ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 เคล็ดลับที่สามารถช่วยคุณให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายในหลายรูปแบบได้

ในสถานการณ์ที่หนักหน่วงร้ายแรง บ่อยครั้งที่ร่างกายของเราจะพร้อมที่จะสู้หรือปิดหูปิดตาไม่รับรู้ใด ๆ และในหัวของเราก็จะตัดสินใจว่าจะเผชิญหน้ากับปัญหาหรือจะวิ่งหนีจากมันดี บ่อยครั้งที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าเรากำลังวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม หากเรารู้ล่วงหน้าว่าควรจะจัดการอย่างไรเมื่อสถานการณ์ที่ยากลำบากมาถึง นั่นอาจจะช่วยให้เราใจเย็นและมีสติขึ้นมาได้

ด้วยเหตุผลนั้นเอง ชีวิตสดใสจึงได้รวบรวมเคล็ดลับและกลเม็ดดี ๆ ว่าจะรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและมีสติได้อย่างไร

1. วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงกะพรุนต่อย

หลังจากถูกแมงกะพรุนต่อย คุณต้องขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ขั้นต่อไป คุณจำเป็นที่จะต้องใช้แหนบหนีบอะไรต่อมิอะไรที่แมงกะพรุนหลงเหลือทิ้งไว้บนร่างกายคุณออกไป เป็นไปได้ที่คุณจะเห็นหนวดของมันหลงเหลืออยู่บนผิวหนังของคุณ หลังจากนั้นให้แช่จุดที่โดนต่อยในน้ำร้อน หรือให้อาบน้ำฝักบัวร้อน ๆ เป็นเวลา 20 — 40 นาที

สำหรับร่องรอยการต่อยที่มีความรุนแรงน้อยลงมา ให้ปฏิบัติตามการปฐมพยาบาลดังกล่าวและล้างทำความสะอาดแผลทุกวันและใช้ถุงน้ำแข็งประคบ แต่ในกรณีที่มีความรุนแรงมาก คุณอาจต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อฉีดเซรุ่มต้านพิษ

2. วิธีเอาตัวรอดจากการถูกฉลามจู่โจม

ก่อนอื่นพยายามตั้งสติใจเย็น ๆ อย่าสะบัดให้น้ำรอบ ๆ ตัวคุณกระเซ็นเด็ดขาด เพราะจะยิ่งดึงความสนใจของมันเข้ามามากขึ้น สำคัญมากที่คุณควรจะพยายามรักษาการสบตากับเจ้าฉลามไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้มันพุ่งเข้ามาทำร้ายคุณโดยไม่ได้คาดคิด และตอนนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่าเจ้าฉลามกำลังอยู่ในโหมดพร้อมที่จะจู่โจมได้ทุกเมื่อ ให้พยายามทำให้ตัวเองดูตัวใหญ่ที่สุดใต้น้ำ สิ่งนี้จะทำให้ฉลามกริ่งเกรงคุณได้มากขึ้น

แต่ให้ทำตรงข้ามกับสิ่งข้างต้นหากดูเหมือนมันแค่กำลังจะว่ายผ่านไป และทำตัวเองให้ดูเล็กลง อย่างไรก็ตามหากมันเริ่มเข้ามาจู่โจมคุณ คุณต้องสู้กลับ เตะมัน ต่อยมัน และถ้าเป็นไปได้ให้ทำในจุดที่อ่อนไหวที่สุด เช่นที่เหงือกของปลาฉลาม และอย่าให้มันว่ายวนไปข้างหลังคุณได้ หากคุณสามารถทำให้มันกลัวจนหนีไปได้ ก็ให้ค่อย ๆ ว่ายกลับไปยังชายฝั่งช้า ๆ โดยพยายามอย่าทำอะไรที่เป็นการดึงดูดให้มันหันมาหาคุณ

3. วิธีเอาตัวรอดจากการจู่โจมของหมี

ก่อนอื่นเลย ให้พกสเปรย์ไล่หมีติดตัวคุณไปด้วยเสมอ หากคุณคิดว่าอาจจะมีหมีอยู่รอบ ๆ ให้ลองส่งเสียง อาจจะเป็นการพูดคุยกับตัวเอง ร้องเพลง ผิวปาก อะไรก็ได้ อย่าทิ้งอาหารใด ๆ ไว้บนทางเดินเพราะจะดึงดูดพวกมันมาได้ หากคุณต้องเผชิญหน้ากับหมีกริซลี อย่าวิ่งหนีเด็ดขาด แต่ให้ค่อย ๆ ถอยหลังช้า ๆ และเตรียมที่จะใช้สเปรย์ไล่หมี

พยายามอย่าทำตัวเป็นภัยคุกคาม ทำตัวเองให้ดูตัวเล็กลงถ้าทำได้ และอย่ามองสบตาพวกมันเด็ดขาด หากมันพุ่งเข้าชาร์จคุณ ให้แสร้งล้มลงกับพื้นและแกล้งตายเป็นเวลาสัก 10 — 20 นาทีจนกว่าหมีกริซลีจะจากไปในที่สุด ในขณะที่แกล้งตาย อย่าลืมลงนอนในท่าที่คุณกำลังปกป้องหัวและหน้าท้องของคุณไปด้วย

สถานการณ์จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นหมีดำ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพบหมีดำให้ทำให้ตัวเองดูตัวใหญ่ขึ้น โดยการโบกไม้โบกมือไปรอบ ๆ และให้ยืนยืดตัวตรง ถ้ามันพุ่งเข้าชาร์จใส่คุณ ให้คุณสู้กลับ พยายามที่จะโจมตีจมูกของมันหรือจุดอ่อนไหวอื่น ๆ ที่คุณพอจะคิดออกได้โดยใช้กิ่งไม้หรือก้อนหิน ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าหมีดำจะวิ่งหนีไปเอง

4. วิธีเอาตัวรอดเมื่อถูกจี้รถยนต์

ง่าย ๆ เลยนะ อย่าเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยง ทิ้งรถให้พวกเขาไปเพราะเป็นไปได้ว่าพวกเขาแค่ต้องการรถเท่านั้น หากคุณมีเด็ก ๆ มาด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้เด็ก ๆ ลงจากรถก่อนเป็นอันดับแรก และจากนั้นคุณค่อยลงจากรถตามมา หากโจรเกิดสั่งให้คุณย้ายไปนั่งอีกฝั่งและปล่อยให้พวกเขาเป็นคนขับรถ ให้ลงจากรถมาเสีย อย่าอยู่ในรถเป็นอันขาดหากคุณสามารถหลีกเลี่ยงได้

5. วิธีหนีออกมาจากกระโปรงหลังรถ

หากคุณเกิดโชคร้ายถูกขังอยู่ในกระโปรงหลังรถขึ้นมา มีสองสามอย่างที่คุณสามารถลองทำได้เพื่อเอาตัวเองออกมาจากรถ ให้ดึงคันโยกฉุกเฉินในกระโปรงรถ หากว่ามันไม่ได้ผล ลองกระชากสายดึงฝากระโปรงรถแทน นอกจากนี้คุณอาจลองทำลายไฟเบรกเพื่อดึงความสนใจของคนที่ขับรถผ่านไปมาได้ และอย่างสุดท้าย คุณอาจลองหนีออกมาจากเบาะหลังได้โดยการถีบเบาะเข้าไป

6. วิธีปฐมพยาบาลแผลน้ำแข็งกัด

คุณสามารถรู้ได้ว่าสิ่งนี้คือแผลน้ำแข็งกัดจากรอยแดงบนผิวหนังที่มาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวด สิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่มันจะกลายเป็นสีซีดและแข็งตัว หากคุณเจอปัญหาน้ำแข็งกัด นี่คือวิธีการปฐมพยาบาลที่คุณควรรู้ ซับส่วนนั้นให้แห้งโดยการใช้ผ้าแห้งตบเบา ๆ ระวังอย่าขัดถูส่วนนั้นเพราะจะทำให้แผลแย่ลงได้ จากนั้นให้ใช้ผ้าแห้งสะอาด ๆ ห่อป้องกันส่วนนั้นไว้

ไปยังที่ที่คุณสามารถต้มน้ำได้ อุณหภูมิที่ดีเลยควรจะอยู่ที่ราว ๆ 43 องศาเซลเซียส (110ºF) แต่เป็นไปได้ที่คุณจะไม่สามารถหาอะไรมาวัดอุณหภูมิได้ ดังนั้นให้ลองใช้ความรู้สึกกะเอา คือน้ำจะต้องอุ่นแต่ไม่ร้อนจัดจนเกินไป หลังจากนั้นให้แช่ส่วนที่ถูกน้ำแข็งกัดลงไปในน้ำ และเติมน้ำอุ่นลงไปเรื่อย ๆ จนผิวหนังของคุณเริ่มกลับมามีสีดังเดิม และความรู้สึกบนผิวหนังส่วนนั้นก็จะกลับมาเหมือนเดิมได้ในระหว่างนี้

7. วิธีลอยตัวโดยใช้กางเกงของคุณ

ก่อนอื่นให้ถอดกางเกงออกและผูกขาทั้งสองข้างเข้าหากันเป็นปม ตอนนี้ก็ทำเหมือนกับมันเป็นถุงพลาสติกใบหนึ่ง เปิดถุงออกโดยการจับช่วงเอวของกางเกงไว้และโบกไปมาเหนือหัวคุณถ้าเป็นไปได้ เพื่อดักอากาศเข้ามาให้มากที่สุด ต่อไปให้สอดหัวของคุณเข้าไประหว่างขากางเกงสองข้างที่ผูกกันไว้ จับช่วงเอวเข้าหากันและดันเข้าหาตัวจากใต้น้ำ

อย่าลืมว่าให้สาดน้ำลงบนกางเกงบ่อย ๆ เพื่อให้กางเกงยังเปียกอยู่เสมอ

8. วิธีทำเชือกจากถุงพลาสติก

คุณอาจต้องใช้ถุงพลาสติกมากกว่าหนึ่งใบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้เชือกเส้นนี้ยาวมากแค่ไหน แต่ก่อนอื่นให้ตัดถุงพลาสติกออกจากกันครึ่งหนึ่ง โดยตัดตรงกลางถุงได้เลย ต่อมาให้ทำรูไว้ที่ปลายถุงแต่ละถุง ที่คุณจะต้องทำต่อไปคือให้สอดถุงพลาสติกที่ถูกตัดออกมาอีกครึ่งหนึ่งเข้าไปในรูนั้น และสอดผ่านหูถุงของตัวมันเองเพื่อให้พันเป็นปม

การทำเช่นนี้จะทำให้คุณได้เกลียวเชือกพลาสติกที่พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปซึ่งก็คือการเติมถุงอื่น ๆ ต่อเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เชือกยาวขึ้น หลังจากคุณคล้องถุงเพิ่มเข้าไปแล้วให้หาที่แขวนเส้นเหล่านั้น เพื่อที่คุณจะได้สามารถถักพวกมันเป็นเปียเพื่อทำให้เชือกจากถุงพลาสติกเส้นนี้แข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น ถ้าทำเช่นนี้แล้วมันก็จะไม่ขาดออกจากกันได้ง่ายเกินไป

9. วิธีแก้ปัญหารถเบรกแตก

หากคุณสังเกตว่าเบรกเริ่มที่จะไม่ทำงาน ให้ยกเท้าขึ้นจากคันเร่งทันที ต่อไปหากคุณมีเวลา ให้เปิดไฟกะพริบและบีบแตรส่งเสียงเพื่อเตือนคนอื่นไม่ให้ขับเข้ามาใกล้คุณ ต่อด้วยค่อย ๆ เปลี่ยนเกียร์ลงมาเพื่อให้รถของคุณเริ่มชะลอ ในขณะที่พยายามเหยียบเบรกแรง ๆ และเร็ว ๆ ไปด้วย ซึ่งมันอาจจะเพียงพอให้คุณสามารถหยุดรถได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เบรกฉุกเฉิน (เบรกมือ) แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะมันไม่ได้มีหน้าที่หยุดรถโดยตรง อย่างไรก็ตาม เบรกมือสามารถช่วยชะลอรถได้อย่างมาก ซึ่งจะทำให้คุณสามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างปลอดภัย ถ้าหากที่กล่าวมาไม่ได้ผลเลยและคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายขั้นสุด ให้ลองใช้ราวเหล็กกั้นถนนเป็นตัวช่วย โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่บนทางหลวง มันจะขูดขอบข้างของรถคุณก็จริง แต่มันจะช่วยชะลอรถของคุณลงได้

10. วิธีพังประตู

คุณจะต้องเตะประตูให้ถูกตำแหน่ง ซึ่งนั่นก็คือบริเวณที่อยู่ถัดจากล็อกซึ่งไม่ใช่ตัวล็อกหรือลูกบิดประตูแต่อย่างใด เพื่อให้วิธีนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เอนตัวถีบไปข้างหน้าและใช้ส้นเท้าถีบประตู เท้าที่ยืนอยู่ต้องตั้งมั่นอยู่บนพื้น กดเท้าไว้แน่น ๆ เพื่อทำให้ลูกเตะมีความแข็งแรงมากขึ้น ให้ทำวิธีนี้แทนที่จะใช้วิธีกระโดดถีบประตูหรือใช้แขนกระแทกประตู เพราะอาจจบลงที่การทำให้ตัวเองบาดเจ็บแทนหากทำเช่นนั้น

คุณมีเคล็ดลับในการเอาตัวรอดของตัวเองที่สามารถแบ่งปันให้เราได้หรือเปล่า ? หรือคุณเคยได้ยินวิธีที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้นมาก่อนไหมนะ ?

แชร์บทความนี้