18 มารยาทบนโต๊ะอาหารจากทั่วโลกที่จะช่วยทำให้คุณเป็นแขกต่างชาติมือโปร
พอเป็นเรื่องการนั่งลงกินอาหารมื้อใดก็ตามในแต่ละวัน แต่ละประเทศก็จะมีธรรมเนียมเป็นของตัวเอง บางทีกฎพวกนี้ก็ฝังรากลึก ถ้าไม่ทำตามก็อาจจะถูกมองว่าไม่สุภาพได้ ในอีกทางหนึ่ง มันก็เป็นแค่นิสัยง่าย ๆ พื้น ๆ ที่ชาวต่างชาติที่มากินอาหารก็อาจจะละเลยไปได้โดยไม่ดูแปลกแยกไป
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเมื่อไรคุณอาจต้องเจอกับความเป็นไปได้ในการเดินทางไปต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินอาหารต่างจากเรา พวกเราที่ชีวิตสดใสจึงได้เตรียมรายการธรรมเนียมต่าง ๆ จากแต่ละที่ในโลกเอาไว้ให้ มาดูกันว่าคุณจะเข้ากับประเทศไหนได้ดีที่สุด!
- ในญี่ปุ่น ไม่ควรที่จะปักตะเกียบลงบนถ้วยอาหาร หรือว่าคีบตะเกียบส่งอาหารให้กัน นี่ก็เป็นเพราะว่าพิธีการเหล่านี้เขาทำกันในงานศพ แล้วถ้าเอามาทำบนโต๊ะอาหารก็จะดูแย่เอามาก ๆ
- แล้วก็ ในญี่ปุ่นเนี่ย เสียงซู้ดเวลากินบะหมี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย มันเป็นวิถีปฏิบัติในการกินบะหมี่ให้ไวเพราะจะได้ลิ้มกลิ่นหอมของมันได้ดีขึ้น คุณจะต้องซู้ดบะหมี่อย่างตะกละตะกลามหน่อยเพื่อจะได้เข้าใจรสชาติของมัน แต่ว่า ถ้าเผอิญไปกินอย่างอื่นเสียงดังก็อาจจะมีคนมาขมวดคิ้วใส่เอาได้นะ
- ในญี่ปุ่นนี่นะ ถ้าเกิดเจ้าบ้านเขาเสนอของขวัญอะไรให้ ถ้าจะให้ดูมีมารยาทจะต้องบอกปฏิเสธอย่างสุภาพถึงสามครั้ง ถ้าเขาให้อีกครั้งก็ค่อยรับมาได้
- ในฝรั่งเศส ไม่ใช่ว่าจะวางมือเอาไว้ตรงไหนก็ได้เวลากินอาหารนะ ท่านั่งที่ถูกต้องคือต้องเอามือทั้งสองข้างวางไว้บนโต๊ะและถ้าอยากจะเอามือขึ้นมาวางบนโต๊ะก็ไม่เป็นไร
- ในเมืองไทย กับข้าวทุกอย่างจะต้องเอามาแบ่งกันกิน เราก็เลยทำหรือสั่งอาหารกันมากินเป็นหมู่คณะ แล้วก็เวลาที่เริ่มกิน จะดีที่สุดถ้าเราให้คนที่อาวุโสสุดเริ่มกินก่อน ถ้าไม่มีใครกินเลย วิธีที่สุภาพก็คือให้รอจนกว่าจะมีใครสักคนเริ่มกินก่อนเรานั่นเอง
- ในประเทศตะวันออกกลาง สิ่งที่ธรรมดาที่สุดก็คือการกินด้วยมือ แต่ก็มีสิ่งที่พื้นฐานมาก ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่จะดูก่อนเริ่มกิน นั่นก็คือ ต้องใช้มือขวากินเพราะว่าเขาจะมองว่ามือซ้ายเป็นมือที่สกปรก
- ในอังกฤษ เป็นที่รู้กันดีว่าจะมี “เวลาดื่มชา” และมันก็จะมีการกระทำบางอย่างที่จะโดนเขม่นได้ถ้าไปทำเอาช่วงนั้น ยกตัวอย่างเช่น คนชาให้แก้วกับช้อนกระทบกันเสียงดังหรือว่าปล่อยช้อนเอาไว้ในแก้ว เขามีจานเอาไว้เพื่อวางอย่างหลังนี่แหละ
- ในแทนซาเนีย การไม่ตรงเวลาไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ถ้ามีตารางทานอาหารที่นัดกันเอาไว้แล้ว การมาสายสักหน่อยเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะมีประชุมตอนหนึ่งทุ่ม แต่จะไม่เริ่มประชุมก่อนกว่าจะถึงเวลาช่วงประมาณหนึ่งทุ่มครึ่งถึงสามทุ่ม
- ในนอร์เวย์ เวลาที่คุณอยู่ในงานเลี้ยงทางการและมีใครกำลังได้รับการชูแก้วฉลองให้ คุณก็ควรจะชูแก้วด้วย มองไปที่คน ๆ นั้น จิบสักหน่อย แล้วมองไปที่คนคนนั้นอีก แล้วก็ค่อยเอาแก้วลงได้
- ในเมืองไทย อย่างที่รู้กันว่าใช้ช้อนส้อมในการกินอาหาร ช้อนเอาไว้ใช้ตัดหรือแบ่ง และช้อนก็เอาไว้ตักอาหารเข้าปาก เราไม่เตรียมมีดเอาไว้ใกล้ ๆ แน่นอน ดังนั้นถ้าอยากจะตัดอะไรก็ต้องใช้ขอบช้อนตัดเอา
- ในไต้หวัน มีการชื่นชมเชฟว่าอาหารพวกเขาอร่อยในแบบที่เป็นธรรมเนียมเฉพาะตัวมาก ๆ นั่นก็คือการเรอหลังจากกินอิ่ม เจ้าบ้านหรือว่าเชฟจะรู้สึกว่าเป็นคำชมเลยล่ะ
- ในสเปน พอจะเข้าปีใหม่แล้วพวกเขาจะกินองุ่นกัน 12 ลูก
- ในโปรตุเกส ถ้าบนโต๊ะไม่มีกระปุกเกลือหรือพริกไทย การขอสองอย่างนี้จะถูกมองว่าเป็นการดูถูกเชฟเลยทีเดียว คนโปรตุเกสคิดว่านั่นคือการบอกเชฟอ้อม ๆ ว่า “อาหารที่คุณปรุงมามันแย่มาก”
- ในประเทศจีน การกินข้าวจนหมดจานจะหมายความว่าเจ้าบ้าน “ให้อาหารเราไม่มากพอ” ทางที่ดีที่สุดที่ควรจะทำเพื่อให้ดูดีในสายตาเจ้าบ้านก็คือให้เหลืออาหารไว้ในจานเล็กน้อย
- ต่างกับประเทศจีน สำหรับประเทศอินเดีย วิธีที่ดีที่สุดคือกินให้เกลี้ยงจาน ถ้าเหลืออาหารทิ้งไว้คนท้องถิ่นเขาจะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลือง
- ในฝรั่งเศส คนจะขมวดคิ้วใส่คุณแน่ถ้าใข้มีดหั่นผักกาดขาว แล้วมันก็มีเหตุผลทางประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้ด้วยนะ สมัยก่อน อุปกรณ์ตัดหั่นต่าง ๆ เคยทำจากเงินแท้โดยโลหะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและเปลี่ยนเป็นสีเข้มเวลาที่มันโดนน้ำส้มสายชู แม้ว่าปัจจุบันมันจะทำจากวัสดุอื่นแล้วก็ตาม แต่วิถีปฏิบัติพวกนี้ก็ยังจำเป็นต้องทำอยู่ และจะเป็นการดีกว่านะถ้าคุณใช้กรรไกรหรือมือเอา
- ในอิตาลี คนท้องถิ่นเขามักจะไม่ดื่มคาปูชิโน่หลังเวลาอาหารเช้ากัน และถ้าพวกเขาอยากจะได้คาเฟอีนหลังทานอาหารพวกเขาจะจิบเอสเปรสโซ่แทน
- แล้วก็ในอิตาลีเนี่ย คุณจะสั่งพาสต้าใส่ซอสอะไรตามใจฉันไม่ได้นะ พาสต้าแต่ละชนิดก็จะมีซอสที่เอาไว้กินกับมันโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น เส้นสปาเก็ตตีมันแข็งไม่พอที่จะทนซอสที่จับตัวเป็นก้อน แต่จะเข้ากันได้กับซอสที่มีความเข้มข้นแบบครีมมากกว่า
ของแถม: คนทั่วโลกมักทำผิดอะไรเมื่อทำอาหารไทย
ที่บ้านคุณมีธรรมเนียมเฉพาะอะไรที่คนอื่นอาจเห็นว่าแปลกบ้างไหม ?
แชร์บทความนี้