ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

8 กฎการเลี้ยงลูกจากนักจิตวิทยาชื่อดังที่คุณใช้เลี้ยงลูกให้มีความสุขและร่ำรวยได้

มารีน่า เมเลีย (Marina Mellia) เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและผู้แต่งหนังสือขายดีเกี่ยวกับจิตวิทยาแห่งความสำเร็จและการเลี้ยงดูอย่างมีสติ เธอยังเป็นหัวหน้านักจิตวิทยาของมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จซึ่งพวกเขาหลายคนขอคำแนะนำจากเธอเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก มารีน่ามีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ตรงกันข้ามกับแนวโน้มการเลี้ยงลูกหลาย ๆ อย่างของเรา เธอบอกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดอนาคตของลูก ๆ และเป็นไปไม่ได้ที่จะวางโปรแกรมให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ในฐานะพ่อแม่ สิ่งที่เราทำได้คือพยายามเลี้ยงลูกให้มีความสุขและรู้จักทำมาหากินเอง ทำยังไงล่ะ ? ก็โดยการให้แนวทางที่ถูกต้องและเราควรต้องเรียนรู้เคล็ดลับของเธอ

ในตอนแรกพวกเราที่ชีวิตสดใสอยากค้นหาว่าคนคนหนึ่งจะดูน่าทึ่งได้ยังไงเมื่ออายุ 72 ปี แต่เราตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่จิตวิทยาและพูดคุยเกี่ยวกับความผิดพลาดในการเลี้ยงดูลูกที่ทำให้พวกเขาไม่ร่ำรวย

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 1: การมีโปรแกรมสู่ความสำเร็จ

บ่อยครั้งที่พ่อแม่เพิกเฉยต่อการสื่อสารในแง่มุมที่สำคัญซึ่งเป็นสัญญาณที่เราส่งให้ลูก ๆ ด้วยคำพูดและการกระทำของเรา สัญญาณเหล่านี้เป็นส่งผลต่อเด็ก ๆ ในอีกหลายปีต่อจากนี้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างสองสามตัวอย่างของเรื่องที่มักกระทบต่อจิตใจของผู้คนและความรู้สึกที่ส่งผลต่ออนาคตของพวกเขา

  • “อย่าแข็งแรง !” ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับข้อเสนอให้เลื่อนตำแหน่ง เธอป่วยและไม่มาทำงาน คนอื่นจึงได้ตำแหน่งไป ปรากฎว่าในวัยเด็กของเธอ พ่อแม่ของเธอให้งานเธอมากเกินไป ตอนที่เธออยู่ชั้นประถมศึกษา เธอมีน้องสาวคนหนึ่งและความสนใจของพ่อแม่ก็พุ่งไปที่น้องสาว เธอในฐานะพี่สาวมักจะต้องดูแลน้องและในไม่ช้าเธอก็ตระหนักว่าวิธีเดียวที่จะเป็นศูนย์กลางของความสนใจของพ่อแม่ของเธอได้คือการเจ็บป่วย เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็ยังคงซ่อนตัวเองอยู่ในความเจ็บป่วยและกลัวความรับผิดชอบ
  • “อย่าทำผิด !” ผู้ชายคนหนึ่งเคยเป็นนักเรียนที่เรียนเก่ง แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพมากนัก เขาใช้เวลา 7 ปีทำงานเดิม ปรากฎว่าเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาไม่เคยได้รับคำชมในความสำเร็จของเขาเลย แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวอยู่เสมอ เขาพยายามหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทุกวิถีทาง เพราะงั้นเขาจึงทำทุกอย่างช้าและไม่เคยแสดงออกอย่างเต็มที่
  • “อย่ารู้สึก” ผู้หญิงมักตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เธอทำงานแย่ ๆ และได้พบกับผู้ชายเลว ๆ ปรากฎว่าในวัยเด็กของเธอ พ่อแม่ของเธอสอนให้เธอไม่เชื่อมั่นใจตัวเอง พ่อแม่บางคนไม่เห็นคุณค่าปฏิกิริยาทางอารมณ์ของเด็ก เมื่อเด็กพูดเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาก็จะถูกปฏิเสธและหัวเราะเยาะ ซึ่งเป็นผลให้เธอกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ไว้วางใจความรู้สึกและอารมณ์ของตนเอง

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 2: ประโยคแห่งหายนะ

อันที่จริง การเลี้ยงดูลูก ๆ เป็นความรับผิดชอบของเรา ไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่นั้นเป็นทางเลือกของคุณ แต่คุณเรียกร้องความกตัญญูเป็นพิเศษสำหรับเรื่องนั้นจากลูก ๆ ของคุณไม่ได้ ลืมวลีอย่าง “เราได้ทำเพื่อลูกไปมากมาย และลูก...” ไปได้เลย

รับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำเพื่อลูก ๆ ของคุณ คุณให้มากกว่าครอบครัวอื่นงั้นเหรอ ? ยอดเยี่ยม แต่ก็แค่ยอมรับความจริงที่ว่าคุณทำเพราะคุณอยากทำ ประเด็นคือความกตัญญูและความเคารพต่อพ่อแม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับรายได้ของครอบครัวเท่านั้น

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 3: การพยายามเลี้ยงนักเรียนดีเด่นหรือแชมเปี้ยน

มี 2 กลยุทธ์ที่อันตรายเมื่อพูดถึงการเลี้ยงลูกให้กลายเป็นโรคประสาท:

  • แชมเปี้ยนที่หมกมุ่นและกลายเป็นโรคประสาทเกี่ยวกับการโฟกัสของพวกเขา ได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวที่พ่อแม่ประสบความสำเร็จในบางเรื่องและพวกเขาต้องการให้ลูกของพวกเขาประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน หรือครอบครัวที่พ่อหรือแม่ฝันถึงบางสิ่งแต่ทำไม่ได้และต้องการให้ลูกทำเพื่อพวกเขา แชมเปี้ยนในอนาคตใช้เวลาทั้งวันในการฝึกและเรียน พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะใช้ชีวิต มีความกดดันมหาศาลและพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาจะมีความสุขเมื่อพวกเขาบรรลุเป้าหมายเท่านั้น
  • การเลี้ยงนักเรียนดีเด่นเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากกว่า แต่ก็ไม่ได้อันตรายน้อยกว่าเลย ทุกวันนี้พ่อแม่เริ่มสอนทุกอย่างให้ลูกตั้งแต่อายุยังน้อย มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเพราะคุณทำให้เด็กใช้สมองมากเกินไป เมื่อทำเช่นนี้ เราก็ไม่ปล่อยให้ลูกๆ ของเราทำผิดพลาด เราบอกให้พวกเขาทำดีที่สุดและมักจะจบลงได้ไม่สวยนัก

อย่ากำหนดตารางเวลาที่เข้มงวดกับลูก ๆ ของคุณ มันจะลงเอยด้วยการที่คุณเลี้ยงลูกที่ไม่มีความสุขซึ่งมีวัยเด็กที่เปล่าเปลี่ยว ให้ลูก ๆ ของคุณมีเวลาว่างโดยที่พวกเขาไม่ต้องทำอะไร การไม่ทำอะไรนั้นสำคัญเท่ากับการเรียน นี่คือเวลาชมท้องฟ้า เต้นรำและใช้ชีวิต นี่คือที่มาของความคิดสร้างสรรค์

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 4: การติดสินบน

ทุกวันนี้ พ่อแม่บางคนจ่ายเงินให้ลูก ๆ ทุกครั้งที่พวกเขาได้เกรดดีหรือค่าทำความสะอาดห้องหรือทำเรื่องอื่น ๆ มันผิด การติดสินบนไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการเลี้ยงลูก การจ่ายเงินให้พวกเขาเมื่อทำบางอย่างสำเร็จจะทำให้เด็ก ๆ ไม่เห็นคุณค่าความสำเร็จที่แท้จริงของพวกเขา ครอบครัวไม่ใช่ตลาด แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความรักและความห่วงใย

  • ให้เงินค่าขนมกับพวกเขา นี่คือวิธีที่คุณแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณไว้วางใจลูก ๆ ในการตัดสินใจทางการเงินของพวกเขาซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีเสรีภาพส่วนตัว
  • ค่าขนมจะต้องมีปริมาณที่แน่นอนและให้ในวันที่เฉพาะเจาะจง เลือกวันที่คุณจะให้เงินกับลูก ๆ ของคุณและจำนวนเงินที่แน่นอนที่พวกเขาใช้ได้
  • ให้ลูก ๆ ตัดสินใจว่าจะใช้เงินทำอะไร พ่อแม่แนะนำลูก ๆ ของตนได้แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับตัวลูก ๆ เอง ใช่ พวกเขาอาจทำผิดพลาดแต่นั่นจะเป็นประสบการณ์และความรู้ใหม่ของพวกเขา

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 5: กดดันผ่าน “คำพูดแห่งปัญญา”

บางครั้งพ่อแม่ก็พูดประมาณว่า “เงินไม่ได้งอกออกมาจากต้นไม้” หรือ “ตอนพ่ออายุเท่าลูก พ่อก็...แล้ว” เราได้ยินเรื่องนี้จากพ่อแม่แล้วและเราก็บอกเรื่องนี้กับลูก ๆ ของเรา การทำให้ลูก ๆ ของเราเชื่อว่าเงินหาได้ยากมากและเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ คุณก็จะทำให้ลูก ๆ เกิดความกลัวที่จะสูญเสียเงินอย่างไม่มีเหตุผล

วลีเหล่านี้ที่เราพูดไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตจริง พิจารณาแต่ละสถานการณ์แยกกัน ถ้าคุณซื้อบางอย่างไม่ได้ ให้พูดคุยถึงสิ่งที่คุณทำได้เพื่อประหยัดเงินให้เพียงพอสำหรับการซื้อ

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 6: เป็นเพื่อนกับลูก ๆ

แม่บอกว่าลูกชายเรียกชื่อเธอเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกัน การเป็นเพื่อนกับลูกเป็นเทรนด์ใหม่ ครอบครัวคือระบบที่มีลำดับชั้นซึ่งทุกคนมีบทบาทของตนเอง พ่อแม่ — ดูแล ซื้อเสื้อผ้าและให้ความรัก ลูก ๆ — เชื่อฟังพ่อแม่ ทำผิดพลาดและตรวจสอบว่าขีดจำกัดอยู่ตรงไหน การที่พ่อแม่อยู่ “เหนือ” จะทำให้พ่อแม่หน้าที่ของตนได้ดี การพยายามเป็นเพื่อนก็จะทำให้พ่อแม่กับลูก ๆ มีสถานะเท่ากันและทำให้พ่อแม่สูญเสียการควบคุม

  • กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน นี่คือวิธีที่ลูก ๆ จะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาทำได้และสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้
  • เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ
  • ตั้งกฎเกณฑ์ที่ทั้งลูก ๆ และคุณฝ่าฝืนไม่ได้ ถ้าคุณให้อิสระกับลูกมากเกินไป พวกเขาจะโตไปโดยไม่มีความมั่นใจ มันสำคัญมากที่จะต้องรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในขณะที่กำลังเติบโต

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 7: ไม่มีข้อตกลงเรื่องเงินในครอบครัว

ลูก ๆ จะเข้าใจอะไรได้ถ้าพ่อแม่มีความเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่องเงิน และเมื่อพ่อเป็นคนประหยัดและวิพากษ์วิจารณ์แม่เรื่องการซื้อของแพงก็จะทำให้ลูก ๆ รู้สึกสับสนมาก

  • สมาชิกในครอบครัวที่มีอายุมากกว่าจำเป็นต้องตกลงกันเกี่ยวกับจำนวนเงินที่พวกเขาใช้จ่ายในบางสิ่งได้ ความคิดเห็นของคุณอย่างน้อยก็ควรจะเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องพื้นฐาน ไม่ควรมีความลับต่อกัน คุณแบนบางอย่างร่วมกันหรืออนุญาตให้ซื้อบางอย่างร่วมกันได้
  • อย่าทำเรื่องที่ขัดแย้งกันเอง จำไว้ว่าถ้าคุณพูดบางอย่างเช่น “พวกเขาต้องการอวด นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาจัดปาร์ตี้” หรือ “การซื้อรถราคาแพงแบบนั้นมันบ้า” ลูก ๆ จะคิดว่าคุณไม่ซื่อสัตย์ พวกเขาจะคิดว่า “แม่ไม่ต้องการงานปาร์ตี้แบบนั้นเหรอ ?” เด็กอาจรู้สึกอิจฉาได้ เป็นตัวอย่างให้ลูก ๆ ของคุณและอย่าสอนให้พวกเขาอิจฉาความสำเร็จของคนอื่น

ความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกข้อ 8: ไม่สอนให้ลูกมีความฝัน

เมื่อถูกจำกัดด้วยกฎที่เข้มงวดมาก เด็ก ๆ จะชินกับการถูกผู้อื่นควบคุมจากอย่างรวดเร็ว อย่างแรก พวกเขาจะฟังคนอื่นในโรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็ในห้องเรียนต่าง ๆ แล้วก็ในโรงเรียน คุณควรสอนพวกเขาให้คิดริเริ่มและบอกพวกเขาว่าไม่ควรดำเนินชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่น แต่ให้ทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการแทน เมื่อเราบอกพวกเขาโดยใช้คำเช่น “ลูกต้อง” หรือ “ลูกจำเป็นต้อง” เราจะทำลายแรงจูงใจและความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดของลูก ๆ

สอนให้พวกเขามีความฝัน ไม่ใช่ให้ทำตามคำสั่ง ลูก ๆ ควรจะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการและพวกเขาต้องการการสนับสนุนจากคุณ

คุณทำพลาดข้อไหนบ้าง ? แบ่งปันประสบการณ์ของคุณในช่องคอมเมนต์ด้านล่างหน่อยสิ !

แชร์บทความนี้