10 เคล็ดลับทางจิตวิทยาที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อให้ได้รับชัยชนะในทุกวัน

การสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นบางทีก็สามารถเป็นเรื่องที่ท้าทายได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ในชุมชน หรือในครอบครัว การนำเคล็ดลับทางจิตวิทยานี้ไปใช้สามารถช่วยให้การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างเป็นไปได้อย่างราบรื่นได้

ชีวิตสดใสได้ทำรายการวิธีการปฏิบัติตัวที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เลยเมื่อต้องสร้างการสื่อสารที่ดีกับผู้อื่น

1. นั่งข้าง ๆ อีกฝ่ายดีกว่านั่งตรงข้ามพวกเขา

ที่ที่คุณนั่งที่โต๊ะสามารถอธิบายความเป็นคุณได้มากเลยทีเดียว หากคุณต้องการจะเผชิญหน้ากับใครสักคนให้นั่งลงข้าง ๆ คนนั้นซึ่งจะทำให้คุณอยู่ในตำแหน่งที่ดูเป็นปฏิปักษ์น้อยลง หรือในทางตรงข้าม ให้นั่งตรงข้ามอีกฝ่าย โดยเฉพาะในห้องประชุมหรือที่ออฟฟิศ สิ่งนี้สามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกดดันได้ คุณสามารถนำสิ่งนี้ไปปรับใช้ในที่ทำงานหรือในงานรวมญาติของครอบครัว เช่นเวลามีปาร์ตี้มื้อค่ำก็ได้

2. รักษาท่าทางที่ทรงพลังเอาไว้เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

ท่าทางหรือการวางตัวให้ดูทรงพลังเป็นภาษากายที่จะเป็นตัวควบคุมวิธีที่เราคิดและรู้สึกต่อตัวเราเอง การวาดแขนยึดครองพื้นและการวางท่าทางให้ดูมีพลัง จะทำให้ตัวเองรู้สึกมีอำนาจและรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนที่มีท่าทางที่ทรงพลังจะรู้สึกมั่นใจมากกว่าและสอบสัมภาษณ์ได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้มีท่าทางเช่นนั้น ดังนั้น นักกีฬาและนักพูดหลายคนจึงใช้เคล็ดลับทางจิตวิทยานี้ให้เป็นประโยชน์

3. เลือกสีเสื้อผ้าให้ถูกต้อง

สีชุดเดรสหรือชุดสูทจะสะท้อนลักษณะของคุณออกมา ซึ่งสะท้อนรวมไปถึงงานที่คุณกำลังจะทำด้วย สีกรมท่าแสดงถึงความอบอุ่นและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสีที่ดีสำหรับคนเป็นครู สีเทาให้ความรู้สึกถึงความมีระดับและพึ่งพาได้ ส่วนสีดำเป็นสีที่ดูหรูหราและมีระดับ ซึ่งเหมาะกับตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับวงการแฟชั่น

4. รักษาการสบสายตาโดยการประเมินสีตา

การมองสบตาใครอีกคนเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังให้ความสนใจในบทสนทนานั้น อย่างไรก็ตาม การสบตาอาจเป็นเรื่องน่าท้าทายและน่าอึดอัดสำหรับทั้งสองฝ่ายได้หากต้องฝืนจงใจสบตากันตลอดเวลา อ้างอิงจากผลการศึกษา คุณสามารถลองใช้การประเมินสีตาของอีกฝ่ายในขณะที่มองสบตาเขา เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้การสบตานั้นดูเป็นธรรมชาติและลดความกระอักกระอ่วนลงได้

5. พยายามจดจำชื่อคนอื่นให้ได้

มีบางคนที่เป็นคนจำชื่อคนอื่นไม่ค่อยจะได้ และก็จะมีบางคนที่มักจะจำชื่อใครต่อใครได้ดีและเรียกเราด้วยชื่อนั้นเสมอ แน่นอน เราต้องชอบคนอย่างหลังสิ ! การรู้จักชื่อของอีกฝ่ายเป็นสัญญาณอย่างแรกเลยที่บอกว่าคนคนนั้นให้ความสนใจและใส่ใจในสิ่งที่คุณพูด และพวกเขาสามารถจดจำคุณได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คนอื่นชอบคุณได้ง่ายขึ้น และคุณจะกลายเป็นบุคคลยอดนิยมในหมู่คนที่คุณเคยพบไปเลย

6. คอยสังเกตว่าใครหัวเราะกับใคร

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณอยู่ในกลุ่มคนและอยากจะรู้ว่าใครสนิทกับใครแล้วละก็ ให้ลองสังเกตดูว่าใครที่คนเหล่านั้นหันไปหัวเราะด้วย สิ่งสำคัญคือให้สังเกตว่าพวกเขามองไปที่ใครเป็นคนแรกเมื่อยามที่เขาหัวเราะ เพราะคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะดึงดูดเข้าหาคนที่สนิทและจะรู้สึกสบาย ๆ กว่ากับคนคนนั้น

7. ตัดตัวเลือกออกให้เหลือน้อยลงถ้าคุณเลือกไม่ได้

ถึงแม้ว่าการที่เรามีทางเลือกให้เลือกมากมายไม่มีจำกัดจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดี แต่ความจริงก็คือนั่นอาจทำให้คุณตัดสินใจลำบากได้ เพื่อช่วยให้คุณเป็นนักตัดสินใจที่ดีขึ้น ให้ลองตัดตัวเลือกออกจนให้เหลือมากที่สุดไม่เกิน 4 ตัวเลือก การทำแบบนี้จะทำให้คุณสามารถพิจารณาแต่ละตัวเลือกได้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น และทำให้คุณแน่ใจว่าคุณจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

8. การขอความช่วยเหลือจากใครสักคน

การช่วยเหลือคนอื่นและการทำอะไรให้อีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ดีเสมอ แต่หากคุณอยากให้ใครสักคนชอบคุณขึ้นมาในทันทีแล้วละก็ ให้ลองขอให้พวกเขาทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คุณ การทำเช่นนี้จะเป็นการแสดงออกว่าคุณไว้ใจและให้คุณค่าพวกเขามากพอ ซึ่งในทางกลับกัน จะเป็นการทำให้พวกเขารู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือคุณ

9. การกอดอกไขว่ห้าง

คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้หากมีวัตถุประสงค์ 2 อย่าง หนึ่งคือหากคุณต้องการป้องกันตนเองโดยไม่ให้ใครสักคนเข้ามาใกล้คุณ ให้กอดอกและไขว่ห้างทำเป็นสิ่งกีดขวางระหว่างคุณและคนคนนั้นไว้ แต่หากคุณต้องการให้ดูเป็นคนเข้าหาง่ายและดูเป็นคนเปิดใจรับฟังความคิดต่าง ๆ ให้คลายการกอดอกและการไขว่ห้างนั่นซะเพื่อสร้างบรรยากาศของการเชื้อเชิญ

10. ทำมือของคุณให้อุ่นก่อนจับมือคนอื่น

ไม่มีใครอยากจะเริ่มบทสนทนาด้วยความหนาวเย็นและเปียกชื้น ดังนั้นคุณจึงควรที่จะทำให้มือของคุณอบอุ่นก่อนที่จะไปจับมือกับใครเมื่อพบหน้าอีกฝ่าย หนึ่งในคุณสมบัติของการจับมือที่ดีคือมือข้างนั้นต้องอบอุ่นเพราะมันจะเป็นการแสดงถึงบรรยากาศที่เป็นมิตร ในขณะที่การจับมือขณะที่มือเย็นจัดจะให้ความรู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ

เคล็ดลับไหนที่คุณคิดว่าคุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อทำให้ชีวิตในแต่ละวันของคุณดีขึ้นได้ ? มีเคล็ดลับอื่น ๆ อะไรที่คุณรู้อีกบ้างที่คุณสามารถแชร์ให้เราฟังได้ ? บอกเล่าสู่กันฟังได้ในคอมเมนต์นี้ได้เลย !