แม้นางแบบสาวจะมีขาข้างหนึ่งหนัก 45 กิโลกรัม แต่เธอก็มีความมั่นใจและอยากแสดงให้โลกเห็นว่าความแตกต่างนั้นสวยงาม

มะฮอกกานี เกเตอร์ (Mahogany Geter) นางแบบสาววัย 24 ปี เกิดมาพร้อมกับบางส่วนของร่างกายที่ผิดแปลกทำให้เธอมีขาหนักถึง 45 กิโลกรัม หลังจากประสบกับความลำบากมาทั้งชีวิต เมื่อเธอได้รับโอกาสในการเป็นนางแบบ ชีวิตของเกเตอร์ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล โดยเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางเพื่อเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับทัศนคติเชิงบวกต่อร่างกายแก่ผู้อื่น

เธอเกิดมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่หายาก

มะฮอกกานี เกเตอร์ ชาวเทนเนสซี เกิดมาพร้อมกับอาการที่หายากซึ่งทำให้เธอมีขาซ้ายที่หนักถึง 45 กิโลกรัม ภาวะนี้เรียกว่าภาวะบวมน้ำเหลือง (lymphedema) ซึ่งสามารถทำให้ของเหลวส่วนเกินสะสมในเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกายและนำไปสู่อาการบวมได้ สำหรับเกเตอร์ ร่างกายด้านซ้ายทั้งหมดของเธอได้รับผลกระทบจากอาการนี้ แต่มีเพียงขาของเธอเท่านั้นที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

เกเตอร์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ทันทีหลังจากที่เธอเกิด และมันทำให้เธอเดินยากมาก “แน่นอนว่ามันทำให้พลังงานของฉันหมด เพราะมันมีน้ำหนักเกิน 45 กิโลกรัม” เธอกล่าว ภาวะนี้ทำให้เธอไวต่อการหดตัวของพังผืดมากกว่า และวิธีเดียวที่จะจัดการกับมันได้คือการทำกายภาพบำบัดและการนวดเพื่อระบายของเหลวส่วนเกินที่ขาของเธอ

เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเติบโต

นางแบบสาวพูดถึงการที่เธอต้องเผชิญปัญหามากมายเมื่อโตขึ้น: “ฉันเคยรู้สึกหดหู่อย่างมากเพราะยังเป็นเด็กน้อย และมีผู้ใหญ่จำนวนมากจ้องมองมาที่ฉัน” เธอได้รับคำพูดที่ไม่สมควรมากมายจากผู้อื่นและถูกล้อเลียนตลอดวัยเด็กของเธอ “ฉันอยากบอกว่ามันสามารถส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์ของฉันมากเลยล่ะ” เธอเปิดเผย

“ตอนเด็กๆ ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่ารักเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียด เหมือนตัวประหลาดยังไงยังงั้น และมักจะแอบร้องไห้หลายครั้ง” เกเตอร์กล่าว เธอได้รับคำแนะนำให้ทำศัลยกรรมโดยแพทย์หลายคน แต่เธอปฏิเสธทุกครั้ง โดยระบุว่าในบางกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น การผ่าตัดไม่ได้กำจัดการลุกลามของอาการออกไปได้โดยสิ้นเชิง แต่เธอเลือกที่จะยอมรับตัวเองอย่างที่เธอเป็น

เธอเริ่มเส้นทางการเป็นนางแบบในปี 2017

ชีวิตของเกเตอร์เปลี่ยนไปตลอดกาลในปี 2017 เมื่อช่างภาพพบเธอขณะทำงานที่วอลมาร์ท ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นช่างภาพปลอมแต่สุดท้ายเธอก็ยอมให้ช่างภาพถ่ายรูปเธอในที่สุด “ฉันแบบ ’ฉันโตขึ้นแล้ว บางทีอาจถึงเวลาที่ฉันเลิกปกปิดร่างกายของฉันและเปิดมันให้ทุกคนได้รับรู้ และฉันหวังว่าการทำเช่นนั้นจะช่วยคนอื่นได้” เธอกล่าว

โอกาสนี้ทำให้เกเตอร์มีอาชีพเป็นนางแบบ ต่อจากนั้น เธอได้แสดงในวิดีโอยูทูปซึ่งเป็นไวรัลโดยมียอดดูมากกว่า 10 ล้านครั้ง การปรากฏตัวของเธอบนอินสตาแกรมและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน “โดยพื้นฐานแล้ว ฉันได้รับการตอบรับเชิงบวกมากมาย และสิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือการช่วยให้คนที่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองได้มีความมั่นใจมากขึ้น” เธอกล่าว

เธอตั้งเป้าที่จะช่วยให้ผู้อื่นได้ภูมิใจกับร่างกายอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

แม้ว่าเธอจะปรากฏตัวบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้นซึ่งส่งผลให้เจอกับการเกรียน ป่วน และพูดจาไม่ดีต่างๆ ใส่ แต่ เกเตอร์ ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีมาตลอด โดยกล่าวว่า “ผู้คนใจดีและให้การสนับสนุนฉันทางออนไลน์ มันไม่ได้มีแค่ข้อความเกรียดๆ หรือข้อความเชิงลบไปเสียทั้งหมด” เธอยังคงมีความสม่ำเสมอในการเผยแพร่ทัศนคติเชิงบวกต่อร่างกายและส่งเสริมให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจกับร่างกายตัวเองมากขึ้น

เกเตอร์มุ่งมั่นทำตามฝันที่จะเป็นนางแบบ “ถ้าฉันประสบความสำเร็จ ฉันอยากซื้อบ้านให้แม่และดูแลครอบครัวของฉัน จากนั้นฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปลุกจิตสำนึกต่อภาวะบวมน้ำเหลืองเพื่อตอบแทนให้กับทุกคนที่ดีต่อฉัน” เธอยังคงใช้สภาพร่างกายของเธอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นชื่นชมความแตกต่างของพวกเขาเช่นกัน

การเดินทางของเธอเป็นแรงบันดาลใจมากมาย

แม้ว่าการเดินทางของเกเตอร์จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองและให้คำมั่นว่าจะเผยแพร่ทัศนคตินี้แก่ผู้อื่น “เกือบตลอดชีวิตที่ผ่านมาในวัยเด็ก เพราะร่างกายเป็นแบบนี้ฉันเลยรู้สึกต่ำต้อย แต่เมื่อโตขึ้นและได้รับการสนับสนุนมากมายจากชุมชนภาวะบวมน้ำเหลืองออนไลน์และแม่ที่เป็นแรงบันดาลใจของฉัน ฉันก็ตระหนักได้ว่าตัวเองสวยแค่ไหน ไม่ใช่แค่หน้าตาเท่านั้น แต่หมายถึงในฐานะคนๆ หนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเอง”

ส่วนไหนของการเดินทางของมะฮอกกานี เกเตอร์ที่โดนใจคุณมากที่สุด? คุณมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่พยายามยอมรับร่างกายของตนเองหรือไม่? แบ่งปันกับเราหน่อยสิ