6 ความลับของชาวญี่ปุ่นที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อให้มีอายุยืนและอยู่อย่างมีสุขภาพดีได้

ญี่ปุ่นจัดอยู่ในอันดับที่ 1 ในเรื่องอายุขัยเฉลี่ยของทุกประเทศทั่วโลก หากอายุขัยเฉลี่ยของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่ประมาณ 83.4 ปี ของญี่ปุ่นก็จะเท่ากับ 84.3 ปี แต่ทว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การมีชีวิตที่ยืนยาวเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและมีสุขภาพดีอีกด้วย

พวกเราที่ชีวิตสดใสขอปรบมือให้ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุข และพวกเราก็ได้พบกับความลับที่พวกเขาใช้เพื่อรักษาไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์ของร่างกาย

1. ยิ่งเล็กยิ่งดี

ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าสัดส่วนของอาหารที่น้อยกว่าจะทำให้กินช้าลง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้นจริง ๆ ว่าตัวคุณนั้นรู้สึกอิ่มแล้วหรือยัง โดยให้ความสำคัญไปที่จานใบเล็ก ๆ หลาย ๆ ใบแทนที่จะเป็นจานใบใหญ่เพียงใบเดียว มันก็อาจช่วยให้คุณไม่กินเยอะเกินไป อีกทั้งยังเป็นผลให้คงน้ำหนักไว้ให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี

2. กินจนรู้สึกอิ่ม 80%

ไม่แนะนำให้กินเร็วเกินไป เพราะการกินอาหารจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีนับจากเวลาที่คุณเริ่มกินเพื่อให้สมองส่งสัญญาณให้รู้สึกอิ่ม ชาวญี่ปุ่นรู้ข้อเท็จจริงข้อนี้และใช้กฎง่าย ๆ เพียงข้อเดียวก็คือ กินจนกว่าคุณจะรู้สึกอิ่ม 80% หรือเพียงแค่ 8 ใน 10 ส่วนของมื้ออาหารของคุณ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งอาหารที่เหลือ เพียงแค่คุณห่อกลับบ้านหรือไม่ก็เก็บมันไว้ในตู้เย็น

3. บริโภคน้ำมันหนึ่งช้อนชาและเกลือ 0.9 กรัม

นากาโนะเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่คนมีสุขภาพดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 80-87 ปี แล้วจากการสำรวจได้พบว่าชาวนากาโนะโดยเฉลี่ยบริโภคเกลือ 15.1 กรัมต่อวัน ซึ่งปริมาณนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นขอแนะนำให้ลดการบริโภคเกลือลงเหลือ 0.9 กรัมและน้ำมันปรุงอาหารเพียงหนึ่งช้อนชา

4. พวกเขาชอบเดินมากกว่าออกกำลังกาย

ใช่แล้วล่ะ เป็นที่รู้กันดีว่าคนญี่ปุ่นชอบใช้ชีวิตที่กระฉับกระเฉงอยู่ตลอด แล้วกีฬาโปรดอย่างหนึ่งของพวกเขาก็คือการเดิน ซึ่งพวกเขายังคงสามารถพูดคุยกันในขณะที่เดินได้ ดังนั้นมันจึงเป็นการผสมผสานระหว่างประโยชน์และความเพลิดเพลิน ซึ่งก็คือ “คุณเดิน พูดคุย ออกกำลังกาย แถมยังช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน”

5. กินเต้าหู้

เต้าหู้ยังเป็นลักษณะเด่นของอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย แล้วก็ไม่ใช่แค่เป็นอาหารมังสวิรัติเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวของคุณยืดหยุ่น ซึ่งทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัย นอกจากนี้เต้าหู้ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็ง แถมยังช่วยรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี (ถ้าเราไม่กินอาหารประเภทอื่นมากเกินไป)

6. การอบไอน้ำและอาบน้ำอุ่น

การอบไอน้ำไม่เพียงแต่เป็นการผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย อีกอย่างหนึ่งคือคุณต้องใช้น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยในเรื่องผิว และก็ระวังไม่ให้อยู่ในนั้นนาน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วตัวคุณอาจร้อนจัด โดยตัวชี้วัดอุณหภูมิที่ดีที่สุดที่เหมาะกับห้องซาวน่าก็คือร่างกายของคุณเอง และสิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกเลยก็คือ การอบไอน้ำควรจะเพลิดเพลิน

คุณอยากมีชีวิตอยู่ถึงอายุเท่าไหร่กันนะ ? แล้วคุณคิดว่าการอยู่เป็นอมตะนั้นเป็นพรหรือว่าคำสาปกันแน่ ?