6 วิธีที่ผู้ชายเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้เป็นคุณพ่อ (ร่างกายของพวกเขาก็อาจเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน !)
การตั้งครรภ์และการคลอดลูกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจอย่างมากมายในร่างกายของเหล่าคุณแม่มือใหม่ แต่ปรากฏว่าหนุ่ม ๆ ก็สามารถสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจเป็นวงกว้างได้เช่นกันเมื่อพวกเขากลายเป็นคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไปมาอย่างรุนแรงของฮอร์โมนและอารมณ์ ความรักที่มีต่อทารกเกิดใหม่อย่างรุนแรง ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และแม้กระทั่งอาการแพ้ท้อง สิ่งเหล่านี้อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ผู้ชายหลายคนต้องเจอกับมันเมื่อลูก ๆ ของพวกเขาเกิด
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้พิจารณาข้อมูลให้ละเอียดว่าร่างกายและจิตใจของผู้ชายเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรได้บ้าง หลังจากที่พวกเขาได้กลายเป็นคุณพ่อ แล้วนี่ก็คือสิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้
ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอาจลดลง
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ระดับสูงมีหน้าที่ในการดูแลลักษณะพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ความก้าวร้าว การแข่งขัน และการดึงดูดคู่รักใหม่ ๆ แต่เมื่อผู้ชายได้กลายเป็นพ่อคน ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของเขาก็ดูเหมือนจะลดลง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของผู้ชายควรมุ่งไปที่ครอบครัว ไม่ใช่สิ่งภายนอก
จากการศึกษาชี้ให้เห็นว่าผู้ชายที่มีคู่ครองแล้วและผู้ชายที่มีลูกมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าผู้ชายที่ไม่มีลูกและผู้ชายที่ยังมองหาคู่อยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของผู้ชายนั้นได้เรียนรู้วิธีลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เพื่อเปลี่ยนลำดับความสำคัญของผู้ชายและเปลี่ยนให้เป็นคุณพ่อที่มีความมุ่งมั่น
ระดับฮอร์โมนออกซิโทซินและสารโดปามีนเพิ่มขึ้น
ฮอร์โมนออกซิโทซินและสารโดปามีนเป็นสาร 2 ชนิดที่มีหน้าที่ในการสานสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก ในขณะที่ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ผลดีของฮอร์โมนออกซิโทซินและสารโดปามีนก็เพิ่มขึ้น ทำให้คุณพ่อมือใหม่สนุกกับการเล่นและกอดลูกมากยิ่งขึ้น
ฮอร์โมนที่สูงและต่ำสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในผู้ชายได้
ในขณะที่พวกเราหลายคนรู้ว่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในผู้หญิงมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่มีน้อยคนที่อาจเคยได้ยินเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในผู้ชายกันมาบ้าง นอกเหนือจากหน้าที่อื่น ๆ แล้วฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนยังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเราจากความรู้สึกดิ่งลง และเมื่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง เหล่าคุณพ่อวัยหนุ่มอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าได้ โดยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนควบคู่ไปกับภาระหน้าที่ของคุณพ่อมือใหม่ ทำให้ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาสุขภาพจิต แล้วด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในร่างกายของคนเป็นพ่อด้วย
การเปลี่ยนแปลงของสมองบางอย่างอาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการทำงานของสมองในกลุ่มคุณพ่อมือใหม่ และพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกหลังคลอด สมองของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในเนื้อสมองสีเทา โดยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้คุณพ่อมือใหม่พัฒนาทักษะการเป็นพ่อแม่และสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูก ๆ ซึ่งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกในช่วงแรก ๆ เหล่านี้ได้สร้างพื้นฐานความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างพ่อแม่กับลูกในอนาคต อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจและการเข้าสังคมของเด็ก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมองของพ่อมือใหม่สามารถแสดงถึงกิจกรรมในด้านที่รับผิดชอบในการวางแผน การแก้ปัญหา และการตรวจจับความเสี่ยงได้มากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่จะช่วยให้พ่อมั่นใจว่าลูกของพวกเขานั้นปลอดภัย
ผู้ชายยังสามารถพัฒนาอาการแพ้ท้องได้เมื่อคู่ครองของพวกเขากำลังจะมีลูก
ไม่ใช่แค่หลังจากที่เด็กเกิดมาแล้วเท่านั้น พ่อมือใหม่จะเจอกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในร่างกายของพวกเขาในระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ด้วย ผู้ชายอาจมีอาการที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ท้องอืด และปวดหลัง โดยปรากฏการณ์นี้เรียกว่าอาการเห็นอกเห็นใจในการตั้งครรภ์ (sympathetic pregnancy) หรืออาการแพ้ท้องแทนเมีย (couvade) ซึ่งภาวะนี้ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นภาวะทางการแพทย์ แต่อาการเหล่านี้อาจพบได้บ่อยสำหรับคนที่กำลังจะเป็นคุณพ่อ
ผู้ชายสามารถเผชิญกับความเครียดทางอารมณ์ในระดับสูงได้
ความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกอาจส่งผลให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลในระดับสูงสำหรับเหล่าคุณพ่อมือใหม่ แต่ส่วนที่อันตรายที่สุดก็คือผู้ชายอาจรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถมองหาความช่วยเหลือได้ โดยคุณพ่อมือใหม่มักคิดว่าการร้องขอกำลังใจและความช่วยเหลือสามารถหันเหความสนใจไปจากสิ่งที่คุณแม่มือใหม่ต้องการได้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันสำคัญกว่า ผู้ชายที่เพิ่งเป็นคุณพ่ออาจเผชิญกับความเครียดทางร่างกายและอารมณ์อย่างมาก แต่พวกเขามักจะเปลี่ยนจุดสนใจไปที่ฝ่ายหญิงคู่ของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทั้งพ่อและแม่ควรใช้เวลาร่วมกัน พูดคุยถึงสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่เมื่อลูกของพวกเขาได้เกิดขึ้นแล้ว โดยพวกเขากล่าวว่าการแบ่งปันภาระหน้าที่กันถือเป็นการลดภาระลงครึ่งหนึ่ง อีกทั้งในบางครั้งการพุดคุยกันอย่างตรงไปตรงมากับคู่ของคุณก็สามารถทำให้เกิดปาฏิหาริย์ได้
คุณมีลูกหรือเปล่า ? แล้วคุณเคยสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของคุณพ่อมือใหม่บ้างมั้ย ? บอกเล่าเรื่องราวของคุณลงในคอมเมนต์กันได้เลย !