ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

การรวมตัวกันอีกครั้งของมาร์ตี้ แมคฟลายกับดร.บราวน์ในรอบหลายสิบปี แล้วเรื่องราวในชีวิตจริงของพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงสามารถรอดพ้นจากทุกสิ่งได้

เมื่อบทภาพยนตร์เรื่อง เจาะเวลาหาอดีต (Back to the Future) ถูกส่งไปให้เหล่าโปรดิวเซอร์ มันกลับถูกปฏิเสธถึง 40 ครั้งก่อนที่ค่ายยูนิเวอร์แซล(Universal) จะตัดสินใจสร้าง คู่หูนักเดินทางข้ามเวลาทั้งในและนอกจออย่างไมเคิล เจ. ฟอกซ์ (Michael J. Fox) วัย 61 ปี กับคริสโตเฟอร์ ลอยด์ (Christopher Lloyd) วัย 83 ปี ได้ร่วมงานกันในหนังไตรภาคเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในปี 1985 แล้วในปีนี้เองที่ทั้งคู่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จึงทำให้แฟน ๆ ต่างก็พากันหลั่งน้ำตาด้วยความสุดซึ้งเลยทีเดียว บางมิตรภาพเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติและเอาชนะทุกสิ่งได้ แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ฟอกซ์กับลอยด์ได้แสดงให้เราเห็นว่าการอยู่เคียงข้างกัน คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับมนุษย์อีกคนหนึ่งได้เลยล่ะ

ไมเคิล เจ. ฟอกซ์ ได้เล่นเป็นมาร์ตี้ แมคฟลายโดยบังเอิญ

ตอนที่ลอยด์ได้อ่านบทของเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต เป็นครั้งแรก เขาได้โยนมันทิ้งไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เขามักจะทำกับบทหนังอยู่บ่อย ๆ แต่แล้วเพื่อนของเขาก็ได้เกลี้ยกล่อมให้เขาไปคัดตัวเป็นนักแสดง ลอยด์จึงหยิบบทนี้ออกมาจากถังขยะและ “ทุกอย่างก็เป็นจริงขึ้นมา”

East News

ลอยด์กับอีริค สโตลซ์ (Eric Stoltz) ร่วมงานกันในหนังเรื่องนี้ครั้งแรก โดยทั้งคู่เล่นเป็นดร.เอ็มเม็ตต์ บราวน์ (Dr. Emmett Brown) และมาร์ตี้ แมคฟลาย (Marty McFly) แต่ท้ายที่สุดหลังจากที่ถ่ายทำไปได้ 6 สัปดาห์ สโตลซ์ถูกถอดออกจากหนังและต้องเปลี่ยนตัวนักแสดง ทำให้พวกเขาต้องถ่ายทำใหม่ทั้งหมด แล้วนั่นก็คือวิธีที่ไมเคิล เจ. ฟอกซ์ได้ก้าวเข้าสู่โลกของหนังเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต โดยลอยด์ได้กล่าวว่า “พวกเรามีเคมีที่เข้ากันได้อยู่ตลอดเวลา”

Universal Picture / AMBLIN / U Drive Productions / Collection Christophel / East News

มิตรภาพของฟอกซ์กับลอยด์ได้แสดงให้เราเห็นว่าแม้เวลาและความยากลำบากจะแยกพวกเขาออกจากกัน แต่ความเป็นเพื่อนแท้ก็ยังคงอยู่

โปรดักชั่นฮอลลีวูดส่วนใหญ่ใช้เวลาถ่ายทำนาน 4 ถึง 12 สัปดาห์หลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ จากนั้นนักแสดงก็มักจะแยกย้ายกันไป แต่เป็นเพราะหนังเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต มีทั้งหมด 3 ภาคและจัดวันครบรอบต่าง ๆ บ่อยครั้ง จึงทำให้คู่หูนักเดินทางข้ามเวลาได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น

ดร. บราวน์เล่าว่า “คุณเล่นหนัง แล้วคุณก็หวังว่าอย่างน้อยมันจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและเปิดฉากขึ้น และมีการฉากเปิดที่ดีและมีออกวิ่งซักหน่อย แต่หนังเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต ไปไกลกว่านั้น มันก็แค่กลิ้งไปเรื่อย ๆ และผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรทั้งนั้น”

ไมเคิล เจ. ฟอกซ์ได้เก็บผลวินิจฉัยโรคของเขาเป็นความลับไว้นานถึง 7 ปี

ตอนที่อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นช่วงจุดสูงสุดในอาชีพการงานของไมเคิล เจ. ฟอกซ์ เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสันในปี 1991 และตลอดช่วงเวลานั้น ลอยด์ก็อยู่ตรงนั้นเพื่อเขา ในขณะนั้นแพทย์บอกว่าเขาสามารถทำงานได้อีกแค่ 10 ปี แต่นักแสดงไม่ยอมให้การพยากรณ์โรคยุติอาชีพการแสดงของเขา โดยเขายังคงทำงานต่อไปเรื่อย ๆ อีกเกือบ 30 ปีก่อนที่จะประกาศเกษียณอายุในปี 2020 ทั้งเหล่าแฟน ๆ และเพื่อนของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับความพยายามของฟอกซ์ด้วยการระดมทุนและสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคนี้

นักแสดงหนุ่มได้เปิดเผยตรง ๆ ว่า “โรคพาร์กินสันคือของขวัญที่ยังคงดำเนินต่อไป แต่มันก็คือของขวัญ และผมจะไม่เปลี่ยนแปลงมันไปเพื่อสิ่งใดก็ตาม...คนอย่างคริส (Chris) เคยอยู่ตรงนั้นเพื่อผมบ่อยครั้ง และพวกคุณหลายคนก็มีเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องของสิ่งที่ผมมี มันเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้รับต่างหาก เสียงที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จและช่วยเหลือผู้คน”

เจาะเวลาหาอดีต เป็นมากกว่าภาพยนตร์มาโดยตลอด”

คริสโตเฟอร์ ลอยด์เป็นผู้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิไมเคิล เจ. ฟอกซ์อย่างภาคภูมิใจ และคอยสนับสนุนเพื่อนของเขาเสมอมา

นักแสดงหนุ่มเล่าว่า “ครั้งหนึ่งผมเคยพูดกับมาร์ตี้ว่า ’ถนนเหรอ ? นี่เรากำลังจะไปไหน...เราไม่ต้องการถนน’ หนังเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต เป็นมากกว่าหนังมาโดยตลอด คุณค่าหลักก็คือความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่ง ความหลงใหล และมิตรภาพที่ได้ก้าวข้ามไปสู่ตำนานที่เราคาดไม่ถึง ไมเคิล คุณได้ลงลึกในการต่อสู้กับโรคพาร์กินสันยิ่งกว่าเดิม มันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริง ๆ และผมยินดีที่จะช่วยเหลือเสมอ หากคุณต้องการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิไมเคิล เจ. ฟอกซ์ คุณสามารถค้นหาทุกอย่างตามที่คุณต้องการได้ตรงนี้

ฟอกซ์กับลอยด์ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนด้วยกันในรอบหลายปี และได้รับการอ้าแขนรับจากผู้คน

NDZ/STAR MAX/IPx/Associated Press/East News, NDZ/STAR MAX/IPx/Associated Press/East News, NDZ/STAR MAX/IPx/Associated Press/East News

ที่งานคอมมิค-คอน (Comic-Con) ในนิวยอร์ก ไมเคิล เจ. ฟอกซ์กับคริสโตเฟอร์ ลอยด์ได้มารวมตัวกันอีกครั้งจนทำให้แฟน ๆล้วนเซอร์ไพรส์ โดยตัวละครมาร์ตี้กับดร. บราวน์ได้วิ่งขึ้นไปบนเวที กอดกัน และพาเรากลับไปยังซีรีส์เรื่อง เจาะเวลาหาอดีต ในทันที

แฟน ๆ ต่างพากันตื้นตันในการรวมตัวกันของพวกเขา “หนักหนาสาหัส หัวใจสลาย แต่ก็ยังยกนิ้วให้ ชอบที่จะมองดูความเห็นอกเห็นใจ” มีคนเล่าถึงกิจกรรมพิเศษนี้ โดยวิดีโอของพวกเขากลายเป็นไวรัล มีการรับชมถึง 10 ล้านครั้งในทวิตเตอร์ ซึ่งดูได้จากด้านล่าง

คุณคิดว่าความลับของมิตรภาพที่ยั่งยืนคืออะไร ? แท็กคนในชีวิตของคุณที่คอยยืนเคียงข้างคุณผ่านอุปสรรคต่าง ๆ นานา แล้วมาใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณเพื่อน ๆ ของเรากันเถอะ

เครดิตภาพพรีวิว Universal Picture / AMBLIN / U Drive Productions/Collection Chri, NDZ/STAR MAX/IPx/Associated Press/East News
ชีวิตสดใส/คน/การรวมตัวกันอีกครั้งของมาร์ตี้ แมคฟลายกับดร.บราวน์ในรอบหลายสิบปี แล้วเรื่องราวในชีวิตจริงของพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงสามารถรอดพ้นจากทุกสิ่งได้
แชร์บทความนี้