อาหาร 10 ประเภทที่เราควรหลีกเลี่ยงและอาหาร 3 ประเภทที่ไม่ควรกินเลยระหว่างลดน้ำหนัก

อาหารบางชนิดไม่เป็นอันตรายในตอนแรก พวกมันดูเหมือนจะไม่เป็นภัยคุกคามใดๆ แต่บ่อยครั้งที่พวกมันสามารถทำให้คุณเป็นโรคหัวใจ มีปัญหาคอเลสเตอรอลและอื่นๆ อีกมากมายอย่างเงียบๆ อาหารบางอย่างถึงขั้นเต็มไปด้วยปรอท หวังว่ารายการอาหารที่คุณอาจไม่คิดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้จะทำให้คุณตาสว่างได้บ้าง เพราะมันเปิดโลกของเราได้อย่างแน่นอน

พวกเราชีวิตสดใสเป็นนักกินตัวยง และในบทความนี้ที่รวบรวมอาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงสำหรับการลดน้ำหนักจะทำให้เราพิจารณาอาหารของเราก่อนกินอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

1. พาสต้า

พาสต้ามีคาร์โบไฮเดรตสูงมาก คาร์โบไฮเดรตเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อบริโภคในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น การศึกษาผู้คน 117,366 คน แสดงให้เห็นว่าการบริโภคคาร์โบไฮเดรตสูงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นสาเหตุที่เรามักถูกบอกกันว่าร่างกายจำเป็นต้องมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่สมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราต้องการลดน้ำหนัก

2. โปรตีนจากสัตว์

แน่นอนว่าโปรตีนจากสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ทุกคนกิน ไข่ นม เนื้อสัตว์ และอื่นๆ มีความสำคัญต่อมนุษย์ทุกคน อย่างไรก็ตาม บางสิ่งที่มากเกินไปมักเป็นสัญญาณที่ไม่ดี การกินโปรตีนจากสัตว์มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาได้

โปรตีนจากสัตว์มีฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ไตและกระดูกได้ พวกมันสามารถสร้างภาระให้กับไตของเราได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากเนื้อสัตว์นั้นหนักกว่าผักหรือผลไม้มาก ไตของเราต้องใช้เวลาสักพักในการกรอง เราจึงมีพวกมันมากเกินไป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทนี้มากเกินไป

3. น้ำอัดลมแบบไดเอท

แม้ว่าน้ำอัดลมแบบไดเอทจะช่วยลดเรื่องการบริโภคน้ำตาลได้ แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำตาลถูกแทนที่ด้วยสารให้ความหวานเทียม เช่น แอสปาแตม ไซคลาเมต และขัณฑสกร มีการกล่าวว่าน้ำอัดลมแบบไดเอททำให้เกิดโรคต่างๆ ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้น บอกได้เลยว่า มันอยู่ในรายการอาหารที่ควรตัดออกจากอาหารที่เราควรกิน

4. ไทล์ฟิช

กลับกลายเป็นว่าไทล์ฟิชมีปริมาณปรอทมาก ปลาแต่ละตัวมีสารปรอทอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ปลาเช่น ฉลาม ปลากระโทงดาบ และไทล์ฟิชมีสารปรอทมากกว่าปลาทั่วไป เนื่องจากพวกมันมีอายุยืนยาวกว่าและสะปรอทเอาไว้เยอะมากกว่า หากเลือกได้ เราขอบอกว่าไทล์ฟิชเป็นอาหาร 3 อย่างที่ไม่ควรกิน เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ปรอทที่สะสมอยู่อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีมากขึ้น และเสี่ยงหัวใจมากขึ้นกว่าเดิม

5. ข้าว

ข้าวดูเหมือนจะเป็นอาหารที่ดูไม่มีพิษมีภัยที่สุดชนิดหนึ่ง แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกล่ะ ข้าวอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ทำให้คอเลสเตอรอลชนิดดีอยู่ในระดับต่ำ ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง และความดันโลหิตสูง การรับประทานข้าวในปริมาณที่สมดุลอาจไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อรับประทานในปริมาณมาก มันอาจกลายเป็นหนึ่งในอาหารประเภทที่คุณต้องหลีกเลี่ยง

6. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ในบรรดาอาหารทั้งหลาย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีโซเดียมสูง บะหมี่หนึ่งมื้อมีโซเดียมสูงถึง 861 มิลลิกรัม และถ้าคุณกินทั้งห่อ จะเพิ่มเป็นสองเท่า เกือบ 1,722 มิลลิกรัม นอกจากนี้การบริโภคโซเดียมสูงอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ สำหรับผู้ที่ไวต่อความเค็ม

สำหรับคนเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการลดการบริโภคโซเดียมช่วยลดโอกาสของปัญหาหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 30% ดังนั้นคุณอาจต้องเพิ่มมันเข้าไปในรายการอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาที่พยายามลดน้ำหนัก

7. อาหารแช่แข็งที่อุ่นในไมโครเวฟได้

อาหารแช่แข็งบางอย่างสามารถให้สารอาหารที่เราต้องการได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายอย่างที่ไม่เป็นแบบนั้น และพวกมันค่อนข้างไม่เข้าท่าสำหรับการลดน้ำหนัก อาหารแช่แข็งและอุ่นไมโครเวฟได้มักจะมีโซเดียมและน้ำตาลในปริมาณมาก พร้อมด้วยสารเคมีและสารกันบูดที่ทำให้อาหารเหล่านี้ “สด” อยู่ได้

อีกปัจจัยที่ทำให้คุณควรอยู่ห่างจากอาหารเหล่านี้คือซีลพลาสติกที่อยู่กับอาหาร สิ่งเหล่านี้ประกอบด้วยสารเติมแต่งพลาสติก หรือ พาทาเลต ซึ่งสามารถเข้าไปในอาหารของคุณได้ อาหารประเภทนี้ควรเป็นสิ่งที่ถูกตัดออกไปหากต้องการลดน้ำหนัก

8. น้ำผลไม้ส่วนใหญ่

หากคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณไม่ควรดื่มน้ำผลไม้เป็นจำนวนมาก แม้ว่าน้ำผลไม้จำนวนมากที่ประกอบด้วยผลไม้อาจดูดีต่อสุขภาพ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันเป็นน้ำผลไม้แปรรูปและมีน้ำตาลมาก เราสามารถเรียกมันว่า “ผลไม้ไม่ดี” สำหรับการลดน้ำหนักได้ เพราะมันมีปริมาณเท่ากับหรือมากกว่าน้ำอัดลมบางชนิด เนื่องจากน้ำผลไม้ไม่มีเส้นใย มันจึงดีกว่าที่จะปอกส้มสดๆ กินแทนที่จะซื้อน้ำส้มที่อาจไม่มีผลไม้จริงตามที่บอกไว้ด้วยซ้ำ

9. ซีเรียล

เมื่อพูดถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง กลับกลายเป็นว่าซีเรียลก็เป็นตัวปัญหาเช่นกัน แม้ว่าซีเรียลดูเหมือนเป็นอาหารที่ดีในการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของคุณ แต่พวกมันก็มีธัญพืชและน้ำตาลที่ผ่านการขัดสีจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้หากเรานึกถึงธัญพืชประเภทนี้ที่โฆษณาให้กับเด็กๆ การมีน้ำตาลมากเกินไปในระบบร่างกายของคุณอาจทำให้เกิดปัญหาเช่นโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และปัญหาตับ พวกมันยังมีไฟเบอร์ต่ำ และในฐานะมนุษย์ เราต้องการไฟเบอร์เพื่อให้รู้สึกอิ่มหลังอาหาร

10. โฟรซเซนโยเกิร์ต

แม้ว่าโยเกิร์ตจะได้รับการกล่าวว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพเวลาที่พูดถึงอาหารเช้าหรือของว่าง แต่กลับกลายเป็นว่าโยเกิร์ตบางประเภทไม่ได้ให้ประโยชน์เหมือนกันกับโยเกิร์ตล้วน โฟรเซนโยเกิร์ตเป็นหนึ่งในอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ

โฟรเซนโยเกิร์ตมักถูกนำมาเปรียบเทียบกับไอศกรีมเพราะมีน้ำตาลอยู่เพียบ ไม่เพียงแค่นั้น แต่โยเกิร์ตแช่แข็งมักจะมาพร้อมกับท็อปปิ้งอย่างเยลลี่ คุกกี้ ฯลฯ ซึ่งทำให้มันมีปริมาณน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น พูดได้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณอยากลดน้ำหนัก

โบนัส: อาหารที่ไม่ควรกินถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก

หากคุณต้องการลดน้ำหนัก มันมีอาหารบางอย่างที่คุณอาจต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากโลกของการเพิ่มน้ำหนักและการลดน้ำหนักนั้นกว้าง เราจึงคิดว่าควรรวมโบนัสด้วยอาหาร 3 อย่างที่ไม่ควรกินจะดีกว่า

• เนื้อแปรรูป

เนื้อสัตว์แปรรูปนั้นเป็นสิ่งไม่ดีเวลาที่ต้องลดน้ำหนัก เนื่องจากมีไนเตรตเป็นจำนวนมาก พวกมันเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง รวมถึงโรคมะเร็งด้วย พวกมันเกิดจากโซเดียมไนไตรต์ซึ่งถูกเติมลงในเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อรักษาสีเอาไว้

เนื้อสัตว์แปรรูปยังอุดมไปด้วยโซเดียมคลอไรด์ และถึงแม้จะไม่ใช่อาหารชนิดเดียวที่มีโซเดียม แต่ก็สามารถทำให้โซเดียมในร่างกายเพิ่มขึ้นมากได้

• กราโนลาแบบแท่ง

มันเป็นเรื่องค่อนข้างน่าเซอร์ไพรส์สำหรับรายการอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม กราโนลาแท่งส่วนใหญ่เป็นเพียงน้ำตาลธรรมดาและน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน โดยไม่มีโปรตีนจริงๆ

นักโภชนาการกล่าวว่า “พวกมันมีแคลอรี่น้อยกว่าอาหารทั่วไปและไม่สามารถใช้กินแทนอาหารปกติได้ รสชาติของพวกมันเพียงพอที่จะกระตุ้นความอยากอาหารของคุณ แต่ไม่ได้ทำให้คุณอิ่มท้อง” หากคุณต้องการเพิ่มโปรตีนในอาหารของคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการกินโปรตีนแท่งร่วมกับอาหารอื่นที่คุณรับประทานในแต่ละวัน

• ชีสรมควัน

กลับกลายเป็นว่าเนื้อรมควันไม่ใช่อาหารรมควันเพียงอย่างเดียวที่ควรหลีกเลี่ยง ชีสรมควันยังเป็นอาหารที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หากบริโภคในปริมาณมาก ชีสประเภทนี้ประกอบด้วย PAHs หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน PAHs เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่มักพบในน้ำมันเบนซิน ถ่านหิน หรือน้ำมันดิบ

จากที่กล่าวมา นั่นเพียงพอแล้วที่จะพูดว่าชีสรมควันซึ่งมีสารเคมีเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรกินอย่างแน่นอน “การทดสอบพบว่า PAH อยู่ในชีส แต่มีความเข้มข้นอยู่ตรงเปลือกชีส” การศึกษากล่าว

ในบทความนี้มีอาหารไหนที่คุณชื่นชอบบ้างไหม? คุณมักจะพิจารณาอาหารก่อนกินหรือเปล่า?