ฉันทำเค้กแต่งงานมา 7 ปีแล้วและนี่คืออีกด้านของงานของฉัน
เค้กเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของงานเฉลิมฉลองทุกรูปแบบ ทุกคนที่เคยลองอบเค้กที่ง่ายที่สุดจะเห็นด้วยว่าการซื้อเค้กที่ทำสำเร็จแล้วนั้นง่ายกว่าการทำเองมาก ทีนี้ลองจินตนาการดูว่าการทำเค้กหลายชั้นที่มีการตกแต่งที่ซับซ้อนในสภาพอากาศและความชื้นเขตร้อนนั้นจะเป็นยังไง และยังมีเรื่องของการขนส่งที่น่าสนใจอีกไม่น้อย
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้พูดคุยกับลิเลีย ซายาร์นายา (Lilia Zayarnaya) นักทำเค้กที่อาศัยอยู่ที่เกาะสมุย (เกาะในประเทศไทย) ผู้ซึ่งทำงานร่วมกับตัวแทนจัดงานแต่งงานในท้องถิ่นและร้านขายขนมปัง และเธอมีการส่งเค้กประมาณ 25 ก้อนต่อเดือน
ฉันกลายมาเป็นคนทำเค้กได้ยังไง
- ฉันเป็นคนที่วาดรูปเก่งและชอบทำงานด้วยมือมาโดยตลอด ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจมาทำอาชีพเป็นคนทำเค้ก ฉันเคยเป็นช่างทำเล็บมาก่อน ในปี 2013 เราตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราและย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย
- ความคิดที่จะเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับขนมหวานเริ่มขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านของฉัน เธอมีตัวแทนในการจัดหาอาหารเล็ก ๆ ในเยอรมนี และเธอก็โชว์รูปเค้กที่พวกเธอทำให้ลูกค้าให้ฉันดู ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นเค้กที่ทำค่อนข้างง่าย แต่ในตอนนั้นมันดูเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์สำหรับฉัน ฉันเลยมีไอเดียที่อยากจะทำอะไรที่คล้าย ๆ กัน และความปรารถนาของฉันก็หนักแน่นมากจนฉันรู้สึกหวิว ๆ ในท้องเลย
- ฉันดูยูทูบ, อ่านบล็อกและเข้าร่วมงานต่าง ๆ ฉันมีการทดลองและเรียนคอร์สทำเค้กในกรุงเทพ และฉันก็มีอินสตาแกรมและเริ่มโพสต์รูปเค้กของฉันในนั้น
- หนึ่งในออเดอร์แรก ๆ ของฉันคือการทำขนมสำหรับงานวันเกิด เด็กผู้หญิงเจ้าของวันเกิดกำลังเรียนบัลเล่ต์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ขนมทุกชิ้นถูกตกแต่งด้วยน้ำตาลปั้นรูปนักบัลเล่ต์, รองเท้าบัลเล่ต์ และสิ่งของที่เกี่ยวกับบัลเล่ต์ ฉันวาดแบบร่างและใช้เวลาทั้งคืนในการทำงาน และในที่สุดขนมบนโต๊ะก็ออกมาดูยอดเยี่ยมมาก ฉันแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปโต๊ะเลยก่อนที่เด็ก ๆ หลายคนจะวิ่งเข้ามาในห้อง และผลงานของฉันทั้งหมดก็ถูกทำลายลงในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ! พูดตามตรงว่าฉันต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะชินกับความจริงที่ว่าฉันได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำงานอย่างขยันขันแข็ง และมันก็ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
- สิ่งที่ฉันจำได้อีกอย่างก็คือตอนที่ฉันทำเค้กวันเกิดให้กับเด็กผู้หญิงตัวน้อย ฉันตกแต่งมันด้วยน้ำตาลปั้นรูปเจ้าหญิงในชุดกระโปรงที่ดูสง่างาม ซึ่งมันเป็นการทำมือทั้งหมด เมื่อฉันนำเค้กมาบรรดาแขก ๆ ไม่ได้อยู่ตรงนั้น เมื่อเด็กหญิงเจ้าของวันเกิดได้เห็นเค้ก เธอก็อยากจะชิมทันที แต่แม่ของเธอบอกว่ามันเร็วเกินไป เด็กผู้หญิงวนเวียนอยู่รอบ ๆ เค้ก จนกระทั่งแม่ของเธอออกไปข้างนอก เมื่อพ่อของเธอเข้ามา เขาพูดว่า “วันนี้เป็นวันของลูก !” หลังจากนั้นเขาก็อุ้มเด็กผู้หญิงเจ้าของวันเกิดขึ้นและพาเธอเดินไปที่เค้ก และเธอก็กัดหัวของเจ้าหญิงออก
ศิลปะการทำขนมในเขตร้อนชื้น
- ฉันรู้อย่างรวดเร็วว่าสูตรในการทำเค้กแบบคลาสสิกไม่ได้รวมถึงความร้อนและความชื้นในเขตร้อนชื้น ทั้งครีมและแป้งจะขึ้นรูปในแบบที่คาดไม่ถึงในแต่ละครั้ง ฉันเสียวัตถุดิบไปเยอะมาก ก่อนที่จะรู้ว่าอุณหภูมิที่แตกต่างกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้กระบวนการทั้งหมดออกมาไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นฉันก็เริ่มทำงานโดยมีการใช้เครื่องปรับอากาศและทุกอย่างก็ดีขึ้น
- ฉันโชคดีที่ได้ทำงานในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผลไม้ในเขตร้อนชื้นตลอดทั้งปี รสชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดคือมะม่วง, เสาวรส และมะพร้าว คุณซื้อน้ำกะทิสด ๆ ได้ที่ตลาดซึ่งมีการคั้นให้ดูต่อหน้าคุณเลย
- ฉันชอบน้ำตาลมะพร้าวและน้ำตาลอ้อยเนื่องจากมันให้รสชาติคาราเมลแบบพิเศษที่ละเอียดอ่อน ราคาของน้ำตาลอ้อยไม่ต่างจากราคาของน้ำตาลทรายมากนัก นอกจากนี้ น้ำตาลมะพร้าวและน้ำตาลอ้อยก็ยังดีต่อสุขภาพและอร่อยกว่าน้ำตาลทรายอีกด้วย ลูกค้าจะมีความสุขเสมอ ถ้าฉันแนะนำให้ลด “ความอันตราย” ในเค้กให้เหลือน้อยที่สุด
- มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันเดินเข้ามาในครัวเพื่อที่จะหยิบมาการองออกจากเตาอบ และฉันก็เจองูอยู่ในนั้นหนึ่งตัว พวกมันมักจะเข้ามาในบ้านในเขตร้อนชื้น โชคดีที่มันไม่ได้ถูกอบไปพร้อมกับขนม
- ฉันทำเค้กประมาณ 25 ก้อนต่อเดือน ถ้าเค้กมีความซับซ้อนมากก็อาจจะใช้เวลาในการทำถึงสองวัน โดยฉันจะอบเค้กในวันแรกและตกแต่งเค้กในวันที่สอง ฉันเริ่มทำงานในตอนเช้าและในบางครั้งมันก็เสร็จในช่วงดึกมาก ฉันมีอุปกรณ์ในการอบขนมเยอะมากและที่ทำงานของฉันก็เหมือนกับสถานที่ทำงานของศิลปิน แค่มันมีกลิ่นของขนมที่สดใหม่และกลิ่นของวานิลลา
- ราคาของเค้กขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการตกแต่ง ไม่ใช่น้ำหนักของเค้ก ราคาโดยเฉลี่ยของเค้กแต่งงานสามชั้นสำหรับแขก 60 คนอยู่ที่ประมาณ 7,000-12,000 บาท (200-400 ดอลลาร์)
- ส่วนผสมที่มีราคาแพงที่สุดคือทองสำหรับทำอาหาร 24 กะรัต โดยราคาเฉลี่ยของการแปะทองของเค้กสามชั้นอยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาท (200-250 ดอลลาร์) ซึ่งยังไม่รวมราคาของตัวเค้ก โดยทุกวันนี้เค้กทองได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
- ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินที่ได้รับความนิยมคือ “เค้กเปลือย” ที่เรียกแบบนี้เพราะว่ามันไม่ได้มีการปกคลุมด้วยแมซทิคหรือครีม และทำให้มองเห็นเนื้อเค้กจริง ๆ สิ่งที่ยากที่สุดในการทำก็คือการทำให้ขอบของเค้กนั้นเท่ากัน
- คนทำเค้กหลายคนต่อต้านการใช้แมซทิค มันมีความคิดเห็นที่เชื่อกันอย่างแพร่หลาย ที่มองว่าแมซทิคนั้นกินไม่ได้ แต่ถ้าเราพูดถึงเรื่องรสชาติมันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย หน้าที่หลักของแมซทิคคือการตกแต่งเค้ก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ฉันไม่ได้ปฏิเสธการใช้แมซทิค อีกอย่างหนึ่ง ฉันอาจจะเสียลูกค้าไปครึ่งหนึ่งเลยและทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของฉันต้องถูกจำกัดลงด้วย
การทำเค้กเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของข้อตกลง มันยังขึ้นอยู่กับการขนส่งด้วย
- การบริการของฉันไม่ได้รวมถึงแค่การทำเค้กเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการขนส่งด้วย มันเป็นอะไรที่เครียดกว่าการทำเค้กซะอีก เรื่องของเรื่องก็คือโรงแรมและวิลล่าที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง มักจะตั้งอยู่ในสถานที่ที่ยากจะเข้าไปถึง และการนำเค้กไปที่นั่นโดยที่ไม่ให้มันร่วงก็ต้องอาศัยความพยายามอย่างหนัก ยิ่งเค้กมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ การถือเค้กก็เป็นเรื่องยากขึ้นเท่านั้น มันอาจจะหลุดจากมือของฉันเมื่อมีการเลี้ยวและกระแทก ในบางครั้งเค้กของฉันก็ไม่พอดีกับขนาดรถ และฉันต้องถือมันในขณะนั่งอยู่ที่ด้านหลังของรถกระบะ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเปิดกล่องหลังลงจากรถ เราใช้บริการขนส่งประมาณ 3-4 เจ้าต่อสัปดาห์ในช่วงที่วุ่น ๆ และขนส่งแต่ละเจ้าก็สร้างความเครียดให้กับฉันเป็นอย่างมาก แต่ความกังวลของฉันก็หมดไปเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของคู่บ่าวสาว
- ครั้งหนึ่งในระหว่างการขนส่ง เค้กได้เกิดความเสียหาย และเมื่อเราไปถึงโรงแรม ฉันเริ่มกอบกู้เค้กด้วยการตกแต่งด้วยวิปครีม ซึ่งที่โรงแรมมีครีมให้แต่ไม่มีสิ่งที่จะใช้ตีครีม แล้วคนขับรถของฉันที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ ก็บอกว่าเขามีวิปครีมอยู่ที่บ้าน เขาไปเอาวิปครีมมาและฉันพยายามเป็นอย่างมากที่จะแก้ไขมัน แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ออกมาดูเหมือนกับในตอนแรก ฉันเดินเข้าไปหาเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเพื่อขอโทษ แต่เนื่องจากงานแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่น พวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าปัญหาคืออะไร พวกเขาดูมีความสุขมากและฉันรู้สึกดีใจที่พวกเขาไม่โกรธ นับตั้งแต่ตอนนั้นฉันมักจะพก “กระเป๋าฉุกเฉิน” ที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นและวิปครีมติดไปด้วยเสมอ
- มีครั้งหนึ่งที่ฉันถูกขอให้นำเค้กห้าชั้นที่มีความซับซ้อนไปส่งที่โรงแรม แต่พวกเขาลืมบอกวิธีการเดินทางในช่วงสุดท้ายว่าจะต้องมีการเดินทางด้วยเรือ เมื่อเรามาถึงจุดนัดพบโดยผู้นำทางมันก็มืดมาก และมีเรือลำเล็ก ๆ รอเราอยู่ที่ท่าเรือ เค้กไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย แต่เย็นวันนั้นผมของฉันแทบจะหงอกไปทั้งหัว
พูดถึงลูกค้าสักเล็กน้อย
- ฉันมีลูกค้าจากทั่วโลก ดังนั้นฉันจึงต้องศึกษาลักษณะของงานแต่งงานและการเฉลิมฉลองประจำชาติอื่น ๆ เป็นเวลาหลายปีในการทำงานของฉัน เพราะว่าชาวจีน, ชาวอังกฤษ, ชาวรัสเซีย, ชาวอินเดียและชาวฝรั่งเศสอาจจะมีความต้องการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของพวกเขา
- ในบางครั้งเค้กแต่งงานมีการสั่งล่วงหน้า 1-2 ปีก่อนที่จะมีงานแต่งงาน โดยมันมักจะเป็นงานแต่งงานที่ใหญ่โตและหรูหรา และพวกเขามีการเช่าโรงแรมทั้งโรงแรมและแขกก็มาจากต่างประเทศ เวลาไม่กี่เดือนไม่เพียงพอในการจัดการงานแต่งงานแบบนี้ ในบางครั้งเจ้าสาวก็อยากให้เค้กช่วยเสริมชุดแต่งงานของพวกเธอให้ดูสวยขึ้น ในกรณีนี้ฉันจะซื้อลูกไม้หรือผ้าตัวอย่างที่มีลวดลาย และฉันก็พยายามที่จะทำให้เค้กออกมาในลุคเดียวกัน
- มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันได้รับคำสั่งทำเค้กจากคู่รักชาวอังกฤษ พวกเขาบอกว่าพวกเขาอยากได้เค้กผลไม้อังกฤษแบบคลาสสิก และพวกเขาอยากจะนำเค้กชั้นบนสุดกลับไปยังประเทศอังกฤษเพื่อนำไปกินในพิธีศีลจุ่มของลูกของพวกเขา ในตอนนั้นเจ้าสาวไม่ได้ดูเหมือนกำลังตั้งครรภ์ ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่ “ไร้สาระสิ้นดี !” แต่เมื่อฉันถามพวกเขาถึงรายละเอียดที่มากขึ้นก็ได้รู้ว่าที่บริเตนใหญ่มีธรรมเนียมในการอบเค้กผลไม้ในวันแต่งงาน โดยมีขนมปังกรอบ, ผลไม้แห้ง และผลไม้เคลือบน้ำตาล หลังจากอบแล้วมันจะถูกแช่ด้วยส่วนประกอบพิเศษทุก ๆ วันเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อที่จะได้เก็บไว้ได้เป็นเวลานาน ตามธรรมเนียมนี้ ชิ้นส่วนของเค้กแต่งงานจะถูกเก็บไว้จนกระทั่งถึงวันเกิด หรือพิธีศีลจุ่มของลูกคนแรก
- ในบางครั้งฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากในการทำงานกับชาวต่างชาติ เนื่องจากความแตกต่างกันทางด้านความคิด ทุก ๆ คนมีความต้องการส่วนตัวและฉันก็ต้องเรียนรู้มัน ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันเสนอขนมปังกรอบหลายรูปแบบให้กับลูกค้าของฉัน กฎก็คือชาวจีนจะไม่เห็นความแตกต่างของขนมปังกรอบพวกนั้นเลย เนื่องจากความเข้าใจในเรื่องขนมหวานของพวกเขาแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นความพยายามในการอธิบายบางอย่างดูจะล้มเหลวเนื่องจากอุปสรรคทางด้านภาษา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมฉันจึงถามอะไรง่าย ๆ กับพวกเขาอย่าง “รับเป็นช็อกโกแลตหรือวานิลลาดีคะ ?” แค่นี้ทุกคนก็มีความสุขแล้ว
- ในบางครั้งงานแต่งงานก็ไม่ได้มีแขกมากมายและเค้กก้อนเล็กก็เพียงพอแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงสั่งเค้กหลายชั้นที่ทำมาจากโฟมเพื่อรูปถ่ายที่สวยงามและผลตอบรับที่ “ว้าว” ฉันใช้ครีมเนยปิดไว้บนโฟม หลังจากนั้นก็จะเป็นแมซทิค แล้วก็ทำการตกแต่งมัน ฉันพยายามที่จะทดแทนการใช้เนยด้วยการใช้มาการีนที่มีราคาถูกกว่า (เพราะยังไงก็ไม่มีใครกินมันอยู่แล้ว) แต่มันทำงานค่อนข้างไม่สะดวก ฉันจึงตัดสินใจที่จะใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงเหมือนเดิม ดังนั้นทุกอย่างที่อยู่บนโฟมนั้นกินได้และอร่อยด้วย ในขณะเดียวกันเค้กทุก ๆ ชั้นก็ดูเหมือนกันทุกประการ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกระหว่างชั้นที่เป็นเค้กจริงและชั้นที่เป็นเค้กปลอม
- ชั้นเค้กที่ทำมาจากโฟมจะอยู่ส่วนไหนของเค้กก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขนาดของเค้กที่ลูกค้าต้องการ เรามักจะบอกคู่บ่าวสาวเสมอว่าชั้นไหนไม่ใช่ของจริง แต่ก็มีเรื่องราวตลก ๆ เกิดขึ้นที่งานแต่งงาน คู่บ่าวสาวถ่ายรูปกับเค้กและเจ้าบ่าวก็ตัดสินใจที่จะกัดลงไปบนเค้ก และฟันของเขาก็กระทบกับโฟม ไม่มีอะไรน่ากลัวเกิดขึ้นหรอก มันแค่ตลกมาก ๆ เท่านั้นเอง
- ฉันมักจะถูกขอให้ทำเค้ก 2 ก้อนค่อนข้างบ่อยสำหรับเค้กงานแต่งงานหรือเค้กวันเกิด โดยก้อนหนึ่งจะเป็นเค้กจริงและอีกก้อนเป็นเค้กปลอม ซึ่งเค้กปลอมจะออกมาก่อน มันมักจะถูกเรียกว่าเค้กที่ใช้ในการทำลายและมันก็จะตกลงมา ลูกค้ามักจะทำการแสดงในสถานการณ์ที่ตลก ๆ หลายครั้งด้วยเค้กก้อนนี้ เมื่อแสงไฟหรี่ลงและสปอตไลท์ถูกเปิดขึ้น และพนักงานเสิร์ฟได้ถือเค้กแต่งงานหลายชั้นที่มีขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวออกมา และทันใดนั้นเขาก็สะดุดล้ม เค้กหลุดออกจากมือของเขาแล้วร่วงหล่นลงบนพื้น และแขกทุกคนก็ตกตะลึง ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าความอดทนในการทำงานของฉันถึง 2 วัน จะลงเอยด้วยการที่เค้กที่สวยงามนี้หล่นกระจายไปบนพื้น เมื่อแขกหายช็อคขึ้นมานิดหน่อยแล้ว พวกเขาก็จะเอาเค้กจริงออกมา
การเป็นคนทำเค้กมีความหมายยังไง
- ฉันมีฝันร้าย “ในวิชาชีพ” สองอย่าง อย่างแรกคือการที่ลูกค้ามารับเค้กแต่มันยังไม่พร้อม, มันยังไม่อยู่ตรงนั้นหรือไม่ฉันก็ลืมมันไปเลย ฝันร้ายอย่างที่สองค่อนข้างแปลกตรงที่ฉันมองว่าตัวเองเป็นช็อกโกแลตที่ทาลงบนเค้กอย่างสม่ำเสมอไม่ได้ ฉันรู้สึกถึงความไม่สม่ำเสมอทางร่างกายนี้อย่างแท้จริง
- ส่วนใหญ่แล้วงานแต่งงานบนเกาะสมุยจะถูกจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับฉัน ภาระของความรับผิดชอบนั้นยิ่งใหญ่ จนบางครั้งฉันรู้สึกเหนื่อยมากและทุกอย่างก็ร่วงหล่นจากมือของฉัน และฉันก็ไม่มีแรงบันดาลใจใด ๆ เลย บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าภาวะหมดไฟในอาชีพ ในกรณีนี้ฉันจะลองหยุดพัก, ออกไปเดินเล่นหรือไปทะเล แล้วความเหนื่อยล้าของฉันก็จะหายไป
- ฉันเป็นคนชอบกินของหวาน เพื่อที่จะทำให้ร่างกายยังคงแข็งแรงสมบูรณ์ ฉันพยายามจะไม่ทำเค้กเพิ่มให้ตัวเองกิน เพราะว่าถ้ามันอยู่ตรงนั้นฉันก็จะกินมันจนหมด คนทำเค้กบางคนไม่ชอบกินของหวานและมันก็ทำให้ฉันประหลาดใจเล็กน้อย เพราะการทำเมนูที่มีความพิเศษของคุณ คุณจะต้องชิมทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในตอนเริ่มต้นที่คุณจะต้องรู้จักการผสมผสานของรสชาติที่หลากหลาย
- ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตที่ใช้ในการทำเค้กช็อกโกแลตนั้นมีรสชาติที่แตกต่างกัน มันขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เมล็ดโกโก้ได้ถูกปลูกและปีในการเก็บเกี่ยว ความหลากหลายของช็อกโกแลตมักจะนำมาใช้ได้ดีที่สุดในการผสมผสานกับผลไม้ที่มีกรดมากกว่า หรือพวกผลเบอร์รี่ และช็อกโกแลตบางชนิดจะรสชาติดีขึ้นถ้าคุณเพิ่มความฝาดลงไปเล็กน้อย เช่นความฝาดจากกาแฟหรือมะกรูด ฉันคิดว่าเชฟของหวานตัวจริงควรจะเป็นนักชิมด้วย
- ในงานประชุมด้านวิชาชีพขนาดใหญ่หลายแห่งมักจะบอกว่าธุรกิจในการทำขนมต้องอาศัยการลงทุนที่เยอะมาก อย่าไปเชื่อพวกเขา ฉันเริ่มมาจากการทำเค้กในห้องนอนเล็ก ๆ เพราะมันเป็นห้องเดียวที่มีเครื่องปรับอากาศ ฉันใช้เตาอบ, เครื่องผสมและอุปกรณ์ในการทำขนมอื่น ๆ แบบง่าย ๆ ที่ฉันซื้อมาจากอาลีเอ็กซ์เพรส หลังจากนั้น 7 ปี ฉันก็ได้ร่วมงานกับตัวแทนงานแต่งงานใหญ่ ๆ สิ่งสำคัญที่ต้องจำเอาไว้คือการทำตามความฝันของคุณ
คุณชอบกินเค้กอะไร ? คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญกว่ากัน ระหว่างเค้กที่หน้าตาดูดีหรือเค้กที่รสชาติอร่อย ? ได้โปรดแบ่งปันผลงานชิ้นเอกในการทำขนมของคุณถ้าคุณเป็นคนที่รักการทำขนม
แชร์บทความนี้