นักร้อง 13 คนที่เขย่าฟลอร์เต้นรำด้วยเพลงของพวกเขาในยุค 2000 ดูเปลี่ยนไปอย่างไรกันบ้าง

เราวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นรำ ตกหลุมรัก รู้สึกแย่ และออกเดตไปพร้อมกับการฟังเพลงเหล่านี้ เราต่างมีความสุขไปกับบทเพลงเป็นอย่างมากและยังเป็นเด็กในตอนนั้น แล้วนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นในใจทุกครั้งที่ได้ฟังเพลง “เซย์ อิท ไรท์ (Say It Right)” ของเนลลี่ เฟอร์ทาโด้ (Nelly Furtado), เพลง “เฟมมี ไลก์ ยู (Femme Like You)” ของเค-มาโร่ (K-Maro) และ “ยัว บิวตี้ฟูล (You’re Beautiful)” ของเจมส์ บลันท์ (James Blunt)

1. เจมส์ บลันท์

เพลง “ยัว บิวตี้ฟูล (You’re Beautiful)” ที่ขับร้องโดยเจมส์ บลันท์ (James Blunt) นักดนตรีหนุ่มชาวอังกฤษได้เปิดตัวในปี 2004 สาว ๆ หลายล้านคนได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อเพลงและตกหลุมรักนักร้องหนุ่มผมยาวคนนี้ในทันที โดยเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงรักที่สำคัญในช่วงกลางยุค 2000 และหนุ่มเจมส์ บลันท์สุดโรแมนติกก็มีกองทัพแฟนเพลงมากมาย

แม้ว่าความนิยมของบลันท์จะลดลงหลังจากผ่านไปสองสามปี แต่ทุกวันนี้เขายังคงขึ้นแสดง เล่นเปียโน และบันทึกเพลงเพราะ ๆ ให้เราได้ฟัง โดยหนุ่มเจมส์เพิ่งจะปล่อยเพลงซึ้ง ๆ ที่ชื่อว่า “มอนสเตอร์ส (Monsters)” ที่ได้อุทิศให้กับพ่อของนักดนตรีของเขาที่ป่วยหนัก

2. เจอรี่ ฮัลลิเวล

เจอรี่ ฮัลลิเวล (Geri Halliwell) อดีตสาววงสไปซ์ เกิร์ล (Spice Girl) ได้เขย่าฟลอร์เต้นรำในปี 2001 ด้วยเพลง “อิทส์ เรนนิ่ง เม็น (It’s Raining Men)” เวอร์ชันใหม่ โดยเพลงต้นฉบับถูกแต่งขึ้นตอนต้นยุค 1980 และกลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วโลกเมื่อถูกนำมาเล่นโดยเดอะ เวทเธอร์ เกิร์ลส (The Weather Girls)

เจอรี่ได้ปลุกชีวิตใหม่ให้กับเพลงเก่าและเพลงนี้ก็โด่งดังในทันที ซึ่งเป็นผลให้เธอสามารถสร้างอาชีพนักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาอดีตสมาชิกของวงสไปซ์ เกิร์ลได้เลยทีเดียว

ต่อมาในปี 2007 เธอตัดสินใจหยุดพักจากการร้องเพลงและลองทำงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ แต่นักร้องสาววัย 47 ปีรายนี้ยังคงทำให้แฟน ๆ ของเธอมีความสุขด้วยการปล่อยเพลงใหม่ ๆ ออกมา

3. ดาร์เรน เฮย์ส

ในช่วงปลายยุค 1990 วงดนตรีดูโอชาวออสเตรเลียที่ชื่อซาเวจ การ์เด้นท์ (Savage Garden) ได้รับความนิยมสูงสุด และเพลงฮิตอย่าง “ทู เดอะ มูน แอนด์ แบ็ค (To The Moon and Back)” ก็ยังคงอยู่ในใจเรา แต่แล้วในช่วงต้นยุค 2000 วงก็แตกและนักร้องได้ตัดสินใจแยกทางกัน

ดาร์เรน เฮย์ส (Darren Hayes) เริ่มต้นอาชีพนักร้องเดี่ยวและก็ประสบความสำเร็จอย่างเต็มเปี่ยม โดยเพลง “อินเซเชียเบิล (Insatiable)” ของเขาก็อาจเป็นหนึ่งในเพลงรักสุดซึ้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ชื่นชมมิวสิกวิดีโอเพลงที่เปิดตัวในปี 2002 ที่เขาแสดงเอง

ปัจจุบันดาร์เรนใช้ชีวิตแบบเงียบ ๆ ในลอสแองเจลิสและไม่ค่อยได้ขึ้นแสดง โดยเขาเป็นแฟนตัวยงของสตาร์ วอร์ส (Star Wars) และรักน้องหมาของเขามาก ซึ่งมันอยู่ในรูปถ่ายเกือบทุกรูปในอินสตาแกรม (Instagram) ของเขา

4. เอคอน

ในปี 2006 นักร้องหนุ่มชาวอเมริกันเอคอน (Akon) กับเอมิเน็ม (Eminem) ได้ปล่อยเพลงที่ชื่อ “สแม็ค แดท (Smack That)” ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิตในฟลอร์เต้นรำอย่างรวดเร็ว

สำหรับตัวนักร้องหนุ่มแล้ว เขาอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพของเขาตั้งแต่ปี 2006-2010 จากนั้นแร็ปเปอร์หนุ่มก็หยุดพักการแสดงเป็นเวลานาน แล้วจากการตัดสินจากบัญชีอินสตาแกรมของเอคอน ก็จะเห็นว่าทุกวันนี้เขายังคงขึ้นแสดงอยู่เรื่อย ๆ อีกทั้งเขามักจะไปเซเนกัลอยู่บ่อย ๆ และมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตในประเทศบ้านเกิดของเขา

5. เนลลี่ เฟอร์ทาโด้

เราต่างรักนักร้องสาวชาวแคนาดาที่ชื่อเนลลี่ เฟอร์ทาโด้ (Nelly Furtado) กับเพลง “เซย์ อิท ไรท์ (Say It Right)” ของเธอ โดยเนลลี่โด่งดังมากในช่วงยุค 2000 และเพลงที่เธอขับร้องร่วมกับจัสติน ทิมเบอร์เลค (Justin Timberlake) และทิมบาแลนด์ (Timbaland) อย่างเพลง “กีฟ อิท ทู มี (Give It To Me)” และเพลง “พรอมมิสคิวอัส (Promiscuous)” ก็ได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากและอยู่ในอันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงมากมาย

ต่อมาเนลลี่ เฟอร์ทาโด้ได้แต่งงานและหายหน้าหายตาไปจากสื่อระยะหนึ่ง แต่ปัจจุบันเธอได้หย่าร้างและขึ้นแสดงโชว์บ้างเป็นครั้งคราว

6. โมบี้

ในปี 2005 ดีเจชาวอเมริกันและนักดนตรีหนุ่มได้เห็นเพลง “ลิฟท์ มี อัพ (Lift Me Up)” ในฝันของเขา ซึ่งเขาได้ใส่เพลงนี้ไว้ในอัลบั้มของเขาในนาทีสุดท้าย แล้วคนดูก็ชื่นชอบเพลงนี้มากที่สุด

ปัจจุบันโมบี้ (Moby) อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส ทำเพลง และมีกิจการร้านอาหารกับร้านกาแฟเล็ก ๆ

7. อัชเชอร์

มีใครบ้างไม่ร้องตามไปกับเพลง “เย่ ! (Yeah!)” ของหนุ่มอัชเชอร์ (Usher) ? โดยเพลงนี้ได้รับความนิยมและอยู่ในอันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงมากมายเป็นเวลานานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว

อัลบั้มเพลงล่าสุดของอัชเชอร์ปล่อยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนักร้องหนุ่มทำธุรกิจ โดยเขามีค่ายเพลงและเปิดตัวน้ำหอมของตัวเอง อีกทั้งเขายังเป็นเจ้าของร่วมของทีมบาสเก็ตบอลคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส (Cleveland Cavaliers) และได้เปิดร้านอาหารหลายแห่ง

8. ไดโด้

ไดโด้ (Dido) โด่งดังไปทั่วโลกในตอนที่เอมิเน็ม (Eminem) ได้นำท่อนหนึ่งจากเพลง “แต้งกิ้ว (Thank You)” ของเธอใส่ลงในเพลงฮิตของเขาอย่างเพลง “สแตน (Stan)” อีกทั้งไดโด้ยังมีส่วนร่วมในมิวสิควิดีโอเพลงของเขาด้วย โดยเธอได้อธิบายการทำงานร่วมกันครั้งนี้ว่า “ตอนที่ฉันได้รับจดหมายในฝันของฉัน พวกเขาเขียนถึงฉันว่าเรารักอัลบั้มของคุณ และเราเลือกเพลงหนึ่งเพลงเป็นแบบ แล้วเราก็หวังว่าคุณจะไม่ผิดหวังและจะชอบผลลัพธ์ในตอนท้ายเช่นกัน”

ในช่วงท้ายยุคมิลเลนเนี่ยม ไดโด้ได้ปล่อยเพลง “มาย เลิฟเวอร์ส กอน (My Lover’s Gone)” อันแสนเศร้า ซึ่งได้กลายมาเป็นเพลงประกอบซีรีส์ทีวีเรื่อง เดอะ โคลน (The Clone) ที่ผู้คนนับล้านชื่นชอบ

ไดโด้เพิ่งเริ่มกลับมาทำงานเพลงของเธออีกครั้งหลังจากที่หยุดพักไปนาน และเธอก็ได้ออกอัลบั้มที่ 6 ของเธอเมื่อปีที่แล้ว

9. มุสตาฟา แซนดัล

มุสตาฟา แซนดัล (Mustafa Sandal) เป็นหนึ่งในนักร้องหนุ่มชาวตุรกีที่โด่งดังที่สุดในยุโรป โดยเพลงที่โด่งดังที่สุดของเขาก็คือเพลง “สตอรี่ (Story)” และ “ออล มาย ไลฟ์ (All My Life)” ซึ่งเป็นเพลงที่ต้องเล่นในงานปาร์ตี้

อัลบั้มล่าสุดของเขาออกในปี 2015 ปัจจุบันมุสตาฟาอาศัยอยู่ในยุโรปและไม่ค่อยได้ขึ้นแสดงมากนัก โดยเขาใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและชื่นชอบฟุตบอล

10. มิก้า

หนุ่มผมหยิกจากบริเตนใหญ่รายนี้ทำให้เราตกหลุมรักในเสียงสูง ๆ ของเขาและความผ่อนคลายกับความไม่จริงจังจนมากเกินไปอย่างเพลง “รีแล็กซ์, เทค อิท อีซี่ (Relax, Take it Easy)” ที่ครองใจแฟนเพลงนับล้านในทันที โดยอัลบั้มแรกของมิก้า (Mika) ออกวางขายในปี 2007

มิก้าได้ออกเพลงใหม่ช่วงฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคมปี 2019 และก็ปล่อยอัลบั้มที่ 5 ของเขาตอนสิ้นปี

11. ไฟฟ์

ไฟฟ์ (5ive) เป็นวงดนตรีป๊อปสัญชาติอังกฤษที่โด่งดังในช่วงปลายยุค 1990 และต้นยุค 2000 เราจำพวกเขาได้จากเพลงแดนซ์สุดฮิตอย่าง “เอฟวรี่บอดี้ เก็ท อัพ (Everybody Get Up)” และ “วี วิล ร็อค ยู (We Will Rock You)” เวอร์ชันทางเลือก

ต่อมาวงก็ได้ยุบลงในปี 2001 และ 2007 ปัจจุบันมีนักร้องเหลืออยู่ 3 คน

12. แด๊ดดี้ แยงกี้

ในปี 2004 และอีกสองสามปีหลังจากนั้น เราเต้นกันอย่างบ้าคลั่งไปกับเพลง “แก็ซโซลีน่า (Gasolina)” ที่ขับร้องโดยแด๊ดดี้ แยงกี้ (Daddy Yankee) นักร้องหนุ่มชาวเปอร์โตริโก้ โดยเพลงนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในการขึ้นแสดงของเขาไปจนถึงปี 2017 ตอนที่เขาปล่อยเพลง “เดสปาซิโต้ (Despacito)” ซึ่งบันทึกเสียงร่วมกับลูอิส ฟอนซี (Louis Fonsi)

นอกจากนี้นักร้องหนุ่มยังปล่อยเพลงฮิตอีกเพลงอย่าง “คอน คาลม่า (Con Calma)” เมื่อปีที่แล้ว โดยแด๊ดดี้ แยงกี้มีอาชีพที่ประสบความสำเร็จและเขายังคงปล่อยเพลงฮิตเป็นครั้งคราว

13. เค-มาโร่

คุณจำเพลง “เฟมมี ไลก์ ยู (Femme Like You)”, “เครซี่ (Crazy)” และ “เล็ทส์ โก (Let’s Go)” ที่แสนครึกครื้นกันได้มั้ย ? หากคุณจำไม่ได้แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณไปดูมิวสิกวิดีโอเพลงเหล่านี้ทันที แล้วคุณจะรู้สึกหวนคิดถึงความหลังกันเลยล่ะ ขอแจ้งเตือนการโดนสปอยล์ว่ามิวสิกวิดีโอเพลงแรกที่มีโทรศัพท์แบบฝาพับที่มีแต่คนเท่ ๆ เท่านั้นที่เคยมี เกือบทำให้เราร้องไห้กันเชียวล่ะ

เพลงฮิตเหล่านี้สามารถเขย่าฟลอร์เต้นรำได้ ซีริล คามาร์ (Cyril Kamar) นักร้องหนุ่มและโปรดิวเซอร์ชาวแคนาดาที่มีเชื้อสายมาจากอาหรับได้ออกอัลบั้มล่าสุดของเขาในปี 2010 โดยเขาสามารถใช้เงินที่เขาหามาได้ในขณะที่เพลงเหล่านี้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของชาร์ตเพื่อเริ่มต้นทำค่ายเพลงของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงทำงานเป็นโปรดิวเซอร์เพลงในปัจจุบัน นอกจากนี้เขายังอุทิศเวลาและความพยายามอย่างมากเพื่อการกุศล โดยเค-มาโร่ (K-Maro) ได้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับผู้ที่ประสบภัยธรรมชาติและผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อีกทั้งเขายังได้ก่อตั้งองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ อีกด้วย

แม้ว่าเค-มาโร่จะไม่ค่อยเขียนเพลงใหม่ แต่บางครั้งเขาก็ยังคงขึ้นแสดงอยู่ อย่างเช่นเขาได้กลายเป็นนักดนตรีหลักของงานเทศกาลดนตรีในเบลารุสเมื่อปีที่แล้ว

คุณจำเพลงไหนในบทความนี้ได้บ้างนะ ?