13 นิสัยอันซ่อนเร้นที่ทำให้คุณเกิดรังแคได้
ในบางครั้งเมื่อคุณพยายามกำจัดรังแค คุณอาจจะกำลังทำอะไรบางอย่างที่มีแต่จะทำให้อาการรังแคนั้นแย่ลง อย่างเช่นคุณอาจสระผมบ่อยหรือน้อยจนเกินไป อีกทั้งวิธีที่คุณแปรงผมก็สามารถสร้างความแตกต่างได้เช่นกัน
พวกเราที่ชีวิตสดใสได้รวบรวมรายการเรื่องธรรมดา ๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วคือ “ตัวการ” ที่ทำให้เกิดสภาพของเส้นผมเหล่านี้
1. คุณสระผมน้อยครั้งหรือบ่อยจนเกินไป
เมื่อคุณไม่ค่อยสระผม ความมันจะสะสมอยู่บนหนังศีรษะและเหงื่อก็สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีแบบสำหรับการเกิดรังแค แต่ในทางกลับกันก็ไม่ควรใช้ยาสระผมทุกวันเช่นกัน เพราะคุณจะขจัดน้ำมันหอมระเหยบนหนังศีรษะออกไป ซึ่งมันจำเป็นต้องได้รับการบำรุงและมีความแข็งแรง แถมคุณยังจะทำให้หนังศีรษะแห้งอีกด้วย ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้สระผมทุก ๆ 2 หรือ 3 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้
2. คุณไม่ได้ใช้ครีมนวดผม
เมื่อคุณสระผม นอกเหนือจากสิ่งสกปรกและสารตกค้างอื่น ๆ ที่ขจัดออกไปแล้ว คุณยังขจัดความมันตามธรรมชาติออกไปด้วย ซึ่งความมันพวกนั้นต้องได้รับการเติมเต็ม แล้วนี่ก็คือหน้าที่ของครีมนวดผม โดยพวกมันเพิ่มวิตามินและสารอาหารให้กับเส้นผมของคุณ แถมยังเพิ่มความเงางามและน้ำหนักให้เส้นผม อีกทั้งยังป้องกันความแห้งกร้าน
3. คุณมีความไวต่อเชื้อราตามธรรมชาติของเส้นผม
รังแคเกิดจากเชื้อราที่ชื่อมาลาสซีเซีย (malassezia) ที่เจริญเติบโตมากจนเกินไป ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสิวได้เช่นกัน เราทุกคนมีภาวะนี้บนผิวหนังของเรา แต่บางคนมักจะมีหนังศีรษะที่มันมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะยีสต์ชนิดนี้กินน้ำมันจากผิวหนัง ดังนั้นอาการสะเก็ดบนหนังศีรษะจึงปรากฏขึ้น และถึงแม้รังแคจะรักษาไม่หาย แต่ก็สามารถควบคุมได้
4. คุณไม่ได้ล้างผมอย่างถูกวิธี
หลังจากล้างผม คุณอาจทิ้งคราบไว้บนหนังศีรษะที่สามารถเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเกิดสะเก็ดบนหนังศีรษะได้ อันเนื่องมาจากเชื้อราทั่วไปที่เราทุกคนมีอยู่บนผิวหนัง แล้วเมื่อมีสิ่งสกปรกและการหลั่งน้ำมันบนหนังศีรษะที่มากเกินไป เชื้อมาลาซซีเซียก็สามารถเติบโตจนเยอะเกินไปและทำให้เกิดรังแค หรือแม้แต่เกิดโรคต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis) ซึ่งเป็นรังแคชนิดรุนแรง
5. คุณไม่ได้แปรงผมอย่างถูกวิธี
การแปรงผมช่วยเพิ่มการไหลเวียนและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากหนังศีรษะได้อีกด้วย ดังนั้นจึงต้องทำทุกวันเพื่อลดสาเหตุของรังแคให้เหลือน้อยที่สุด โดยให้ทำเป็นประจำวันละสองครั้ง แต่อย่าหักโหมมากจนเกินไป เพราะการแปรงผมบ่อยเกินไปอาจทำให้ผมร่วงได้ นอกจากนี้พยายามหลีกเลี่ยงการแปรงผมแรง ๆ ซึ่งสามารถทำให้หนังศีรษะบาดเจ็บและอาจทำให้บวมได้
6. คุณไม่ใช้ยาสระผมแบบสลับกันหรือไม่ใช้สูตรขจัดรังแคโดยเฉพาะ
ยาสระผมแบบทั่วไปที่วางขายตามท้องตลาดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่หนังศีรษะและตกสะเก็ด เนื่องจากพวกมันมีสารซักฟอก ดังนั้นการหายาสระผมที่เหมาะสมอาจใช้เวลานานพอสมควร แต่การสลับใช้ยาสระผมหลาย ๆ แบบไปพร้อมกันอาจช่วยให้คุณกำจัดรังแคได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้ยาสระผมสูตรที่ผลิตขึ้นสำหรับรังแคโดยเฉพาะ ซึ่งมีอยู่หลากหลายแบบตามชนิดตัวยาที่ใช้
7. คุณจัดแต่งทรงผมบ่อยเกินไป
หากพวกแว็กซ์ มูส เจล หรือสเปรย์ฉีดผมไม่ถูกล้างออกไปจากผมอย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็ สิ่งเหล่านี้จะเกิดการสะสมเมื่อเวลาผ่านไป แล้วทำให้เส้นผมของคุณมันเยิ้มและสกปรก พอนานเข้าหนังศีรษะของคุณจะระคายเคือง แห้ง และคัน นอกจากนี้ความร้อนและสารเคมีจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังทำให้เส้นผมของคุณอ่อนแอและทำให้ผมแตกปลายได้ง่าย อีกทั้งคุณอาจมีความรู้สึกไวต่อผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะบางชนิด ดังนั้นควรระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์
8. คุณเครียดมากเกินไป
เมื่อเราเครียด ระบบภูมิคุ้มกันของเราต้องประสบกับปัญหา และสิ่งนี้สามารถกระตุ้นการเกิดขึ้นของน้ำมันและเชื้อรามาลาสซีเซียได้ หากคุณสังเกตเห็นว่าคุณเริ่มมีรังแคในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ให้คุณจดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นและผลกระทบที่เกิดกับสุขภาพผมของคุณเอาไว้ จากนั้นให้ลองออกไปเดินเพื่อให้สมองโล่ง ๆ เล่นโยคะ หรืออาบน้ำอุ่นนาน ๆ เป็นครั้งคราว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย
9. คุณกินของหวานมากเกินไป
น้ำตาลยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพผมของคุณได้ด้วยการสร้างความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายคุณ โดยมันไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นต่อมไขมันของคุณจึงเริ่มผลิตน้ำมันมากขึ้น นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณอาจมีผมมันเยิ้มเร็วขึ้น หากอาหารของคุณประกอบไปด้วยพวกของหวานทั้งหลาย
10. คุณกินอาหารไม่เหมาะสม
พบว่าผลิตภัณฑ์นมชนิดไขมันเต็มและไขมันอิ่มตัวช่วยเพิ่มการอักเสบและการผลิตไขมันที่ผิวหนัง ดังนั้นเพื่อควบคุมสิ่งนี้ ให้พยายามกินอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสีและวิตามินบี อย่างกล้วยที่มีสารอาหารเหล่านี้อยู่เยอะมาก แต่อย่าลืมพวกอาหารทะเล ถั่ว อะโวคาโด้ หรือเนื้อแดงในมื้ออาหารของคุณ เพราะพวกมันคือแหล่งของแร่ธาตุสังกะสีชั้นดี
11. คุณไม่ให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะมากพอ
หนังศีรษะของคุณก็เหมือนกับผิวหนังส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย ดังนั้นพวกมันควรได้รับการดูแลเช่นกัน โดยหนังศีรษะที่แห้งอาจทำให้เกิดสะเก็ดรังแคและคันได้ ดังนั้นควรทามอยส์เจอไรเซอร์ทุกครั้งที่มีโอกาส อีกทั้งคุณไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อสิ่งนี้ เพียงแค่เดินเข้าไปในครัวแล้วหยิบไข่ขึ้นมา
ให้แยกไข่ในชามและใส่ไข่แดงลงไป จากนั้นคุณสามารถเพิ่มโยเกิร์ต มะนาว และน้ำผึ้งได้ และให้ทาส่วนผสมทั้งหมดลงบนผมที่แห้งของคุณ จากนั้นคลุมผมด้วยหมวกอาบน้ำและค่อยล้างออกด้วยยาสระผม โดยในไข่แดงนั้นเต็มไปด้วยโปรตีนและวิตามินที่เส้นผมของคุณต้องการ ส่วนมะนาวมีกรดซิตริกที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ และโยเกิร์ตก็เป็นมอยส์เจอไรเซอร์แบบธรรมชาติ
12. คุณไม่ได้นวดหนังศีรษะของคุณ
ไม่ว่าคุณจะเลือกมาสก์ผมด้วยไข่แดงหรือโยเกิร์ตก็ตาม อย่าลืมนวดหนังศีรษะเบา ๆ และอย่าถูแรงจนเกินไปเนื่องจากผิวตรงนั้นบอบบางมาก โดยคุณสามารถนวดเบา ๆ ได้แม้กระทั่งบนผมที่แห้ง เพราะมันช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะและบรรเทาการเกิดรังแค แต่ถ้าคันก็อย่ายอมแพ้แล้วเกามัน เพราะว่าจะทำให้ระคายเคืองมากขึ้น
13. คุณมองข้ามค่า SPF
นอกจากการให้ความชุ่มชื้นและการนวดแล้ว คุณยังต้องปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะจากแสงแดดด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีผมสั้น หนังศีรษะของคุณสามารถไหม้แดดและลอกออกได้ง่าย ๆ ซึ่งทำให้อาการรังแคของคุณนั้นแย่ลง แต่คุณสามารถทาครีมกันแดดบนหนังศีรษะได้โดยตรงหากผมของคุณสั้น ส่วนผมยาวปานกลางถึงยาวมาก คุณสามารถหาครีมจัดแต่งทรงผมชนิดพิเศษที่จะปกป้องเส้นผมจากการทำร้ายของรังสียูวีได้
หากอาการรังแครุนแรงมากพอและคันมาก ๆ จนคุณนั้นทนไม่ได้ ขอให้คุณรีบไปปรึกษาแพทย์โดยทันที
คุณค้นพบวิธีรักษาแบบธรรมชาติอื่น ๆ ที่สามารถเอาชนะรังแคได้กันบ้างมั้ย ? มาแบ่งปันเคล็ดลับของคุณกับเราได้เลยนะ