“โนอาห์เริ่มใส่ชุดกระโปรงตั้งแต่เขาอายุสองขวบ” เมแกน ฟ็อกซ์แบ่งปันเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้มีความมั่นใจ
การเป็นแม่อาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย และบางครั้งคุณอาจจะเจอกับสถานการณ์ที่คุณไม่ค่อยจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร เช่น เมแกน ฟ็อกซ์ (Megan Fox) เองก็มีประสบการณ์นั้น แต่ความรักที่เธอมีให้ลูก ๆ ของเธอมีมากจนเธอมักจะหาวิธีที่จะไปอยู่เพื่อพวกเขาและจับมือพวกเขาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ชีวิตสดใสอยากจะแบ่งปันเรื่องราวที่นักแสดงสาวท่านนี้เลือกที่จะสนับสนุนลูกชายของเธอในการตัดสินใจสวมใส่ชุดกระโปรงและสอนเขาให้มีความมั่นใจไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามให้กับคุณผู้อ่านของเรา
เมแกน ฟ็อกซ์เป็นนางแบบและนักแสดง เป็นที่รู้จักกันอย่างมากสำหรับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง ทรานส์เฟอร์เมอร์ (Transformers) หลังจากอยู่กับไบรอัน ออสติน กรีน (Brian Austin Green) มาหลายปี สุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในปี 2010 ไบรอันก็เป็นนักแสดงเช่นกัน และพวกเขาพบกันในกองถ่ายซีรีส์เรื่องหนึ่ง การแต่งงานของพวกเขายาวนาน 10 ปีและพวกเขามีลูกกัน 3 คน
ปัจจุบันพวกเขาหย่ากันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกันอยู่ ไบรอันบอกว่า “เรามีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมต่อกันและผมจะรักเธอเสมอและผมรู้ว่าเธอก็จะรักผมเสมอ จนถึงตอนนี้ในฐานะครอบครัว สิ่งที่เราได้สร้างกันมามันเจ๋งมาก และมันพิเศษมาก ๆ เลย เราก็เลยตัดสินใจกันว่าเราจะไม่สูญเสียมันไป”
ทั้งเมแกนและอดีตสามีของเธอรู้ว่าความสุขของลูก ๆ พวกเขาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และการมีความสัมพันธ์ที่ดีแม้จะหย่ากันแล้วมันไม่ใช่แค่วิธีเดียวที่พวกเขาได้พิสูจน์ในเรื่องนี้ ตอนที่โนอาห์ (Noah) ลูกคนโตของพวกเขา เริ่มใส่ชุดกระโปรง พวกเขาก็แสดงความเข้าใจอย่างมากเลยเช่นกัน
เมแกนคุยเรื่องนี้อย่างเปิดเผย ตอนที่โนอาห์อายุ 4 ขวบ เขาก็เริ่มใส่ชุดเดรสแล้ว และหลายคนก็พูดเรื่องนี้กันมากเลย ครั้งหนึ่งอดีตสามีของเธอเข้ามาช่วยปกป้องเธอ โดยพูดว่า “ผมได้ยินเรื่องนี้จากคนบางคนที่ไม่เห็นด้วยให้เขาใส่ชุดกระโปรง สำหรับพวกเขา ผมบอกเลยนะ ผมไม่แคร์หรอก เขาอายุแค่ 4 ขวบ และถ้าเขาอยากจะใส่มันเขาก็จะได้ใส่มัน”
เมแกนมักจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูก ๆ เธอ แต่ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับนิตยสาร กลามัวร์ (Glamour) เธอพูดถึงเรื่องการทดลองและเพศสภาพของโนอาห์ เขาอายุ 9 ขวบแล้วในตอนนี้ และความชอบในการสวมใส่ชุดกระโปรงของเขาก็เริ่มปรากฏตั้งแต่เขาอายุ 2 ขวบแล้ว
เมแกนได้พูดคุยอย่างลึกซึ้งกับลูกชายของเธอถึงการตัดสินใจแต่งตัว “อย่างแตกต่าง” ของเขา เธอบอกว่า “โนอาห์เริ่มใส่ชุดกระโปรงตั้งแต่เขาอายุประมาณสองขวบ และฉันซื้อหนังสือหลายเล่มที่พูดถึงสิ่งเหล่านี้และพูดถึงเรื่องนี้ในทุกแง่มุมมาด้วย”
เธออธิบายด้วยเช่นกันว่าเธอค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อที่จะรู้ว่าจะทำความเข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดีที่สุดอย่างไร เธออธิบายว่า “หนังสือบางเล่มก็เขียนโดยเด็กที่เป็นคนข้ามเพศ หนังสือบางเล่มก็เป็นเรื่องที่บอกว่าคุณเป็นเด็กผู้ชายและใส่ชุดกระโปรงได้ คุณแสดงออกตัวตนของคุณผ่านเสื้อผ้าของคุณได้ตามแต่ที่คุณต้องการ และนั่นไม่มีอะไรเดี่ยวข้องกับเรื่องเพศสภาพของคุณเลย”
เช่นเดียวกัน เธอกล่าวว่าเธอได้เลี้ยงลูกของเธอขึ้นมาตามแนวทางนี้ เธอเสริมว่า “บางครั้งพวกเขาก็ยังเด็กมาก ฉันช่วยรวมเรื่องเหล่านั้นเข้าไปในชีวิตประจำวันของพวกเขาเพื่อที่จะได้ไม่มีใครรู้สึกว่าพวกเขาประหลาด แปลก หรือว่าแตกต่าง”
เมแกนกล่าวว่า เธอรู้ดีถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเธอไปควบคุมปฏิกริยาของคนอื่นที่มีต่อการตัดสินใจของลูก ๆ ของเธอหรือว่าสิ่งที่คนอื่นตัดสินใจจะสอนลูกของพวกเขาไม่ได้ เพราะอย่างนั้น เธอจึงไม่ชอบลงรูปภาพของลูกเธอในสื่อสังคมออนไลน์
ในการให้สัมภาษณ์เดียวกันกับข้างต้น จะเห็นได้ในบางทีว่าเธอรู้สึกแย่ตอนที่พูดเรื่องนี้ แต่ก็ยังรู้สึกเปี่ยมไปด้วยรักอยู่ เธอบอกว่า “ฉันภูมิใจในตัวลูก ๆ ของพวกเขา โนอาห์เป็นนักเปียโนที่เหลือเชื่อ เขาเรียนรู้เพลงคอนแชร์โตของโมซาร์ตได้ภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น ฉันอยากให้คนได้เห็นสิ่งนั้น แต่ฉันนก็ไม่อยากให้โลกได้เข้าถึงจิตวิญญาณอันอ่อนโยนดวงนี้และพูดสิ่งต่าง ๆ ที่เราต่างก็รู้ว่าพวกเขาจะพูดใส่เขาทั้งหมด”
เมแกนอธิบายว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยและลูกชายของเธอต้องรับมือกับความคิดเห็นในทางลบจากเด็กคนอื่น ๆ ที่บอกเขาว่า “เด็กผู้ชายไม่ใส่กระโปรงนะ” หรือ “เด็กผู้ชายไม่ชอบสีชมพูหรอก” เธอกล่าวว่าลูก ๆ ของเธอไปโรงเรียนเสรีนิยมที่มีอิสระในแคลิฟอร์เนีย แต่สถานาการณ์แบบนี้ก็ยังมีอยู่
เมแกนพยายามจะสอนลูก ๆ ของเธอให้มั่นใจไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไรก็ตาม เธอเล่าถึงตอนที่โนอาห์ใส่กระโปรงไปโรงเรียนและเมื่อถูกถามว่าเพื่อน ๆ เขาพูดอะไรไหม เขาก็ตอบว่า “อืม เด็กผู้ชายหัวเราะกันหมดตอนผมเดินเข้าห้องไป แต่มันไม่สนใจนะ ผมชอบชุดกระโปรงมากเลย”
เมแกนรู้อยู่ตลอดว่าโนอาห์ ลูกชายของเธอ อาจจะรู้สึกเจ็บปวดจากความเห็นพวกนั้นในบางครั้ง และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงกังวล “ฉันแค่หวังว่ามนุษยชาติจะไม่เป็นอย่างนี้ แม้ว่าลูกของเธอจะกล้าหาญและลูกของฉันก็กล้าหาญจริง ๆ และฉันก็รู้ว่าพวกเขามีเหตุผลที่เลือกเส้นทางนี้ แต่มันยากนะคะ สำหรับคนเป็นแม่” เธอบอก
โชคดีสำหรับโนอาห์ เขามีพ่อแม่ที่รักและสนับสนุนเขา และไม่ว่าการตัดสินใจของเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะยืนเคียงข้างเขา จับมือเขาอยู่เสมอ เพราะสิ่งแรกและสิ่งที่ต้องมาก่อน สิ่งที่พ่อแม่ต้องการให้กับลูก ๆ ของพวกเขาก็คือให้พวกเขารู้สึกเป็นอิสระและมีความสุข และทั้งเมแกนกับอดีตสามีของเธอ ไบรอัน ก็กำลังทำสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ลูก ๆ ทั้งสามคนของพวกเขาเติบโตมาเป็นเช่นนั้น
คุณสอนลูก ๆ ของคุณให้เคารพคนอื่นอย่างไรบ้าง ? ตัวชี้วัดใดที่คุณใช้เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีวัยเด็กที่มีความสุข ?