พ่อแม่ 19 คนแบ่งปันวิธีการแปลก ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาจัดการลูกของตัวเองได้อย่างอยู่หมัด

ถ้ามีหนึ่งสิ่งที่พวกเราทุกคนคงจะเห็นเหมือนกัน นั่นก็คือการเลี้ยงลูกไม่ใช่งานที่ง่ายสำหรับทุกคน เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ออกมาดี พ่อแม่หลายคนจึงต้องใช้กลยุทธ์ที่แปลกใหม่ซึ่งแตกต่างจากวิธีการที่ใช้ในอดีต ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้ผลเสมอไป แต่บางวิธีก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเกินความคาดหมาย และวิธีการเหล่านั้นก็สมควรถูกนำมาแบ่งปันกับคนที่กำลังเจอปัญหาในการเลี้ยงลูกของพวกเขาอยู่

ชีวิตสดใสได้รวบรวม “คำสารภาพ” มากมายจากพ่อแม่ที่ใช้เทคนิคแปลก ๆ กับลูกของพวกเขาและมันก็ได้ผลจริงด้วย

• ความแปรปรวนของฮอร์โมนเป็นอะไรที่สนุกมาก !! และมันก็ดีขึ้นเพราะอารมณ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ได้รุนแรงมากนักในช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่คุณก็ต้องหนักแน่นกับมัน ถ้าพวกเขามีทัศนคติที่แย่และกรีดร้อง, ขว้างปาข้าวของ, ปิดประตูเสียงดังหรือทำอะไรอย่างอื่น ให้ยึดสิ่งที่มีค่าที่สุดกับพวกเขาอย่างโทรศัพท์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และช่วงเวลาในการจ้องหน้าจอไป เราบันทึกภาพลูกสาวของเราและเปิดให้เธอดูว่าเธอทำตัวยังไงตอนที่เธอเป็นแบบนั้นเพราะเธอดูเหมือนจะจำไม่ได้จริง ๆ และมันก็ช่วยทำให้เธอใจเย็นลง และได้เห็นน้องของเธอหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล ตอนนี้มันก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ (เธออายุ 15 ปี) แต่มันก็น้อยลงแล้ว การมีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและไม่รู้วิธีแสดงออกนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา © Rose_David163 / Reddit
• ตอนที่ลูกสาวของฉันยังเป็นเด็กทารก เธอชอบไดร์เป่าผมมาก ๆ หมอทำคลอดของเราบอกว่าเราควรจะใช้มันเป่าตัวเธอหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะสำหรับเด็กทารกหลาย ๆ คนแล้ว มันเป็นวิธีที่สบายกว่าการใช้ผ้าเช็ดตัว เธอมีความสุขมากตอนที่เราใช้วิธีนั้น ดังนั้นพอเธอร้องไห้ ฉันก็จะอุ้มเธอไปนอนบนโต๊ะเปลี่ยนเสื้อผ้าและใช้ไดร์เป่าผมเป่าตัวเธอ (แน่นอนว่าต้องตั้งค่าไม่ให้ร้อนเกินไปและมีระยะห่างที่เพียงพอ) และเธอก็มักจะหลับเวลาใช้วิธีนี้ แล้ววันหนึ่งเธอก็เริ่มเกลียดทุกอย่างที่ส่งเสียงดังและตอนนี้เธอก็เริ่มร้องไห้เวลาได้ยินเสียงไดร์เป่าผม, เครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์ทำครัวที่ส่งเสียงดัง... เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเราไม่ได้สังเกตเห็นประสบการณ์เชิงลบใด ๆ แต่ในช่วงก่อนหน้านั้นมันได้ผลอย่างมาก © WaspDefender / Reddit
• บางครั้งการที่ให้ลูกอยู่ในเป้อุ้มเด็กและเดินไปรอบ ๆ บ้านก็ได้ผลกับฉัน ฉันใช้วิธีการเดินแบบเด้งตัวเล็กน้อยที่ฉันคิดว่ามันเป็นการเลียนแบบสภาพแวดล้อมเวลาที่อยู่ในมดลูก (ฉันเรียกมันว่าการเดินลากเท้าแบบซอมบี้เนื่องจากฉันเหนื่อยมาก) เด็กจะผล็อยหลับและฉันก็จะเอาเขาเข้านอนได้ © CanaryVogel / Reddit
• ฉันได้เครื่องฉายดวงดาวที่จะฉายภาพดวงดาวในสีที่แตกต่างกันขึ้นบนเพดานและผนัง (ในขณะที่ไฟในห้องปิดอยู่) และมันก็มีปุ่มที่ทำให้ดวงดาวเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ ลูกชายของฉันมีความสุขมากที่ได้นอนดูดาวในเปลนอนของเขา เขาชี้และพูดคุยอย่างตื่นเต้นถึงสิ่งที่เขาเห็น เราอยู่คนละห้องกันแต่ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงลูก ฉันจะเปิดเครื่องแล้วก็เดินไปแปรงฟัน, เข้าห้องน้ำและเริ่มดื่มกาแฟ ฉันไม่รู้ว่าลูกจะตื่นเต้นกับสิ่งนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่เขาก็ตื่นเต้นกับมันมาก ๆ มาหนึ่งสัปดาห์แล้วและมันก็น่ารักสุด ๆ © rainbow_orca / Reddit

• ฉันมีตุ๊กตาอยู่บนพื้นไว้ให้ลูกตัวน้อยเล่นและฉันก็จะปิดประตูห้องนอนเพื่อที่เขาจะได้อยู่ในนั้นและในวันนั้น ฉันจะได้แต่งตัวและจัดห้องให้เรียบร้อย เขามักจะเดินไปทั่วห้องหรือไม่ก็ยืนอยู่หน้ากระจก แต่ถ้าวันนั้นเขาดูงอแง ฉันก็จะไม่จัดเตียง แต่จะแค่แต่งตัวให้เรียบร้อย ฉันมีตะกร้าใส่ของเล่นใบเล็ก ๆ อยู่ในห้องทุกห้องในอพาร์ทเมนท์ของเราเพื่อให้เขามีอะไรเล่น ไม่ว่าฉันจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เขามีของเล่นหลัก ๆ ของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนของเล่นพวกนี้ก็เหมือนกับของเล่น “ชิ้นพิเศษ” ซึ่งเขาจะได้เล่นมันแค่ตอนที่ฉันอยู่ในห้องน้ำหรือกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่เท่านั้น © projectxplode / Reddit
• 7 ปีของการดูแลเด็กทารกในสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนที่ฉันจะมีลูกของตัวเอง คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ฉันอยากจะแบ่งปันก็คือไม่ว่าคุณจะต้องถ่างตาตื่นหรือนอนไม่พอแค่ไหน คุณก็ต้องทำเป็นตื่นเต้นที่ได้เห็นคุณครูของพวกเขา ถ้าคุณครูไม่ว่าอะไร คุณก็อาจจะขอให้พวกเขาทำเป็นตื่นเต้นกลับมาด้วยก็ได้ เด็กจะเชื่อใจคนที่คุณเชื่อใจและจะมีความสุขเมื่อคุณมีความสุข เพราะฉะนั้นหากคุณคิดว่าคุณครูของพวกเขายอดเยี่ยมมาก คุณก็แค่ทำเป็นว่าคุณสนุกสุด ๆ การส่งต่อความรู้สึกเป็นอะไรที่สนุกมาก สมองเล็ก ๆ ของพวกเขาจะเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว © Bea_Stings / Reddit
• นักบำบัดเด็ก (ที่มีใบอนุญาตและเน้นในเรื่องของบาดแผลทางใจ) ที่ดูแลลูกอายุ 10 ปีของเราได้ให้คำแนะนำวิธีการรับมือกับลูกอายุ 2 ขวบของเราที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ความรู้สึก, การระบุถึงพฤติกรรมที่แย่และเปลี่ยนให้เขามีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ จากนั้นก็ให้พื้นที่พวกเขาได้แสดงความรู้สึกหากมันปลอดภัย เป้าหมายคือช่วยพวกเขาให้แยกแยะอารมณ์ของตัวเองและมอบทักษะการเผชิญปัญหาที่เหมาะสมกับช่วงวัยให้ได้ ลูกของฉันยังไม่รู้วิธีการหายใจเข้าลึก ๆ เราก็เลยปล่อยให้เธอได้ร้องไห้หรือเดินตึงตังและซบกับของเล่นได้ © LadyStarbuck1 / Reddit
• พ่อแม่ที่บ้า (และถังแตก) ของผมเลี้ยงลูกที่ประสบความสำเร็จมากมา 8 คน วิธีการแปลก ๆ ที่พวกเขาใช้ได้ผล เช่น การลงโทษสำหรับทุกสิ่งที่พวกเราทำ รวมถึงการได้เกรดไม่ดี, การมีความคิดที่แย่หรือไม่ยอมทำงานบ้าน ก็คือการไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียนซึ่งมันทำให้เราอยากไปโรงเรียนมาก ๆ และเราก็ต้องทำงานบ้านเป็นส่วนใหญ่เวลาอยู่ที่บ้าน © cupateatoo / Reddit

• ลูกสาวของฉันมีปัญหาเรื่องการตีนิดหน่อย ฉันจะใช้กำลังในการหยุดเธอ (อย่างนุ่มนวล) และบอกเธอว่ามันไม่แปลกที่จะโกรธ แต่ห้ามตีคนอื่น ถ้ามันเป็นเพราะเรื่องของเล่น ลูกจะถูกยึดของเล่นหลังจากนั้น เธอยังคงได้รับการโอบกอดและความรักในช่วงเวลานี้ ต่อมาพอใจเย็นลง เราก็จะคุยเรื่องนี้กันและฉันก็จะบอกเธอถึงสิ่งที่เธอทำได้เวลาที่โกรธ พฤติกรรมนี้หายไปค่อนข้างรวดเร็ว การเข้ามุมไม่ได้สอนให้เด็กเข้าใจอะไรเลย © attabe123 / Reddit
• ประมาณ 5 ปีในช่วงม.ปลายและมหาลัย ฉันเคยทำงานที่ส่วนของเด็กเล็กของค่ายฤดูร้อน (เด็กอายุ 18 เดือนถึง 3 ปี) ฉันสัญญากับคุณได้เลยว่า 99% ของเด็กที่ร้องไห้ที่จุดรับส่งจะหยุดร้องไห้แทบจะทันทีที่พ่อแม่ของพวกเขาออกไป ยิ่งพ่อแม่พยายามจะเอ้อระเหยและปลอบลูกของพวกเขานานเท่าไหร่ ช่วงเวลาที่เด็กจะสงบสติอารมณ์และได้เล่นสนุกก็ยิ่งนานขึ้นเท่านั้น วิธีการที่ดีที่สุดที่เราค้นพบในการรับมือกับเด็กที่ร้องไห้คือการที่พ่อแม่ส่งพวกเขาต่อให้กับที่ปรึกษาคนโปรดที่ประตูทางออกและขับรถออกไปเลย เขาจะพาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบและพวกเขาจะได้เล่นภายในเวลา 5-10 นาทีและเด็กก็จะเล่นอย่างมีความสุขกับเพื่อนของพวกเขา เด็กหลาย ๆ คนไม่อยากกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ © Muddy_Wafer / Reddit
• ตอนที่ลูกชายอายุ 4 ขวบและภรรยาของผมทะเลาะกัน เขาจะวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยความโกรธอย่างมากและร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวัง หลังจากนั้นสักพัก ผมจะเข้าไปในห้องเพื่อปลอบโยนเขา เขาชอบเวลาที่ผมอธิบายให้ฟังถึงรายละเอียดว่าทำไมเขาถึงโกรธ, เจ็บปวดและหงุดหงิด และเขาก็จะเริ่มหัวเราะออกมาด้วยความผ่อนคลาย ผมต้องทำแบบนี้เพราะมันทำให้เขารู้ว่ามีคนเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของเขา © etrnloptimist / Reddit
• คำแนะนำของฉันเป็นเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ความโกรธเคืองมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความหิว, ความเหนื่อยล้า (มักจะมาจากการไม่ถูกรับฟังหรือถูกมองข้าม) ความเบื่อหน่ายหรือความคาดหวังที่ไม่สมจริง แต่ถ้าเกิดความโกรธเคืองขึ้นและความต้องการได้รับการแก้ไข, การสื่อสารหรือการแก้ปัญหาไปแล้ว ความโกรธเคืองนั้นก็จะหายไป © jazinthapiper / Reddit

• ครั้งหนึ่งนักบำบัดเคยบอกฉันว่าลูกสาววัยรุ่นแค่อยากจะเถียงฉันไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นฉันก็ควรจะหยุดเถียงกับลูก อย่างเช่น พอพูดว่า “วันนี้ลูกไม่ต้องไปโรงเรียน” แล้วก็ออกมาจากการโต้เถียงเลย อย่าไปเถียงกับเธอ แค่พูดซ้ำอย่างใจเย็นว่า “วันนี้ลูกไม่ต้องไปโรงเรียน” คุณอาจจะพูดอีกว่า “มีอะไรอีกไหม” และ “แม่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว” ได้เช่นกัน แค่อย่าเข้าไปร่วมในการโต้เถียง © veganrd / Reddit
• ลูกสาวอายุ 4 ขวบของฉันงอแงมากประมาณวันละเป็นสิบครั้งได้ถ้าเราไม่ยอมปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่เธออยากทำ เมื่อวานฉันผล็อยหลับไป ฉันควรจะตื่นตอน 8 โมง แต่ฉันตื่นมาตอน 9 โมง ปกติลูกของฉันจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแค่เพื่อจะลุกขึ้นมาจากเตียง ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนฝันร้าย ฉันเด้งขึ้นมาจากเตียงแล้วก็เข้าไปในห้องของลูกและปลุกเธอ เธอรู้สึกหงุดหงิดแล้วก็เริ่มงอแงและกรีดร้องเพราะเธออยากจะนอนต่อและไม่อยากไปโรงเรียน ฉันแต่งตัวให้ลูก แต่เธอก็ยังไม่หยุดร้อง ฉันรู้สึกสงสารลูกและเธอก็แหกปากออกมาว่า “แม่ ! หนูอยากนอนต่อ” ฉันนั่งลงบนเตียงของเธอแล้วบอกว่า “มานี่มา” แล้วฉันก็กอดเธอและพูดว่า “แม่รู้ว่าหนูอยากนอนต่อ แต่แม่เผลอหลับไปและเราก็ต้องไปโรงเรียนกัน วันนี้เราต้องรีบ ๆ เลย แม่ขอโทษนะลูก !” แล้วฉันก็ร้องไห้ออกมา ลูกกอดฉันตอบแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี๋ยววันนี้หนูจะรีบให้เลย” ปกติแล้วเธอจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่วันนี้เธอใช้เวลาแค่ 20 นาที เธอกินข้าว, แปรงฟันแล้วก็ออกจากบ้านพร้อมกับบ่นนิด ๆ มันทำให้เห็นว่าแค่คำพูดธรรมดาก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวันของลูกได้ ฉันรู้สึกภูมิใจมาก" © unicorn-p**p1234 / Reddit
• วันนั้นลูกอายุ 3 ขวบรับมือกับฉันได้ดีตอนที่ฉันขาดสติและขึ้นเสียงใส่เขา “แม่ครับ ตอนที่แม่ตะโกนมันสอนผมและน้องชายว่าการตะโกนไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันไม่ดี” โถ เจ้าหนู อย่ามาใช้วิธีการเลี้ยงลูกกับแม่นะ ขอให้แม่ได้ระบายออกมาซะหน่อยเหอะ !
  © two__sheds / Reddit

วิธีการเลี้ยงลูกที่แสนพิเศษที่ได้ผลสำหรับคุณคืออะไร ? คุณคิดว่าการเลี้ยงลูกในแบบอุดมคติควรจะเป็นอย่างไร ?