ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

ทำไมลูกคนโตของคุณจึงไม่ควรเป็นคนเลี้ยงน้อง

เมื่อลูกคนแรกของพวกเขาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่มากพอ ในที่สุดพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็จะหายใจหายคออย่างโล่งอกได้บ้างแล้ว นอกจากช่วยเหลืองานบ้าน เด็ก ๆ ก็อาจช่วยดูแลลูกคนที่ยังเล็กอยู่ได้เป็นครั้งคราว และช่วยให้พ่อแม่ได้มีเวลาส่วนตัวสักหน่อย แต่ปรากฏว่าการให้พวกเขาเป็นคนดูแลพี่น้องอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป เพราะเรื่องนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ในแง่ลบได้

พวกเราที่ชีวิตสดใสจึงอยากมาแลกเปลี่ยนกับคุณ ว่าทำไมการบังคับให้ลูกคนโตเลี้ยงน้องอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด

คุณมอบหมายความรับผิดชอบที่มากเกินควรให้พวกเขา

แน่นอน การรับภาระหน้าที่ไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายต่อลูกคนโตของคุณ แต่ความแตกต่างของการให้ลูกวัยรุ่นคอยจับตาดูเด็กทารกระหว่างที่คุณทำอาหารเย็น กับการให้พวกเขาดูแลพี่น้องนานหลายชั่วโมงโดยไม่มีคุณคอยกำกับนั้น มีมากมายมหาศาลเลย

ถ้าลูกของคุณไม่มีปัญหาอะไร อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แต่บ่อยครั้งลูกคนโตก็ไม่มีตัวเลือกอื่น นอกจากโตขึ้นมาเพื่อ “รับหน้าที่แทน” และผลก็คือภารกิจนี้กลายเป็นภาระที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของพวกเขา ควรมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนอยู่เสมอว่า ลูกของคุณไม่ควรต้องมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่เสมือนเป็นพ่อแม่อีกคนมากนัก

แล้วก็อย่าลืมด้วยว่าไม่ว่าเด็ก ๆ จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้มากแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงเป็นเด็ก และก็ยังไม่พร้อมรับภาระทั้งหมดอย่างเต็มตัว พวกเขาไม่อาจรับมือกับสถานการณ์บางอย่างได้ และถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้น ความรู้สึกผิดก็จะเกาะกินพวกเขาอย่างหนักไปตลอด

พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

ลูกคนโตอาจกลายเป็นพี่เลี้ยงสำเร็จรูปที่สะดวกสบายมาก ๆ ได้ ถ้าพ่อแม่จ้างคนดูแลเด็กมืออาชีพไม่ไหว แต่ในกรณีนี้ พวกคุณก็ไม่ควรคาดหวังการอุทิศตนและความเป็นมืออาชีพในระดับเดียวกันจากพวกเขา ในเมื่อพวกเขาเองก็เป็นเด็ก เหล่าวัยรุ่นก็ไม่เคยได้รับการฝึกฝนเรื่องการเปลี่ยนผ้าอ้อม และพวกเขาก็ไม่รู้วิธีการป้อนอาหารทารกที่เหมาะสม หรือวิธีรับมือเวลาที่ทารกอาละวาดไม่ได้ดั่งใจ

ขณะที่การให้ลูกคนโตช่วยอาจเป็นเรื่องที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในครอบครัวใหญ่ คุณก็ต้องแน่ใจด้วยว่าภาระหน้าที่ที่ลูกคนโตของคุณได้รับมอบหมายให้ทำนั้น เหมาะสมกับอายุของพวกเขา - พวกเขาช่วยเรื่องในบ้านได้ อ่านหนังสือให้น้อง ๆ ฟังก่อนเข้านอนได้ เล่นกับพวกเขาหลาย ๆ ชั่วโมงได้ และทำเรื่องทั่วไปอื่น ๆ ได้ด้วย

พวกเขาต้องเสียสละวัยเด็กของตัวเอง

เด็กที่เป็นลูกคนเดียวในครอบครัว มีภาระหน้าที่น้อยกว่าเด็กที่มีน้องหลายคนมาก หลังจากทำหน้าที่ปกติของพวกเขา อย่างการทำความสะอาดห้องของตัวเองหรือทำการบ้าน พวกเขาก็ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ นอกบ้านได้ ดูหนังเรื่องโปรด หรือทำสิ่งที่ต้องการได้ แต่เด็ก ๆ ที่มีน้องเล็ก ๆ หาเวลาเป็นของตัวเองได้ไม่ง่ายขนาดนั้น

สำหรับเด็กที่โตกว่า จะต้องมีใครสักคนที่พวกเขาต้องดูแล ต้องช่วยเหลือ และต้องเล่นด้วยเสมอ และพ่อแม่ก็มักจะบังคับให้พวกเขาละทิ้งกิจกรรมตามปกติของเด็กวัยรุ่น เพียงเพราะตนเองต้องการความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม การให้ลูก ๆ ของคุณได้มีวัยเด็กอย่างที่ควรจะเป็นก็เป็นเรื่องสำคัญ และได้ออกไปเล่นสนุกแทนที่จะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม ช่วยฝึกการขับถ่าย ตรวจการบ้าน และอื่น ๆ ดังนั้นการปล่อยให้เด็กได้เป็นเด็กในช่วงวัยของพวกเขา อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว

คุณอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูก ๆ ย่ำแย่ลงได้

การบังคับให้ลูกที่โตกว่าดูแลน้องของพวกเขาเป็นประจำ อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจได้ พวกเขาอาจรู้สึกว่าคุณสร้างแรงกดดันและความเครียดให้มากเกินไป ผลลัพธ์ก็คือ พวกเขาอาจเริ่มประสบกับความรู้สึกในแง่ลบที่มีต่อน้องชายหรือน้องสาว

นอกจากนั้น เมื่อพวกเขาต้องอยู่ตามลำพังกับพี่น้อง เด็กที่โตกว่ามักรับบทบาทเป็นผู้มีอำนาจมากกว่า ซึ่งพวกน้อง ๆ อาจจะไม่ยอมรับหรือให้ความเคารพเสมอไป เรื่องนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาระหว่างพวกเขา และนำไปสู่การโต้เถียง และแม้แต่การทะเลาะเบาะแว้งได้

นี่ไม่ใช่งานของพวกเขา

พ่อแม่มักจะคาดหวังบ่อย ๆ ว่าลูกคนโตของพวกเขาจะเลี้ยงน้องให้ฟรี ๆ เชื่อว่ามันเป็นแค่หน้าที่ปกติอย่างหนึ่งของพวกเขา แต่วัยรุ่นส่วนมากและคนวัยยี่สิบไม่เห็นด้วยสักนิด พวกเขามองว่าคนเลี้ยงเด็กเป็นอาชีพที่ควรได้รับค่าจ้างเหมือนกิจกรรมอื่น ๆ ที่พวกเขาทำเช่นกัน และแบบนั้นก็ไม่ยุติธรรมกับพวกเขาเลย

ถ้าคุณจะใช้ลูก ๆ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก และให้ดูแลพี่น้องของเขาเป็นครั้งคราว ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องเงิน แต่ถ้าต้องเลี้ยงเด็กเป็นประจำ และหน้าที่นี้กินเวลามหาศาลในชีวิตของพวกเขา การชดเชยในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งก็เป็นทางออกที่ได้ผลดีที่สุด

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเงินก็ได้ คุณอาจอนุญาตให้พวกเขาใช้รถของคุณ ถ้าพวกเขาโตพอแล้ว ให้อภิสิทธิ์พิเศษบางอย่างแก่พวกเขา หรือซื้อของที่พวกเขาอยากได้ให้ แค่ต้องดูให้แน่ใจว่างานของพวกเขาออกมาน่าพอใจก็พอ

ในความเห็นของคุณ การให้พี่น้องดูแลกันเองนั้นดีหรือไม่ ? เราอยากอ่านเรื่องราวของคุณกับครอบครัวในช่องคอมเมนต์ด้วยนะ !

แชร์บทความนี้