ๆ ตัวนี้ แต่ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันไม่เจอเลยว่าอะไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมา ที่ได้ให้เหตุผลกับฉันที่จะรู้สึกใจแข็งและสร้างเปลือกหรือไม่ก็กำแพงแบบว่า ’พอแล้ว ก็แค่นี้ ฉันจบแล้วล่ะ’”
แล้วคำถามที่ว่าถ้าหากย้อนเวลาได้ เธอจะพูดกับตัวเธอเองตอนเด็กว่าอะไร อนิสตันตอบว่า “ก็แค่รอจนกว่าคุณจะอายุ 50 ปี มันจะต้องน่าทึ่งแน่ ๆ” เธอพอใจในวัยของตัวเองและไม่เสียใจที่คนเรามีอายุมากขึ้น โดยนักแสดงสาวก็แค่สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษรอบ ๆ ตัวเธอ รอยยิ้มและอารมณ์ขันของเธอนั้นทำให้ผู้คนตกหลุมรักเธอ
5. เธอต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพสตรี
อนิสตันพยายามอธิบายให้สังคมฟังว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นแม่คน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นผู้หญิงน้อยลง “ฉันไม่ชอบ [แรงกดดัน] ที่ผู้คนทำกับฉันหรือกับผู้หญิง แล้วการที่คุณผิดหวังในตัวเองในฐานะที่เป็นผู้หญิง เพราะว่าคุณไม่มีลูก ฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เพราะคุณยังคงดูแลสัตว์เลี้ยง เพื่อน ลูก ๆ ของเพื่อนได้ อีกทั้งการใส่บิกินี่ตอนอายุ 80 ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าคุณอยากทำ”
สำหรับอนิสตันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงทำได้ก็คือการคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน เธอบอกว่าเราต้องการนักเขียนบทเพศหญิงมากขึ้น เพราะว่าเราต้องการเรื่องราวของผู้หญิงมากยิ่งขึ้น แล้วเรื่องราวของพวกเธอก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน
6. เธอต่อต้านเรื่องการวิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอกของคนอื่น
อนิสตันพยายามอธิบายเกี่ยวกับผู้หญิงว่า “ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิง..ที่ทำผมและแต่งหน้า มีสไตลิสต์ ช่างภาพ ทีมงานช่างไฟ เครื่องทำลม อุปกรณ์ประกอบฉาก และคอมพิวเตอร์...ลองคิดดูเถอะว่าฉันตื่นขึ้นมาแล้วเป็นแบบนี้เลยเหรอ” เธอก็เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ และเป็นเรื่องปกติที่จะน้ำหนักขึ้นและแก่ตัวลง
เธอทนต่อการวิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอกของคนอื่นไม่ได้ “การมองคนเหมือนเป็นวัตถุสิ่งของและการพินิจพิจารณาที่เราทำกับผู้หญิงนั้นไร้สาระและน่ารำคาญ” ข้อความที่บอกว่าผู้หญิงไม่สวย เพียงเพราะว่าเธอไม่ได้ผอมมาก ๆ นั้นช่างไร้สาระ" นักแสดงสาวเล่าว่า “มันก็แค่สิ่งที่คิด เพราะแต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะน้ำหนักขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกผิด และไม่ควรพูดถึง ’ความไม่สมบูรณ์แบบ’ ของร่างกายให้มากนัก”
7. เธอมีความสามารถที่จะอยู่ที่นั่นเพื่อคุณเสมอ
การบ่มเพาะมิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจนนิเฟอร์ อนิสตัน แล้วการ “อยู่ตรงนั้นเพื่อคุณ” ก็ไม่ใช่แค่ท่อนหนึ่งจากเพลงประกอบหนังเรื่อง เฟรนส์ เท่านั้น แต่มันคือเรื่องจริง เพราะจากคำบอกเล่าของเธอ หากเราสนับสนุนผู้หญิงสวย ๆ เหล่านั้นเมื่อพวกเธอยังเด็ก พวกเธอก็จะสนับสนุนคุณเมื่อคุณโตขึ้น
อนิสตันกล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่ทรงพลังที่สุดก็คือความจริงที่ว่าเธอสามารถพัฒนามิตรภาพกับผู้คนได้ตลอดระยะเวลา 30 ปี แล้วเธอก็มีเพื่อนมากมายที่คอยอยู่กับเธอทั้งวันที่ดีและวันที่แย่
8. เธอมีความสุขุมเมื่อความสัมพันธ์จบลง
อนิสตันเล่าว่าเมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง สิ่งสำคัญคือต้องมี “การยุติ” โดยมันใช้ได้กับความสัมพันธ์รัก ๆ ใคร่ ๆ และมิตรภาพเพื่อนฝูง “คุณควรมีความชัดเจนในตอนจบ แล้วก็รู้ว่าทำไมมันถึงเริ่มต้นและทำไมมันถึงจบลง เพราะคุณต้องการสิ่งนั้นในชีวิตของคุณเพื่อก้าวไปสู่ขั้นต่อไปอย่างใสสะอาด”
เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้พบกับแบรด พิตต์ (Brad Pitt) อดีตสามีของเธออีกครั้งทางออนไลน์ โดยอนิสตันยิ้มแย้มตลอดเวลาและเรารู้สึกมีความสุขที่พวกเขาได้รักษาบรรยากาศที่เป็นกันเองไว้
9. เธออยู่อย่างถ่อมตัว
แม้ว่าเจนนิเฟอร์ อนิสตันจะกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงสุดของฮอลลีวูด แต่เธอก็ยังเป็นคนถ่อมตัว ไม่ชอบโอ้อวดและปฏิบัติต่อแฟนคลับอย่างใจดี โดยเธอไม่ได้รู้สึกมีอำนาจเหนือกว่า แต่เวลาส่วนใหญ่แล้วเธอ “สนุกกับการแลกเปลี่ยนจริง ๆ”
นับว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่ทัศนคติแบบนี้ ทำให้เธอยังคงเป็นต้นแบบให้กับเด็กสาวหลายคน
คุณชอบหนังเรื่องไหนของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ? แล้วแนวความคิดในเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของเธอข้อใดที่คุณชื่นชอบมากที่สุด ?