ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

เคล็ดลับกว่า 15 อย่างที่ร้านเสริมสวยทุกแห่งใช้ แต่ไม่เคยบอกคุณ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนาตาเลีย (Natalia) เป็นผู้จัดการร้านเสริมสวยทั่วไปซึ่งทางเรามีราคากลาง ๆ และผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง คุณคงเคยใช้บริการแบบเรามาก่อนบ้างแล้วในชีวิตของคุณ แต่ทุกร้านต่างก็มีความลับเป็นของตัวเอง และคุณควรรู้เอาไว้ก่อนที่จะไปร้านทำผม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชีวิตสดใส ฉันจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังของร้านเสริมสวยหลายแห่งและการทำผมในราคาแพง ๆ นั้นคุ้มค่าจริง ๆ หรือเปล่านะ

ขั้นตอนบางอย่างไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป

  • การโบท็อกซ์ผมเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะหลังจากที่ผมเคลือบด้วยผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษแล้ว เส้นผมก็จะเรียบลื่น เงางาม ยืดหยุ่น และไม่ขาดบ่อย ๆ แต่อย่างแรกเลย ผลิตภัณฑ์นี้จะทำให้เส้นผมของคุณสว่างขึ้น 1-2 โทน และอย่างที่สอง ในอีก 2-3 เดือนต่อมา ผลของการโบท็อกซ์ผมจะเสื่อมสภาพลง จากนั้นเส้นผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนทำ หรือถึงขั้นแย่กว่านั้นอีก ดังนั้นในการทำให้ผมดูเรียบลื่นและเงางามอีกครั้ง คุณจะต้องจ่ายอย่างน้อย ฿2,347 ($70) ให้กับร้านเสริมสวยปีละหลาย ๆ ครั้ง (ยิ่งผมของคุณยาวมากเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแพงขึ้น) และหากคุณไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินเยอะ ๆ สำหรับขั้นตอนแบบนี้แล้วล่ะก็ อย่าเริ่มทำมันเลยจะดีกว่า
  • อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของร้านทำผมคือการตัดด้วยกรรไกรร้อน ขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายแพงกว่าการตัดผมปกติถึง 2 เท่า เนื่องจากใช้กรรไกรตัดผมชนิดพิเศษ และทำให้ปลายผมร้อนซึ่งช่วยป้องกันผมแตกปลาย แต่ถ้าคุณตัดผมเป็นประจำอยู่แล้ว ช่างทำผมของคุณก็จะตัดผมแตกปลายของคุณออกอยู่ดี ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงใช้บริการนี้เพียงแค่ครั้งเดียว และไม่เห็นจุดประสงค์ที่ต้องจ่ายเงินให้กับมันอีก
  • บ่อยครั้งที่ลูกค้ารู้สึกผิดหวังหลังจากที่ทำการเคลือบผมแล้ว แน่นอนว่าเส้นผมจะเงางามและเรียบลื่นมากขึ้น แต่ว่าผลิตภัณฑ์จะถูกชะล้างออกไปภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ มีลูกค้ารายหนึ่งของเราเคยมาหาเราทั้งน้ำตา โดยเธอไปเคลือบผมที่ร้านเสริมสวยร้านอื่น ๆ มา พอเธอสระผมไปสองครั้ง มันก็ดูราวกับว่าเธอไม่เคยเคลือบผมมาก่อนเลย
  • การทำงานของการฟื้นฟูและยืดเคราตินก็เช่นกัน นี่ไม่ใช่ขั้นตอนการรักษาเส้นผม แต่เป็นขั้นตอนเสริมความงาม เพราะสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่สามารถเข้าไปในเส้นผมได้ โดยตัวผลิตภัณฑ์ทำได้เพียงเคลือบเส้นผมจากภายนอก จึงทำให้มองเห็นว่าเส้นผมดูหนาขึ้นและเรียบลื่นขึ้น แล้วมันก็เหมือนกับสีย้อมผมต่าง ๆ ที่จะถูกชะล้างออกภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ จากนั้นเส้นผมก็กลับมาดูเหมือนเดิมก่อนทำ
  • จากประสบการณ์ของฉันในการสื่อสารกับลูกค้าและเฝ้าดูการทำงานของผู้เชี่ยวชาญ เป็นไปได้ที่จะรักษาสภาพเส้นผมของคุณให้แข็งแรงโดยไม่ต้องใช้ขั้นตอนของร้านเสริมสวยที่ราคาแพงมาก ๆ เพราะการตัดปลายผมอยู่เป็นประจำก็เพียงพอแล้ว อย่าใช้เครื่องดัดผมบ่อยเกินไป ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนใช้ไดร์เป่าผม และใช้ครีมชนิดพิเศษสำหรับปลายผม แล้วแน่นอน อย่าทรมานเส้นผมด้วยการทำสีผมให้อ่อนลง
  • ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับการย้อมผมคือลูกค้าประมาณ 95% ของเราย้อมผมในสไตล์บาลายาจและออมเบร ถึงขั้นเป็นเรื่องยากที่แยกพวกเขาออกจากกัน และสาว ๆ ที่ดูโดดเด่นก็คือคนที่มีสีผมที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าหรือมีผมสีทึบ อีกทั้งการทำผมสีเดียวก็ถูกกว่าและผมเสียน้อยที่สุด

บางครั้งคุณถูกหลอกอย่างโจ่งแจ้ง

  • ร้านเสริมสวย “ขั้นสูง” บางแห่งสอนพนักงานให้หลอกลวงลูกค้า โดยพวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์ราคาถูก ๆ ที่ดูเหมือนของแพง แถมยังใช้มาสก์ผมราคาแพง ๆ โดยไม่ขออนุญาตจากลูกค้าก่อน แล้วรวมค่าใช้จ่ายไว้ในใบเรียกเก็บเงิน แต่บรรดาช่างทำผมที่ซื่อสัตย์จะผสมสีย้อมผมต่อหน้าลูกค้า และมักถามอยู่เสมอว่าต้องการขั้นตอนอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายเงินสำหรับขั้นตอนที่คุณไม่ได้ขอให้ทำ
  • ช่างทำผมที่ไม่ซื่อสัตย์บางคนซ่อนงานย้อมผมที่ไม่ดีโดยใช้โทนิค อย่างเช่น คุณสามารถซ่อนสีเหลืองด้วยแชมพูสีม่วงได้ซึ่งคุณจะเห็นสีจริง ๆ ก็ต่อเมื่อคุณกลับไปสระผมที่บ้านแล้วเท่านั้น และหากเป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ ให้คุณไปที่ร้าน พร้อมกับบอกพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเขาต้องแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดให้คุณ ถ้าหากเป็นไปไม่ได้ที่จะได้สีที่ต้องการตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ พวกเขาจะต้องบอกเรื่องนี้กับคุณล่วงหน้า
  • ให้ความสนใจกับใบรับรองของช่างทำผมอยู่เสมอ เพราะผู้เชี่ยวชาญที่ดีต้องเรียนหลักสูตรเพื่อพัฒนาระดับทักษะของพวกเขา แล้วนี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาต้องย้อมสีผมที่ยาก ๆ ที่มีเทคนิคมากมายในปัจจุบันนี้ แล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้ทั้งหมดเพียงแค่ดูวิดีโอที่สอนให้ทำ นอกจากนี้หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่างทำผม ให้ขอดูใบรับรอง และอย่าเชื่อคำพูดของพวกเขา
  • แม้แต่ร้านเสริมสวยที่ราคาแพงที่สุดก็อาจพยายามหลอกลวงคุณได้ เพราะมีพนักงานคนหนึ่งของเราได้บอกกับเราว่าเจ้านายคนก่อนของเธอนั้น ให้พวกเธอล้างถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง และเติมของราคาถูกลงในขวดผลิตภัณฑ์ราคาแพง เนื่องจากเธอพยายามที่จะประหยัดเงิน

เกี่ยวกับความคาดหวังอันล้มเหลว

“เป็นไปได้ยังไงกันที่จะยืดผมให้ตรงเหมือนกับที่ร้านทำ?”

  • มีความคิดเห็นยอดฮิตที่ว่าตัดผมทรงไหนก็ดูดีทุกคน อีกด้านหนึ่งทรงผมคลาสสิกบางทรงก็ดูดีกับแทบทุกใบหน้า แต่ก่อนที่จะตัดผม ควรฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ แล้วถ้าพวกเขามั่นใจว่าคุณไม่เข้ากับทรงผมบางทรง มันอาจจะจริงก็ได้ เพราะหลังจากตัดผมและจัดแต่งทรงแล้ว คุณจะดูดี แต่ว่าคุณจะทำยังไงกับมันในเช้าวันรุ่งขึ้น? คุณอาจจะต้องใช้เครื่องลอนผมและอุปกรณ์อื่น ๆ
  • หากคุณเลือกที่จะเปลี่ยนสีผมที่แตกต่างไปมาก ๆ และคุณได้เคยใช้เฮนน่ามาก่อนหน้านี้ ให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่างทำผมของคุณรู้เรื่องนี้ดี เพราะเฮนน่าจากธรรมชาติมีเม็ดสีที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมแบบสารเคมี แถมผลลัพธ์จากการย้อมผมด้วยเฮนน่าก็อาจคาดเดาไม่ได้
  • ข่าวร้ายสำหรับผู้ที่ต้องการย้อมผมด้วยสีแปลก ๆ เช่น สีเขียวหรือสีม่วง สีเหล่านี้คงอยู่ได้ไม่นาน และเพื่อยืดอายุความสว่างของมัน คุณจะต้องทำขั้นตอนนี้ใหม่ทุก ๆ เดือน
  • ลูกค้าประจำรายหนึ่งของเราย้อมผมสีแดงมาเป็นเวลานานแล้ว เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง เราต้องสระผม 3 ครั้ง จากนั้นค่อยย้อมผมแล้วถึงปรับสี ผมของเธอยาวค่อนข้างมากจึงใช้เวลาทำ 6 ชั่วโมง แล้วก็เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่เด็กสาวพยายามดิ้นรนเพื่อรักษาสีและสไตล์นี้เอาไว้ โดยสีนั้นค่อนข้างแดงและดูสกปรก อีกทั้งผมนั้นก็จัดทรงยาก และเปราะบางสุด ๆ
  • อย่างไรก็ตาม สำหรับผมสีสว่างสดใสนั้น ก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อไม่ให้ผมเสีย นั่นคือคุณสามารถต่อผมได้ (เพียงไม่กี่ช่อ) โดยคุณสามารถย้อมพวกมันเป็นสีใดก็ได้ และค่อยเปลี่ยนมันในอีก 5 ปีข้างหน้า

เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของลูกค้า

  • ทางเราไม่ใช่ร้านเสริมสวยที่แพงที่สุดในเมืองและราคาก็น่าคบหา แต่ลูกค้าบางคนยังคงพยายามให้เรามอบส่วนลดเยอะ ๆ ให้กับพวกเขา บางครั้งร้านเสริมสวยก็พบพวกเขาครึ่งทาง แต่คุณควรเข้าใจด้วยว่าราคาทำผมนั้น ยังรวมไปถึงการสระผมด้วยแชมพูคุณภาพดี อีกทั้งใช้ครีมนวดผมและจัดแต่งทรงผมด้วย ถ้าลูกค้าที่อยากจ่ายน้อยก็จะได้แค่ตัดผมเท่านั้น และที่ตลกที่สุดก็คือลูกค้าบางรายยังคงผิดหวังกับมัน เพราะพวกเขาอยากได้บริการทั้งหมดในราคาเพียงครึ่งเดียว
  • มีอยู่ครั้งนึงลูกค้าขอให้เราจัดแต่งทรงผมของเธอ โดยเธอนั้นต้องการให้ลอนผม พอช่างทำผมทำให้เสร็จเรียบร้อย ลูกค้าก็ไปงานเลี้ยงบริษัทของเธอ แล้วอีก 2 วันต่อมา เธอกลับมาหาเราพร้อมกับขอเงินคืน เพราะเธอคิดว่าลอนจะคงอยู่อย่างนั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ !

คุณเคยใช้บริการทำผมราคาแพง ๆ กันบ้างหรือเปล่า? แล้วบริการใดที่คุณคิดว่าไม่คุ้มกับเงินของคุณ และบริการใดที่มีแต่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถทำได้ ?

เครดิตภาพพรีวิว Depositphotos
แชร์บทความนี้