19 เคล็ดลับทางจิตวิทยาที่ผู้คนต่างแชร์กันว่าใช้แล้วได้ผลสุด ๆ เอาไปลองทำกันเลย

คุณเชื่อไหมว่าคุณสามารถได้ในสิ่งที่คุณต้องการโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย จริง ๆ นะ คุณทำได้จริง ๆ คุณแค่ต้องรู้จักเคล็ดลับทางจิตวิทยาสองสามข้อว่าต้องทำยังไงเท่านั้น คุณจะสามารถล่วงรู้ข้อมูลที่ปกปิดไว้ได้อย่างง่ายดาย หรือทำให้ใครสักคนมีปฏิกิริยาอย่างที่คุณต้องการได้ แม้แต่ทำให้คนหยุดสะอึกยังทำได้ภายในพริบตา และที่สำคัญที่สุด เคล็ดลับพวกนี้ได้ผลจริง ๆ ซึ่งยืนยันมาแล้วจากประสบการณ์ส่วนตัวของคนที่แชร์เคล็ดลับเหล่านี้ให้เราได้รู้

ชีวิตสดใสพยายามที่จะนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตส่วนตัวของตัวเองอยู่เหมือนกันนะ แต่เราอยากให้คุณได้มีโอกาสเข้าร่วมทีม “อยากได้อะไรก็ต้องได้” ของเราไง

• หากมีใครบางคนที่พูดไม่หยุดจนไม่ยอมเปิดโอกาสให้คุณได้พูดบ้างเลย ให้ลองทำอะไรสักอย่างตกลงพื้น (อาจเป็นกุญแจ หรือปากกา) ก้มลงไปเก็บและเริ่มพูดได้ มันเป็นวิธีการแทรกจังหวะการสนทนาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ©Itsme290

• หากเจอคนสะอึกให้ลองถามว่า “เฮ้ย เต้าหู้ทำมาจากอะไรอ่ะ?” วิธีนี้ได้ผล 80% เลยแหละ ©Batman-Witch

• เคยเจอเด็กตัวเล็ก ๆ ที่กำลังอารมณ์ไม่ดีไหม? ลองนั่งกับพวกเขา จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นและพูดว่า “กำลังโกรธสินะ อย่าหัวเราะล่ะ” ให้พูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาด้วยท่าทางจริงจังที่สุด ฉันเคยทำแบบนี้กับลูกพี่ลูกน้องถึง 15 คนมาแล้วในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และพอเราพูดซ้ำคำว่า “อย่าหัวเราะล่ะ” เป็นครั้งที่ 5 เท่านั้นแหละ พวกเขาก็จะหลุดหัวเราะจนเกลือกลิ้งไปบนพื้นเลย ©Nitrostoat
  

• เวลาที่คุณเรียนหนังสือหรือกำลังเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ให้สอนเพื่อนของคุณเรื่องนั้น ให้พวกเขาลองถามคำถามต่าง ๆ หากคุณสามารถสอนพวกเขาได้ดี นั่นแปลว่าคุณเข้าใจมันดีจริง ๆ ©unknown

• ฉันเป็นคนขี้เกียจมาก ๆ และเพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้แก่ตัวเอง ฉันต้องไปหยิบสมุดกราฟมาทำเครื่องหมายชีวิตในแต่ละวันของฉัน ในทุก ๆ วัน เวลาที่ฉันไม่อยากทำอะไรหรือเวลาที่ฉันต้องทำอะไรที่ฉันไม่ชอบ ฉันจะมองไปที่สมุดเล่มนี้และเข้าใจทันทีว่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้ยาวนานขนาดนั้นหรอกนะ ดังนั้นฉันจำเป็นต้องก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้ ชีวิตคนเรามีอยู่แค่ประมาณ 25,000 วันเท่านั้นเอง ฉะนั้น อย่าทำมันเสียเปล่าล่ะ ! ©"Overheard" / Ideer

• การเคลื่อนที่ของดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยม หากคุณอยากให้ใครพูดอะไรต่อไปเรื่อย ๆ ให้มองไปที่ดวงตาข้างหนึ่งของอีกฝ่าย และก็มองไปที่อีกข้าง และมองไปที่ริมฝีปาก โดยคุณสามารถทำเช่นนี้วนไปวนมาเรื่อย ๆ ทำไปได้ตลอดเลยโดยที่อีกฝ่ายจะไม่มีทางรู้ตัวด้วยซ้ำ มันจะดูเป็นธรรมชาติมากราวกับคุณกำลังตั้งใจฟังเขาพูดอย่างจริงจัง ในทางตรงกันข้าม หากคุณอยากให้เขาหุบปากสักที ให้มองแบบสามเหลี่ยมกลับด้าน ตาข้างหนึ่งตาอีกข้าง และก็หน้าผาก พวกเขาจะไม่สามารถว่าอะไรคุณได้หรอก แต่พวกเขาจะรู้สึกอึดอัดและจะไม่พูดนานแน่นอน ©johnnielittleshoes

• เริ่มการพูดคุยทางโทรศัพท์ด้วยประโยคว่า “ฉันโทรมาผิดเวลารึเปล่า?” คนส่วนใหญ่มักจะเริ่มบทสนทนาด้วยคำว่า “เฮ้ มีเวลาคุยไหม?” ซึ่งทำให้คนรู้สึกว่าต้องป้องกันตัวเองทันที สิ่งสำคัญคือต้องทำให้อีกฝ่ายพูดว่า “ไม่” ให้ได้ นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะที่ทำให้พวกเขายอมเปิดใจและพูดว่า “ไม่เลย ฉันไม่ได้กำลังทำอะไรอยู่แล้ว” ©kito99

• การสร้างความรู้สึกเร้าอารมณ์แบบหลอก ๆ หากคุณอยากพาใครสักคนไปออกเดตแรกด้วยกันกับคุณ ให้พาพวกเขาไปที่ไหนก็ได้ที่จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะหรือดูหนังสยองขวัญ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีนได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาคิดว่าพวกเขาชอบใช้เวลาอยู่กับคุณ โดยไม่ได้คิดว่ามันเกิดจากกิจกรรมที่ไปทำร่วมกันมาต่างหาก ©Chiphai

• หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง ให้นั่งข้าง ๆ คนที่คิดว่าเขาอาจจะมีความก้าวร้าวขึ้นมาได้ การที่จะก้าวร้าวใส่คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คุณมันทำได้ยากกว่าการก้าวร้าวใส่คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามคุณมากเลยนะ ©anasteroide

• หากคุณกำลังมองหาของบางอย่างภายในห้อง ซึ่งเป็นของที่คนอื่นแอบซ่อนเอาไว้ ให้ตะโกนว่าคุณหาเจอแล้ว โดยปกติแล้วคน ๆ นั้นจะมองตรงไปยังที่ตั้งของของสิ่งนั้นทันที ©CRZAcidGaming

• หากฉันคิดถึงใครสักคน แต่ไม่มีเหตุผลที่จะพิมพ์อะไรส่งไปหรือโทรหา ฉันจะส่งข้อความไปว่า “สวัสดี! เชื่อไหมว่าฉันฝันเห็นคุณเมื่อคืนนี้ ฉันเลยต้องพิมพ์มาถามว่าคุณเป็นยังไงบ้าง” ทุกคนต้องอยากคุยกับคุณแน่เมื่อได้ยินประโยคนั้น ใคร ๆ ต่างก็อยากไปปรากฏตัวอยู่ในความฝันของคนอื่นกันทั้งนั้น ©"Overheard" / Ideer

• หากคุณต้องทำงานกับลูกค้า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเขารู้สึกว่าต้องปกป้องตัวเองหรือโกรธเคือง อย่าใช้คำว่า “คุณ” อย่ากล่าวโทษพวกเขาเด็ดขาด ให้โทษเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่แทน ©athaliah

• หากคุณอยากรู้ว่าเรื่องที่กำลังกวนใจลูกของคุณ แต่พวกเขาไม่ยอมเปิดปากพูดกับคุณ ให้ลองถามตอนที่พวกเขากำลังทำอะไรที่พวกเขาชอบมาก ๆ เด็กที่ถูกดึงความสนใจไปทางอื่นจะซื่อสัตย์ในการตอบคำถามมากกว่า เพราะสมองของพวกเขาไม่ได้มามัวคิดว่าผลสะท้อนที่จะตามมาจากคำตอบของพวกเขาจะเป็นยังไง ©hardly_

• หากอยากให้ใครสักคนพูดต่อไปเรื่อย ๆ ให้พูดซ้ำคำสุดท้ายที่พวกเขาเพิ่งพูดและหยุดพูดไป พวกเขาจะพูดต่อไปเรื่อย ๆ เอง ©PrimoNando

• คุณสามารถเตือนตัวเองให้ทำงานอะไรสักอย่างโดยการทิ้งสิ่งของอะไรก็ได้ไว้ที่กลางพื้นห้องขณะที่กำลังจะออกจากห้องไป เมื่อคุณกลับมาอีกครั้งแล้วคุณเห็นของสิ่งนี้ คุณจะจำได้เองว่าคุณวางมันทิ้งไว้ทำไม วิธีนี้ได้ผลทุกครั้งเลย ©Alweenie

• การเปลี่ยนคำศัพท์ที่คุณใช้อธิบายหรือพูดถึงอะไรบางอย่าง สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกเชื่อมโยงของคุณกับสิ่งนั้นได้ ปกติแล้วเราจะสร้างบริบททางอารมณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาจากคำที่เราใช้ การเปลี่ยนคำอธิบาย จะสามารถทำให้เราเปลี่ยนบริบทเหล่านั้นไปได้ ©nuttallfun

• หากอยากให้ผู้ฟังเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูด ให้พยักหน้าไปด้วยขณะที่พูด พวกเขาจะพยักหน้าตามโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะไปหลอกสมองให้เชื่อว่าสิ่งที่กำลังพูดถึงนั้นคือความจริง ©SuperNashwan

• เมื่อไหร่ที่ไปเจอปาร์ตี้ที่สุดแสนจะน่าเบื่อ ฉันมักจะออกไปซื้อมะพร้าวมา และทันทีที่วางมันบนโต๊ะ คนอื่น ๆ จะพากันกรูเข้ามาทันที และเริ่มที่จะสร้างบทสนทนาที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาว่าจะปอกมันยังไง หลังจากนั้นก็จะมีการสื่อสารกันเกิดขึ้น และปาร์ตี้นั้นก็จะสนุกขึ้นมาทันที ©"Overheard" / Ideer

• หากมีคนมาถามคำถามที่ฉันไม่อยากจะตอบ ฉันมักจะถามกลับไปว่า “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?” เป็นคำถามที่ฉันต้องถามออกไปเป็นอันดับแรกเลย ©Abdul_Exhaust

เคล็ดลับไหนที่คุณว่าคุณจะไปลองทำดู? มีเคล็ดลับทางจิตวิทยาไหนอีกบ้างที่คุณพอจะรู้? แบ่งปันกับเราในคอมเมนต์ได้เลย