ความเห็นที่ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ มีต่อรูปร่างของเคต วินสเล็ตเปลี่ยนชีวิตของเธอและมิตรภาพของพวกเขาได้อย่างไร

พวกเขาไม่ใช่คู่รักกัน แต่การปรากฏตัวร่วมกันของพวกเขาทำให้แฟน ๆ คลั่งกันขึ้นมาได้เลย ความสัมพันธ์อันน่ารักและบริสุทธิ์ใจต่อกันระหว่างนักแสดง ลีโอนาร์โด ดีแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) กับ เคต วิทสเล็ต (Kate Winslet) พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสัมพันธ์ที่คงทนยาวนานผ่านกาลเวลานั้นเป็นไปได้จริงในฮอลลีวูด แต่ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากสำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คือความคิดเห็นที่ดีแคพรีโอมีต่อร่างกายของวินสเล็ตตลอดช่วงที่ถ่ายทำ ไทเทนิค มันมีส่วนผลักดันด้วย และคำพูดอันทรงพลังนั้นก็ช่วยเปลี่ยนวิธีการมองชีวิตของวินสเล็ตไปเลย

พวกเราที่ชีวิตสดใสเชื่อว่าทุกคนเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากคำพูดของดีแคพรีโอได้ ดังนั้นจงอ่านต่อไปเพื่อดูว่าคำพูดนั้นคืออะไรและมันมีผลต่อการมองรูปร่างของวินสเล็ตอย่างไร

เคต วินสเล็ตเคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าเธอถูกล้อและแกล้งเพราะเรื่องน้ำหนักตัวของเธอ

แม้แต่นักแสดงที่สวย มีความสามารถ และได้รับรางวัลมามากมายก็ยังถูกเอาไปพูดว่าเพราะเธอไม่ได้เข้ากับมาตรฐานของสังคมในเรื่อง “รูปร่างที่สมบูรณ์แบบ” เมื่อเธอยังเด็กกว่านี้ เธอเคยถูกขังเอาไว้ในตู้และล้อเลียนเรื่องความฝันในการเป็นนักแสดงของเธอ โดยคนที่แกล้งเธอบอกเธอว่าเธอจะได้รับแต่บท “ผู้หญิงอ้วน” เท่านั้น

ตอนอายุ 19 ปีเธอยังตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายของหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เธอเล่าเรื่องที่หนังสือพิมพ์จะพูดถึงไซส์ของเธอ ประมาณว่าเธอมีน้ำหนักมากแค่ไหน และรายงานว่าเธอควรจะกำลังอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก

ความคิดเห็นที่ไม่ได้รับเชิญเกี่ยวกับร่างกายของเธอเหล่านี้ส่งผลกระทบกับความมั่นใจของเธอ

วินสเล็ตยอมรับว่าการใคร่ครวญเรื่องรูปร่างของเธอมีผลกับวิธีที่เธอมองตัวเองและความเข้าใจเกี่ยวกับ “ความงาม” ของเธออย่างมาก ครั้งหนึ่ง นักแสดงสาวคนนี้รู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นกังวลมาก ๆ ว่าคนในวงการฮอลลีวูดจะมองเธออย่างไร

ขณะที่กำลังถ่ายทำไททานิค ลีโอนาร์โด ดีแคพรีโอพูดบางอย่างเกี่ยวกับร่างกายของเธอที่ยังอยู่ในใจของเธอ

ในการสัมภาษณ์กับโอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) วินสเล็ตเล่าย้อนไปอย่างไม่ทันได้วางแผนมาก่อนว่า ดีแคพรีโอบอกเธอว่า “มันสำคัญมากเลยนะที่เธอมีรูปร่างแบบที่เธอมี” ตอนที่เธอถามเขาว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เขาบอกว่ามีผู้หญิงหลายคนที่เชื่อว่ามีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ เป็นที่รัก และถูกมองว่าสวย นั่นก็คือการต้องเป็นคนผอม

คำพูดนี้ติดอยู่ในใจของวินสเล็ตอยู่นาน และเธอก็รู้ว่าเขาพูดถูก ในยุค 1990 การรณรงค์เรื่องการมีทัศนคติที่ดีกับร่างกายของตัวเองไม่ได้เป็นที่นิยมขนาดนั้น และสารที่กำลังส่งออกไปให้กับเด็กผู้หญิงก็คือทางเลือกเดียวของพวกเธอคือต้องผอมเท่านั้น

บทสนทนาของพวกเขาทำให้วินสเล็ตมีพลังที่จะกลายมาเป็นแนวหน้าของคนที่มีทัศนคติที่ดีกับร่างกายของตัวเอง

เธอบอกโอปราห์ว่าการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สำหรับการแสดงภาพยนตร์เรื่องไททานิคของเธอทำให้เธอรู้ว่าเธอทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้ในฐานะนักแสดงโดยไม่ต้องเป็นคนผอมหรือต้องอดอาหาร การรณรงค์ของเธอในเรื่องทัศนคติที่ดีต่อรูปร่างของตัวเองแข็งแรงขึ้นเมื่อเธอได้กลายเป็นคุณแม่ เพราะเธอไม่ได้อยากให้ลูกสาวของเธอต้องทรมานกับการต่อสู้ภายในใจอีกแล้ว

เธอรู้สึกว่าเวลามันได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะกับกระแส #มีทู และผู้หญิงที่ไม่กลัวที่จะพูดอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ วินสเล็ตเชื่อว่าการมีอายุมากขึ้นไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี และในการทำให้คำพูดเป็นรูปธรรมมากขึ้น เธอขอไม่ให้บริษัทเครื่องสำอางตกแต่งภาพของเธอเพิ่มเติมเลย

ความจริงใจและการสนับสนุนที่ดีแคพรีโอและวินสเล็ตมีให้แก่กันทำให้พวกเขาได้มี #เป้าหมายของมิตรภาพ ในระดับสูงสุด

ยังมีการอ้างอิงว่าวินสเล็ตกล่าวถึงนักแสดงนำคู่กับเธอคนนี้ว่าเป็น “คนมั่นคงและซื่อสัตย์” และพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับดิแคพรีโอที่นึกถึงประโยชน์ของเธอเป็นที่สุด ตอนที่เขาพูดคำพูดที่เปลี่ยนชีวิตของเธอในตอนนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขามีอายุยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ และความสัมพันธ์อันแสนน่ารักของพวกเขาก็มีให้เห็นเด่นชัดทุกครั้งที่พวกเขาเดินดด้วยกันบนพรมแดงในช่วงที่มีการประกาศรางวัล

มีการรายงานว่าดิแคพรีโอได้เข้าร่วมงานแต่งงานครั้งที่สามของวินสเล็ตด้วย — ไม่ใช่ในฐานะเจ้าบ่าวนะ แต่ในฐานะผู้ชายที่เดินมาส่งตัวเธอให้เจ้าบ่าว (โอวววว) วินสเล็ตเผยว่าเธอร้องไห้ตอนที่พวกเขาได้พบกันหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันมา 3 ปีซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ว่าจะใกล้ จะไกล หรือไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน (ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นคำนะ) พวกเขาก็จะรักกันและกันในฐานะเพื่อนเสมอ

คุณก็เป็นแฟนคลับของคู่ลีโอ-เคตด้วยหรือเปล่า ? คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับความเห็นในเรื่องรูปร่างของวินสเล็ตที่ดีแคพรีโอเสนอ ? มาตรฐานความงามอะไรที่คุณคิดว่าควรจะได้รับการเปลี่ยนแปลงและพูดถึงอย่างเปิดกว้างให้มากขึ้น ?