คุณพ่อผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากลูกสาวข้ามเพศ ในการออกแบบชุดว่ายน้ำที่จะทำให้ลูกสาวข้ามเพศของเขาและคนอื่น ๆ สวมใส่ได้อย่างสบายใจและปลอดภัยไร้กังวล
ความรักที่พ่อคนหนึ่งมีให้กับลูกของตัวเองเป็นสิ่งที่มีพลังมากขนาดที่ทำให้เขาสามารถยอมเสี่ยงเปิดประตูจากโลกของตัวเองไปสู่โลกใบที่เขาไม่เคยรู้จักได้ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเจมี่ อเล็กซานเดอร์ (Jamie Alexander) นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเริ่มการออกแบบชุดว่ายน้ำเพื่อที่จะทำให้ลูกสาวข้ามเพศของเขารู้สึกสบายใจที่จะสวมใส่ และสามารถใช้งานได้จริงเวลาที่จะไปว่ายน้ำหรือเล่นยิมนาสติก ความรักและความทุ่มเทอย่างเต็มเปี่ยมนี้สะท้อนออกมาในแบรนด์ของเขาเอง รูบี้ส์ (RUBIES) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ส่งออกบิกินีให้กับเด็กสาวข้ามเพศทั่วโลก
ชีวิตสดใสอยากจะแบ่งปันเรื่องราวของเจมี่คนที่เมื่อเขาไม่สามารถหาชุดว่ายน้ำน่ารัก ๆ ที่ลูกสาวของเขา รูบี้ สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายใจได้ตามท้องตลาด เขาก็เลยตัดสินใจกระโจนเข้าไปเรียนรู้วิธีที่จะตัดชุดว่ายน้ำแบบที่ว่าเองเสียเลย
เรื่องทุกอย่างเริ่มจากตรงไหน
เจมี่เล่าว่า ตั้งแต่รูบี้อายุได้เพียง 3 ขวบ เธอก็เริ่มชอบอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังที่สังคมมีต่อเพศกำเนิดที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด เธอชอบสวมส้นสูง เต้นเพลงของดิสนีย์กับวิดีโอของบียองเซ่ และตอนนั้นสาวน้อยก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นเจ้าหญิง เจมี่และภรรยาของเขาก็เลยเข้าร่วมกลุ่มครอบครัวที่มีปัญหาคล้ายคลึงกัน ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยเครือข่ายโรงเรียนเอกชนในโตรอนโต เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูกในการหาคำตอบว่าเธออยากจะเรียกตัวเองว่าเป็นเพศชาย ตามเพศที่เธอเกิดมา หรือเพศหญิง หรืออาจจะไม่ทั้งสองอย่างก็ยังได้
เมื่อรู้บี้อายุได้ 11 ปี เธอก็ถามกับพ่อแม่ว่าเธอใส่บิกินีเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้ไหม และด้วยความมุ่งมั่นที่ครอบครัวอยากจะทำให้เด็กสาวพึงพอใจ พวกเขาก็เลยซื้อบิกินี “ปกติ” ให้เธอใส่เสียเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วในตอนแรก บิกินีพวกนี้ลูกสาวพวกเขาก็ใส่ออกมาดูดีอยู่นะ
โดยระหว่างที่พวกเขาออกทริปท่องเที่ยวไปยังประเทศที่ไม่คุ้นเคย พวกเขาก็จะค่อย ๆ พิจารณาดูว่ารูบี้ได้รับการยอมรับมากแค่ไหนเมื่อใส่บิกินีบนชายหาด
เจมี่สังเกตว่าวงการแฟชั่นได้ออกแบบให้เด็กหญิงข้ามเพศต้องใส่บิกินีท่อนล่างที่ทำออกมาให้มองเห็นได้ชัดเจนเสียเหลือเกิน ด้วยการมีแผ่นรองหนา ๆ ไว้ข้างหน้าซึ่งดูผิดปกติเอามาก ๆ สิ่งที่เด็กผู้หญิงสักคนต้องการก็แค่บิกินีน่ารัก ๆ ที่พวกเธอจะสามารถสวมใส่เดินเล่นชายหาดหรือเล่นยิมนาสติกได้โดยที่พวกเธอต้องการรู้สึกว่าสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายใจและมีความมั่นใจเท่านั้นเอง ดังนั้น คุณพ่อของเด็กสาวจึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะใช้ความรักและความใส่ใจทั้งหมดที่มีต่อลูกสาวคนนี้ในการสร้างสรรค์บิกินีเหล่านั้นขึ้นมาเอง
นักพัฒนาซอฟต์แวร์คนหนึ่งกลายเป็นนักออกแบบชุดเดินชายหาดได้อย่างไรกันนะ
ในเดือนตุลาคมปี 2019 เจมี่จึงสานต่อจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการของตัวเอง ด้วยการทิ้งตำแหน่งซีทีโอที่บริษัทซอฟต์แวร์ที่เขาก่อตั้งขึ้นเอง เพื่อมาเริ่มจับธุรกิจใหม่ที่เรียกว่า รูบี้ส์ (RUBIES) โดยมีภารกิจที่เป็นเป้าหมายสำคัญคือการรังสรรค์บิกินีท่อนล่างที่พอดีกับเด็กสาวข้ามเพศ รวมทั้งเด็กผู้ชายที่ไม่ได้มีสำนึกทางเพศที่จำกัดอยู่เพียงแค่ชายหรือหญิง (non-binary boys) โดยกลุ่มเป้าหมายคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี ภายใต้คติที่ว่า “เด็กหญิงทุกคนควรค่าแก่การเปล่งประกาย”
ก้าวแรก ๆ ของเขาในวงการแฟชั่น
เจมี่เตรียมตัวและได้สมัครขอทุนเพื่อเตรียมความพร้อมบ่มเพาะเข้าสู่การเป็นสตาร์ตอัพในวงการแฟชั่นที่มหาวิทยาลัยไรเยอร์สันในโตรอนโต เพื่อรับการแนะนำแนวทางในการพัฒนาธุรกิจของเขา ที่นั่น เขาได้พบกับโอเลน่า วิฟชาร์ยุก (Olena Vivcharyuk) วิศวกรสิ่งทอในแถบนั้น ซึ่งเป็นผู้ที่ชี้แนะและวิเคราะห์ทรรศนะของเจมี่ ตลอดจนช่วยเขาออกแบบและช่วยตัดเย็บแบบจำลองบิกินีท่อนล่างตัวแรกในแบรนด์รูบี้ส์ (RUBIES) และสุดท้ายตามมาด้วยแคต (Cat) ผู้ประกอบการด้านแฟชั่นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาร่วมทีมในภายหลัง และพวกเขาก็สามารถทำตัวอย่างแรกออกมาทั้งหมด 20 ตัวอย่าง
การออกแบบครั้งแรก ๆ ของพวกเขาเป็นอย่างไร
พวกเขาเริ่มจากการตัดเย็บบิกินีท่อนล่างโดยการผสานผ้าสแปนเด็กซ์ที่รัดกล้ามเนื้อเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ได้ขนาดที่กะทัดรัดพอดีตัว ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกสวมใส่สบายมากขึ้นเมื่อต้องทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่มีเพศกำเนิดตรงกับเพศสภาพ นอกจากนี้ พวกเธอเหล่านั้นยังสามารถใส่บิกินีท่อนล่างตัวนี้เสมือนกางเกงชั้นใน เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจมากขึ้นได้ด้วย
เจมี่ตื่นเต้นมากที่จะเริ่มทำการทดสอบบิกินีท่อนล่างชุดทดลองเหล่านี้เพื่อให้ได้คำแนะนำติชมกลับมาจากการออกแบบนี้ของเขา ดังนั้น ในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกในกลุ่มเฟสบุ๊กหลายกลุ่มที่เป็นพ่อแม่ของเด็ก ๆ ข้ามเพศ เขาก็เลยยื่นข้อเสนอ โดยขอเพียงแลกเปลี่ยนกับเวลาเพียงเล็กน้อยและคำแนะนำติชมกลับมาเท่านั้น เขาก็จะจัดส่งบิกินีท่อนล่างไปทางไปรษณีย์ให้ฟรี ๆ
แบรนด์นี้เป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของรูบี้ออกมาจริง ๆ ทั้งสนุกสนาน สดใส เต็มไปด้วยพลังชีวิตแง่บวกและยังมีความอบอุ่น เธอสามารถเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสำหรับการเต้นรำหรือแม้กระทั่งการถ่ายแบบ ความตั้งใจของเจมี่คือการเน้นไปยังเรื่องราวแง่บวกของเด็ก ๆ ข้ามเพศ และพยายามที่จะทำให้เรื่องราวของพวกเขาเป็นสิ่งปกติธรรมดา เพื่อที่ว่าทุกคนจะได้รู้สึกสบายใจกับร่างกายของตนเองไม่ว่าจะเป็นเช่นไร
โดยรูบี้จะเขียนข้อความเล็ก ๆ แนบไปกับออเดอร์ที่สั่งมา ข้าง ๆ กับสโลแกนของแบรนด์ที่เขียนไว้ว่า “เด็กหญิงทุกคนควรค่าแก่การเปล่งประกาย ขอบคุณที่สนับสนุนนะคะ ขอให้มีความสุขกับบิกินีตัวนี้ จากเจมี่และรูบี้” สาวน้อยและคุณพ่อของเธอต้องการจะส่งต่อความรู้สึกขอบคุณที่ผู้คนไว้ใจพวกเธอ พร้อม ๆ กับส่งข้อความสร้างความหวังและกำลังใจต่อไปอีกด้วย
เส้นทางสู่โครงการใหม่ ๆ “เป็นเรื่องสำคัญมากที่ครอบครัวหลาย ๆ ครอบครัวและลูก ๆ ของพวกเขาควรจะได้มีโอกาสติดต่อกันแบบตัวต่อตัว”
สำหรับโครงการใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึง เจมี่ตั้งใจที่จะอุทิศตนเพื่อออกแบบผ้าขนหนูสำหรับใช้ที่ริมชายหาด บิกินีท่อนบน บิกินีท่อนล่างเอวสูง เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของคนที่ต้องการซื้อหา เพื่อสนับสนุนคนที่มีรูปร่างแบบต่าง ๆ และรูบี้ก็ช่วยเหลือเขาด้วยการใช้เวทมนตร์และความกระตือรือร้นของเธอ
“ในปีหน้า เป้าหมายของผมกับแบรนด์รูบี้ส์ (RUBIES) คือการช่วยเชื่อมโยงครอบครัวต่าง ๆ ที่มีลูก ๆ ที่ต่างมีความคิดที่คล้ายคลึงกัน และอยู่ห่างกันเพียงแค่ในระยะทางที่พวกเขาจะสามารถไปมาหาสู่กันได้ ผมกำลังวางแผนที่จะสร้างแผนที่ที่สามารถค้นหากลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนที่สนับสนุนกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส (LGBTQ+) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการกีดกันเด็ก ๆ และผู้ปกครองเหล่านี้ ผมกำลังมีโครงการที่เรียกว่า กลุ่มเพื่อนรูบี้ส์ (RUBIES Friends) ที่จะช่วยติดต่อเชื่อมโยงพ่อแม่และเหล่าเด็ก ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถพบกันได้ในพื้นที่ใกล้บ้าน”
คำแนะนำถึงพ่อแม่ที่มีลูกข้ามเพศ
เจมี่ไม่มีคำตอบสำหรับทุกปัญหาหรอก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาและภรรยาสามารถเรียนรู้ไปด้วยกันกับลูกได้ โดยการยินยอมให้ลูกสาวเป็นคนชี้แนะพวกเขาเอง “แค่ทำตามคำแนะนำของลูกคุณ และที่สำคัญที่สุด คุณจะต้องมอบสิ่งแวดล้อมที่พร้อมจะสนับสนุนและจับมือไปด้วยกันตลอดเวลา โดยใช้ความรัก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไปพร้อม ๆ กับพวกเขา”
เรื่องราวของรูบี้และครอบครัวของเธอเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากว่าความรักและความเข้าใจสามารถทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ได้อย่างไร คุณมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ อื่น ๆ ที่จะแบ่งปันให้เราได้รู้อีกไหม ?