10 สัญญาณว่าคุณต้องหยุดความสัมพันธ์ของคุณให้เร็วที่สุด

จากผลสำรวจของทินเดอร์ (Tinder) พบว่าประมาณ 40% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลจะไม่อยู่กับคนที่ไม่ใช่แค่เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวไว้ บางครั้งการเลิกคบคนที่คุณคบมานานอาจดีกว่าถ้าคุณสังเกตว่าความสัมพันธ์ของคุณไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขหรือแย่กว่านั้นคือทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจและหดหู่

ชีวิตสดใสพบว่ามีสัญญาณบางอย่างที่บอกคุณได้ว่าถึงเวลาเลิกกับคนรักแล้วและแม้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างทั้งหมดนี่จะสูญเปล่าและไม่มีประโยชน์ที่จะสู้เพื่อความรักของคุณ แต่สัญญาณเหล่านี้ช่วยให้คุณได้รู้ว่าความสัมพันธ์มีปัญหาหรือไม่

1. คุณเลิกกันและกลับมาคบกันใหม่อยู่เรื่อย

การวิจัยบอกว่าโดยเฉลี่ยแล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งคู่รักมากกว่า 1/4 จะเลิกและกลับมาคบกันใหม่และนี่อาจกลายเป็นวัฏจักรของความสัมพันธ์แบบรัก ๆ เลิก ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด บางทีคุณอาจสงสัยในการตัดสินใจของตัวเองและให้โอกาสคนรักของคุณอีกครั้งหรือคุณกลัวที่จะปล่อยมือจากคนรักและมูฟออน แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำลายวงจรนั้นซะ เพราะความสัมพันธ์แบบนี้อาจไม่ส่งผลดีต่อคุณหรือคนรักของคุณเลย

คู่รักหลายคู่ที่เลิกกันและคืนดีกันบ่อย ๆ มักรู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาและรู้สึกพอใจกับความสัมพันธ์ของพวกเขาน้อยกว่าคู่รักที่ไม่ได้รัก ๆ เลิก ๆ ถึงอย่างนั้น ก็มีคู่รักบางคู่ที่ความสัมพันธ์มั่นคงขึ้นตามกาลเวลาเพราะงั้นคุณควรถามตัวเองว่าคุ้มไหมที่จะเข้าสู่วงจรที่อาจทำให้คุณไม่มีความสุข

2. คุณไม่ชอบตัวเอง

การไม่ชอบตัวเองในความสัมพันธ์อาจทำให้คุณเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ชอบตัวเองตอนที่อยู่กับคนรักของคุณ บางทีคุณอาจทำตัวเหินห่างจากครอบครัวที่คุณรักหรือรู้สึกมีแรงจูงใจน้อยลงที่จะพยายามบรรลุเป้าหมายเพราะคนรักของคุณ ถ้าคนรักของคุณทำให้คุณรู้สึกตกต่ำอยู่ตลอดเวลา แทนที่จะสร้างแรงบันดาลใจและให้การสนับสนุน ก็ถึงเวลาที่จะตัดพวกเขาออกจากชีวิตของคุณแล้ว

3. คนรักของคุณของคุณวิจารณ์คุณตลอดเวลา

การพูดถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนรักของคุณก็เรื่องนึง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ควรทำและช่วยให้คุณสื่อสารกันได้ดีขึ้นและปรับปรุงตัวเอง แต่ถ้าคนรักของคุณวิพากษ์วิจารณ์บุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของคุณ นั่นก็ถือว่าเป็นคนละเรื่องกันเลย

เมื่อพวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขาก็แค่แสดงความไม่พอใจใส่คุณ โทษคุณและไม่คาดหวังให้คุณเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คนเหล่านี้มักถูกดูหมิ่นได้ง่ายและต้องการปกป้องอีโก้ของตัวเอง การทำแบบนี้อาจทำให้คุณและคนรักของคุณสูญเสียความเคารพซึ่งกันและกันหรือแม้แต่ดูถูกเหยียดหยามกัน เพราะงั้นถ้าคุณสังเกตเห็นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งและไม่มีทางหยุดมันได้ เลิกกับคนรักไปเลยก็อาจจะดีกว่า

4. คุณกลัวการอยู่คนเดียว

ความกลัวที่จะเป็นโสดไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีสัญญาณว่าคนรักของคุณไม่เหมาะกับคุณและคุณไม่มีความสุข จากการศึกษาพบว่าคนที่กลัวการเป็นโสดจะยอมอยู่ในความสัมพันธ์ ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะเป็นยังไงก็ตาม ถึงอย่างนั้น นั่นไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลยและความกลัวนั้นก็ทำให้การยุติความสัมพันธ์ที่ไม่น่าพอใจยิ่งยากขึ้นไปอีก

5. คุณติดอยู่กับอดีต

ถ้าคุณคิดว่าคุณเคยมีความสุขแค่ไหนกับคนรักและคุณมีความสุขแค่ไหนกับคนรักในอดีตมากกว่าที่คุณมีความสุขกับความสัมพันธ์จริง ๆ ในปัจจุบัน นี่คือสัญญาณเตือน การติดอยู่กับความทรงจำว่าคนรักหรือความสัมพันธ์ของคุณเคยเป็นแบบไหนในอดีตจะไม่ทำให้คุณมีความสุขเมื่อคุณตระหนักว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่ขัดขวางไม่ให้คุณจากไป จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแยกแยะระหว่างสิ่งที่หายไปที่ไม่มีทางกลับมาแล้วกับความเป็นจริงซึ่งคุ้มค่าที่จะให้คงความสัมพันธ์อยู่ต่อไป

6. คนรักของคุณคาดเดาไม่ได้และอารมณ์รุนแรงเกินไป

บางคนอาจเป็นคนดีและมีเสน่ห์ได้ตอนหนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็โกรธได้ง่าย ๆ พฤติกรรมนี้ทำให้คุณรู้สึกกลัวและรู้สึกถูกคุกคามและเหมือนกับว่าคุณต้องระวังอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหงุดหงิด นั่นหมายความว่าคนรักของคุณมีอารมณ์แปรปรวน

อาจเป็นเพราะพวกเขามีความวิตกกังวลหรือซึมเศร้าหรือเพราะปัญหาการควบคุมความโกรธ เรื่องพวกนี้จัดการได้ แต่ถ้าคนรักของคุณไม่ยอมรับรู้ปัญหาและไม่ยอมพัฒนาตัวเอง คุณก็ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองและทิ้งความสัมพันธ์ที่ทำให้คุณรู้สึกกลัวและสับสนไปซะ

7. ความสัมพันธ์ของคุณนั้นตื้นเขิน

เมื่อคุณเพิ่งพบใครสักคน ก็เข้าใจได้ว่าคุณจะยังไม่เปิดใจและเปิดเผยความลับที่ลึกที่สุดของคุณทันที บทสนทนาของคุณจะเน้นไปที่เรื่องง่าย ๆ เช่น งานอดิเรกหรืองานของคุณ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณและคนรักที่จะใกล้ชิดกันซึ่งหมายความว่าคุณไม่กลัวที่จะแสดงด้านที่อ่อนไหวของคุณและพูดคุยในหัวข้อที่จริงจังมากขึ้น

คุณคบกับใครซักคนมาเป็นเวลานานและยังไม่ขยับไปถึงจุดนั้น ก็อาจเป็นสัญญาณว่าคนรักของคุณไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับคุณ อาจเป็นเพราะพวกเขารู้สึกไม่มั่นคงหรือเพราะพวกเขาเคยเปิดใจให้ใครซักคนในอดีตและถูกปฏิเสธ แต่ถ้าคุณแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณต้องการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพวกเขาและพวกเขาไม่ตอบสนองในลักษณะเดียวกัน ก็อาจหมายความว่าคนที่ใช่กำลังรอคุณอยู่ที่อื่น

8. คุณลงแรงในความสัมพันธ์อยู่ฝ่ายเดียว

ถ้าคนรักของคุณอยากอยู่กับคุณเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องการคุณเท่านั้น เช่น เมื่อพวกเขามีวันแย่ ๆ ในที่ทำงานหรือเมื่อมีปัญหาอื่น ๆ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย พวกเขาอาจใช้คุณเพื่อให้ได้รับความสนใจ ในขณะที่ไม่สนใจเลยว่าคุณต้องการอะไรและถ้าคุณเป็นคนเดียวที่ลงแรงในความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง คอยสนับสนุนคนรักของคุณแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำแบบเดียวกันกับคุณเลยก็ตาม ก็แสดงว่าคุณอาจติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ

9. คนรักของคุณมักบอกว่าจะทิ้งคุณไป

ถ้าคนรักของคุณขู่ว่าจะทิ้งคุณ เช่น ระหว่างการทะเลาะกันหรือเมื่อคุณไม่ทำอย่างที่พวกเขาต้องการ นี่ก็อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการชักจูงทางจิตวิทยา พวกเขากำลังใช้ความกลัวของการถูกทิ้งเพื่อควบคุมคุณ พฤติกรรมการควบคุมนี้อาจขยายไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของชีวิตคุณ การตระหนักรู้และหยุดเรื่องก่อนที่คุณจะถูกทำร้ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ

10. คุณไม่อยากเล่าข่าวดีให้คนรักของคุณฟัง

ถ้าเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตคุณแต่คุณไม่คิดที่จะแบ่งปันเรื่องนี้กับคนรักอีกต่อไปแล้ว ก็อาจเป็นสัญญาณว่าความสัมพันธ์ของคุณมีปัญหา นี่อาจหมายความว่าคุณรู้สึกว่าความสุขของคุณไม่เกี่ยวข้องกับคนรักของคุณเพราะพวกเขาไม่สนใจคุณมากเท่ากับที่เคยและถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ และพวกเขาไม่ได้สนับสนุนคุณอย่างจริงใจและรู้สึกมีความสุขเมื่อคุณทำสำเร็จ มันอาจจะถึงเวลาที่ต้องบอกลา

คุณได้เจอกับสัญญาณเหล่านี้จากความสัมพันธ์ครั้งก่อนหรือเปล่า คุณตัดสินใจได้ตอนไหนว่าถึงเวลาที่ต้องเลิก