ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

13 นิสัยที่เคยชินที่ทำให้คุณน้ำหนักขึ้นอย่างมาก

การผสมผสานกันระหว่างอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ, การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และแผนการลดน้ำหนักที่คิดมาเป็นอย่างดีอาจจะไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้มากมาย ในกรณีนี้ มันอาจจะเป็นเพราะกิจวัตรประจำวันบางอย่างที่ถูกละเลยและมันต้องได้รับการตรวจสอบ อย่างเช่นการเลือกรับประทานอาหารที่ทำจากพืช, การหมกมุ่นในการออกกำลังกายหรือไปยิมเป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งการเลือกใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ของคุณที่อาจจะทำให้การเดินทางในการลดน้ำหนักช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ต้องกังวลไป ชีวิตสดใสอยู่เคียงข้างคุณ เรามาร่วมกันหาว่าพฤติกรรมใดที่ควรจะหลีกเลี่ยงเพื่อการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ

1. คุณหมกมุ่นอยู่กับอะโวคาโด้

อะโวคาโด้อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ, สารอาหาร, แร่ธาตุและสารแอนตี้ออกซิแดนท์อื่น ๆ ที่มีประโยชน์ เป็นเพราะชื่อเสียงในด้านดีพวกนี้ ผู้คนจึงมีแนวโน้มที่จะใส่อะโวคาโด้ลงในขนมปังปิ้ง, ไข่, ซอส และแม้กระทั่งน้ำปั่นโดยที่ไม่สนใจในเรื่องของปริมาณ อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่าอะโวคาโด้จะมีแคลอรี่สูง ซึ่งหมายความว่าการบริโภคอะโวคาโด้มากเกินไปนั้นไม่เป็นประโยชน์ มีคำแนะนำให้กินอาโวคาโดเพียงวันละครึ่งลูกเท่านั้นเพื่อการลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ

2. คุณไม่กินอาหารกลางวัน

บางคนไม่กินอาหารกลางวันเพราะพวกเขาเชื่อว่าการกินอาหารในปริมาณที่น้อยนั้นเป็นเรื่องที่ดี ในขณะที่บางคนก็อาจจะแค่ยุ่งตลอดทั้งวันจนลืมกิน การไม่กินอาหารให้เพียงพอจะทำให้คุณเหนื่อยล้าและเครียดได้ ซึ่งส่งผลให้มีอาการหิวกระหายเพิ่มขึ้นและจะกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไม่ยั้งในเวลาต่อมา นอกจากนี้มันยังนำไปสู่ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่จะขัดขวางคุณจากการเผาผลาญไขมัน

3. คุณเลือกใส่กางเกงสกินนี่

มันอาจจะช่วยสร้างภาพลวงตาและช่วยให้คุณดูผอมลง แต่การสวมกางเกงสกินนี่บ่อย ๆ อาจจะนำไปสู่ปัญหาบางอย่างได้ กางเกงสกินนี่รัดต้นขา, ก้นและแกนกลางของคุณ และมันยังขัดขวางกล้ามเนื้อจากการทำหน้าที่ในการพยุง หลังจากถูกบีบรัดเป็นเวลานานมันจะเริ่มหย่อนและดูไม่กระชับ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิ่งนี้คุณอาจจะเปลี่ยนสไตล์ให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น หรือนวดข้อเท้าและแกนกลางของคุณเป็นประจำหลังจากสวมกางเกงยีนส์ประเภทนี้

4. คุณเปลี่ยนมาดื่มนมอัลมอนด์

ถ้าคุณไม่ได้แพ้น้ำตาลแล็คโตสหรือเป็นวีแกน การเปลี่ยนมาดื่มนมที่ทำจากพืชอาจจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีเท่าไหร่นัก ถ้าคุณกำลังพยายามจะลดน้ำหนัก คนที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมสัตว์จะมีการเผาผลาญที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะน้ำหนักขึ้นน้อยลงเพราะแคลเซี่ยมด้วย แต่วิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อมีการกินอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ

5. คุณหลีกเลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรตและไขมัน

การไม่กินสารอาหารอื่น ๆ เพื่อให้ได้โปรตีนมากขึ้นอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาหัวใจ, ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ, ขาดวิตามินและอื่น ๆ นอกจากนี้ การกินคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่ดีต่อสุขภาพไม่เพียงพอในมื้ออาหารจะทำให้การกินของคุณไม่สมดุลและทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพที่สุด ต้องมั่นใจว่าคุณบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนใหญ่

6. คุณรุนแรงกับร่างกายของตัวเองมากเกินไป

การออกกำลังกายเป็นประจำไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีร่างกายที่ลีนเท่านั้น แต่มันยังเป็นวิธีการที่มหัศจรรย์ในการลดระดับความเครียดด้วย แต่การออกกำลังกายมากเกินไปก็อาจส่งผลตรงกันข้ามและทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียดของคุณเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของคุณกักเก็บไขมันเพิ่มขึ้นและกระหายอยากอาหารมากขึ้น แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลางประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ส่วนกลุ่มกล้ามเนื้อหลักของคุณควรออกประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

7. คุณเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มี “น้ำตาล 0%”

น้ำตาลเทียมอาจจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมันจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรง ไม่เพียงแต่มันจะไม่ช่วยในการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่สารแทนน้ำตาลมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวานและอาการอ้วนมากเกินไป มันยังมีอิทธิพลต่อความกระหายและทำให้คุณอยากกินของหวานมากขึ้นด้วย

8. คุณเลือกที่จะอยู่บ้าน

ถ้าคุณไม่ให้ร่างกายได้รับแสงธรรมชาติทุกวัน คุณอาจจะกักเก็บไขมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากงานวิจัยพบว่าเมื่อแสงแดดส่องผ่านผิวหนังของเรา มันจะไปถึงเซลล์ผิวหนังด้วย หลังจากสิ่งนี้เกิดขึ้นมันก็จะเริ่มกักเก็บไขมันน้อยลง เนื่องจากหยดไขมันมีขนาดเล็กลงและถูกปล่อยออกจากเซลล์ ดังนั้นพยายามออกมาข้างนอกบ้านบ้างและรับแสงแดดธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง

9. คุณมารยาทดีเกินไป

การกินอาหารกับเพื่อนหรือครอบครัวของเราอาจจะทำให้เรากินอาหารมากเกินกว่าที่คิดไว้ เราอาจจะรู้สึกผิดที่กินไม่หมดจาน โดยเฉพาะเมื่อมีคนเตรียมอาหารอันแสนอร่อยไว้ให้เรา แต่ความรู้สึกนี้จะนำสิ่งที่แย่มากกว่าสิ่งที่ดีมาให้เนื่องจากมันทำให้เรากินอาหารเยอะเกินไปและผลลัพธ์ก็คือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

10. คุณเลือกดื่มกาแฟใส่นม

กาแฟไม่ได้ทำให้การลดน้ำหนักของคุณพัง แต่สิ่งที่คุณเลือกจะใส่ลงไปเพิ่มนั่นแหละที่ทำ แทนที่จะดื่มกาแฟดำง่าย ๆ ในตอนเช้า หลายคนเลือกเครื่องดื่มรสหวานที่มีนมหรือน้ำตาล น้ำตาลและไขมันในเครื่องดื่มนี้ทำให้เครื่องดื่มมีแคลอรี่เพิ่มขึ้น และการดื่มเครื่องดื่มแบบนี้เป็นประจำจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ถ้าลองเปรียบเทียบดูจะพบว่ากาแฟดำหนึ่งแก้วมีเพียง 4 แคลอรี่ในขณะที่คาปูชิโน่ใส่นมมี 110 แคลอรี่

11. คุณมีแมกนีเซียมไม่เพียงพอ

แร่ธาตุชนิดนี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อแรงกระตุ้นของเส้นประสาท, กล้ามเนื้อ และสุขภาพหัวใจเท่านั้น แต่การขาดแร่ธาตุชนิดนี้จะทำลายการลดน้ำหนักของคุณได้ด้วย แมกนีเซียมช่วยทำให้ความไวต่ออินซูลินและการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสดีขึ้น การเพิ่มแมกนีเซียมมีผลดีต่อการปรับปรุงและคงน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพไว้ได้ ดาร์คช็อกโกแลต, ถั่ว, พืชตระกูลถั่วและปลาที่มีไขมันจะช่วยเพิ่มระดับของแมกนีเซียมได้

12. คุณใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติมากเกินไป

สารทดแทนน้ำตาลธรรมชาติอย่างเมเปิลไซรัปหรือน้ำผึ้งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่อย่าลืมว่ามันก็ยังมีน้ำตาลอยู่ เช่น น้ำเชื่อมหนึ่งช้อนโต๊ะมีปริมาณของน้ำตาล 12 กรัม ในขณะที่น้ำผึ้งหนึ่งช้อนโต๊ะมีปริมาณน้ำตาล 17 กรัม มันไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะตัดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกไปจากอาหารของคุณเลย แต่คุณต้องคำนึงถึงปริมาณที่ใส่ลงไปในอาหารของคุณด้วย

13. คุณกินวิตามินแบบเยลลี่

ถ้าคุณมุ่งมั่นในการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพแต่น้ำหนักก็ยังไม่ลดซะที ถ้าอย่างนั้นคุณควรจะลองดูที่อาหารเสริมของคุณ ถ้าคุณกินวิตามินแบบเยลลี่แทนที่จะเป็นแบบยาเม็ดทั่วไปอยู่ คุณควรจะรู้ไว้ว่าวิตามินแบบนั้นมักจะใส่น้ำตาลเพิ่ม แน่นอนว่ามันจะไม่ทำให้คุณอ้วนในทันที แต่มันก็ชะลอกระบวนการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างมาก

คุณมีพฤติกรรมเหล่านี้บ้างไหม ?

ชีวิตสดใส/สุขภาพ/13 นิสัยที่เคยชินที่ทำให้คุณน้ำหนักขึ้นอย่างมาก
แชร์บทความนี้