9 ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโลโก้ชื่อดัง
โลโก้ยอดฮิตมากมายที่เราเห็นในเกือบทุก ๆ วันมีต้นกำเนิดที่ลึกลับเชียวล่ะ โดยในโลโก้บางอัน คุณสามารถดูข้อความและสัญลักษณ์ที่ซ่อนไว้ได้ ซึ่งพวกมันถูกออกแบบโดยนักออกแบบเฉพาะทาง เพื่อดึงดูดความสนใจให้แบรนด์โด่งดังมากยิ่งขึ้น
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้ตัดสินใจที่จะเผยความลับทั้งหมดที่โลโก้ของบริษัทชื่อดังระดับโลกได้ซ่อนพวกมันไว้
1. ชายคนนี้คือแฟรงค์ บราวน์
แบรนด์ข้าวกับอาหารต่าง ๆ ที่โด่งดังนี้เกิดขึ้นในตลาดอเมริกาตอนปี 1943 และตั้งแต่ปี 1946 โลโก้ของบริษัทก็มีภาพถ่ายของชายผิวดำสูงวัยผูกโบว์หูกระต่าย ซึ่งมีต้นแบบมาจากผู้จัดการโรงแรมในชิคาโกที่ชื่อแฟรงค์ บราวน์ (Frank Brown)
เจ้าของบริษัทได้สังเกตเห็นเขาระหว่างที่ทานมื้อค่ำอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในชิคาโก แล้วก็ได้จ่ายเงินให้กับเขาเพื่อใช้สิทธิในการนำใบหน้าของเขามาใช้เป็นเครื่องหมายการค้า
2. โลโก้บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าและรังไข่
เทสล่า มอเตอร์ส (Tesla Motors) ได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2004 โดยวิศวกรที่ชื่อมาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ด (Martin Eberhard) กับมาร์ค ทาร์เพนนิ่ง (Marc Tarpenning) ซึ่งชื่อบริษัทได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อแสดงความยกย่องถึงนักประดิษฐ์ชาวเซอร์เบียที่ชื่อนิโคล่า เทสล่า (Nikola Tesla)
ในโซเชียลมีเดีย คุณจะพบความคิดเห็นต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับที่มาของโลโก้บริษัท โดยชาวเน็ตบางคนเชื่อว่ามันคือระบบสืบพันธุ์เพศหญิงที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบ ส่วนคนอื่น ๆ ก็คิดว่าโลโก้เป็นรูปจมูกแมวที่แม้กระทั่งอีลอน มัสก์ (Elon Musk) เองก็ได้ยืนยัน (แบบพูดเล่น) ในทวิตเตอร์
แต่ความจริงแล้ว โลโก้นี้ได้โชว์ส่วนประกอบของเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่นิโคล่า เทสล่าเป็นผู้คิดค้นขึ้นในปี 1883
3. ก้อนขนมในโลโก้
โลโก้ของแบรนด์ช็อกโกแลตอเมริกันยอดฮิตอย่างเฮอร์ชี่ส์คิสเซส (Hershey’s Kisses) ได้ซ่อนก้อนขนมที่ดูเหมือนรูปหยดน้ำ
4. ภาพวาดชื่อดังในโลโก้แบรนด์แฟชั่น
ในปี 1973 อลัน กรีน (Alan Green) กับจอห์น ลอว์ (John Law) ผู้ก่อตั้งบริษัทควิกซิลเวอร์ (Quiksilver) ได้รับแรงบันดาลใจในตอนที่สร้างโลโก้มาจากงานภาพพิมพ์แกะไม้ที่ชื่อว่า คลื่นยักษ์นอกฝั่งคานางาวะ (The Great Wave off Kanagawa) ของจิตรกรชาวญี่ปุ่นที่ชื่อโฮกุไซ (Hokusai)
5. โลโก้ที่ควรสะกดจิตคุณ
โลโก้ของแบรนด์แฟชั่นอิตาลีที่ชื่อเวอร์ซาเช่ (Versace) ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1987 โดยจานนี เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace) นักออกแบบแฟชั่นชื่อดังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปปั้นเมดูซ่า รอนดานินี่ (Medusa Rondanini) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเมดูซ่าจากสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจไปเป็นสาวงาม
จานนี เวอร์ซาเช่ได้เลือกเมดูซ่าเป็นโลโก้ เพราะเธอทำให้ผู้คนตกหลุมรักเธอและพวกเขาก็ไม่มีทางที่ออกจากอาการนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงหวังว่าจะเกิดสิ่งเดียวกันกับคนที่สวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ผลิตโดยแบรนด์ของเขา
6. ภูตินางฟ้า ไม่ใช่ดาวตก
โลโก้ของวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส (Walt Disney Pictures) ปรากฏขึ้นในตอนเริ่มต้นของหนังเกือบทุกเรื่องที่ฉายโดยสตูดิโอนี้ แล้วก็เกือบทุกครั้ง คุณสามารถเห็นปราสาทในเทพนิยายจากเรื่องเจ้าหญิงนิทรากับซินเดอเรลล่า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากปราสาทนอยชวานสไตน์อยู่ใกล้กับเมืองฟุสเซ่นในเยอรมนี ซึ่งเป็นปราสาทของลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (Ludwig II of Bavaria)
แล้วก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าสิ่งที่ลอยอยู่เหนือปราสาทไม่ใช่ดาวตก แต่เป็นตัวละครทิงเกอร์เบลล์ (Tinker Bell) จากเรื่อง ปีเตอร์แพน (Peter Pan)
7. ปรากฏการณ์ดรอสเต้
โลโก้ของชีสแปรรูปฝรั่งเศสที่ชื่อเดอะ ลาฟวิ่ง คาว (The Laughing Cow) เป็นรูปวัวมีความสุขที่ใส่ต่างหูที่เป็นรูปวัวในแบบเดียวกันในลักษณะภาพซ้อนภาพ แล้วก็ซ้อนกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สิ่งนี้เรียกว่าปรากฏการณ์ดรอสเต้ (ปรากฏการณ์ภาพซ้อนภาพ) ที่ทำให้โลโก้ดูลึกลับและน่าจดจำ
8. ลูกชิ้นอวกาศ
โลโก้นี้ถูกเรียกติดตลกว่าลูกชิ้น ซึ่งออกแบบโดยพนักงานขององค์กรนาซ่า (NASA) ที่ชื่อเจมส์ โมดาเรลลี่ (James Modarelli) ในปี 1959 โดยโลโก้ดังกล่าวมีการอ้างอิงในแง่มุมของเรื่องการบินและอวกาศ
ทรงกลมสีน้ำเงินแสดงถึงโลกของเรา ดวงดาวแสดงถึงอวกาศ และปีกสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของการบิน ส่วนร่องรอยที่ยานอวกาศโคจรรอบชื่อหน่วยงานคือการเดินทางในอวกาศ
9. เมืองที่ถูกซ่อนไว้ในชื่อบริษัท
ชื่อนี้เป็นการรวมตัวย่อ LUK (ชื่อย่อของเมืองที่ผลิตน้ำมันได้แก่ Langepas, Uray, Kogalym) กับคำว่า “น้ำมัน”
คุณนึกถึงอะไรบ้างเมื่อคุณเห็นโลโก้ของเทสล่า มอเตอร์ส ?