11 เคล็ดลับความปลอดภัยที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้อย่างละเอียด

คุณอาจจะกำลังเดินอยู่ตามถนน สั่งอาหารไปที่บ้าน หรือกำลังจะขึ้นรถ แล้วจู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาเป็นมิตรกับคุณมากเกินไป แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีเจตนาไม่ดี แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าจะต้องทำยังไงเมื่อสัญชาตญาณบอกคุณว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในบางครั้งการโกหกหรือตรวจดูบุคลิกของพวกเขาอีกครั้งก็เป็นการดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

ทางชีวิตสดใสกำลังจะแชร์เคล็ดลับดี ๆ บางอย่างในการคิดแก้สถานการณ์ เมื่อคุณรู้สึกอึดอัดหรือว่าถูกคุกคาม

1. พูดว่าคุณอาศัยอยู่ใกล้กับห้างวอลมาร์ท

เพียงเพราะพวกเขาแชร์ข้อมูลส่วนตัวกับคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำมันด้วย หากคุณอยู่ในจุดที่คุณไม่อยากบอกว่าตัวเองอาศัยอยู่ที่ไหน คุณสามารถพูดได้ว่าคุณอาศัยอยู่ใกล้กับหลาย ๆ สิ่ง อาจเป็นห้างวอลมาร์ท โรงแรม หรือปั๊มน้ำมัน และเนื่องจากน่าจะมีสถานที่หลายแห่งแถวนั้น คุณก็สามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณ

2. พูดว่ารถของคุณนั้นยืมมา

หากมีคนเข้ามาใกล้คุณและดูเหมือนสนใจรถของคุณ แสดงว่าพวกเขาอาจพยายามดึงข้อมูลส่วนตัวจากคุณ โดยอาจถามว่ารถเป็นของคุณหรือเปล่า นั่นแปลว่าพวกเขาสามารถติดตามคุณในอนาคตได้ ด้วยป้ายทะเบียน สีและประเภทรถของคุณ ซึ่งคุณสามารถบอกพวกเขาได้ว่าเป็นรถเช่าหรือยืมมา เพราะวิธีนี้พวกเขาจะไม่เอารายละเอียดของรถไปและจะไม่ยุ่งกับคุณ

3. บอกช่างซ่อมว่าคุณมีคนอาศัยอยู่ด้วย

หากคุณรู้สึกว่าช่างซ่อมถามคำถามส่วนตัวมากเกินไป การแกล้งทำเป็นว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวสามารถช่วยได้ การทำให้เขารู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรือคุณรอว่าจะมีคนมาในไม่ช้า ก็เพื่อให้เขารู้ว่าคุณนั้นอยู่กับคนอื่น ถ้าหากเขาพยายามจะกลับมาอีกครั้งในภายหลัง

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคุณสามารถตรวจสอบบัตรประจำตัวของพวกเขาได้เสมอ และโทรหาบริษัทที่พวกเขาทำงานเพื่อตรวจสอบว่าบริษัทได้ส่งพวกเขามาจริงหรือเปล่า

4. พูดเสมอว่าคุณมากับเพื่อนหรือว่ารอเพื่อนอยู่

นี่เป็นการตอบที่ใช้งานได้หลากหลายและมีประโยชน์มาก โดยทำให้คุณรู้สึกว่าคนยิ่งเยอะยิ่งดี ตัวอย่างเช่น หากคุณนั่งอยู่คนเดียวในที่สาธารณะ ให้แกล้งทำเป็นว่าคุณกำลังรอเพื่อนของคุณอยู่ และหากคุณเดินทางคนเดียว ก็สามารถพูดได้ว่าเพื่อนของคุณนั่งอยู่ตรงแถวหลัง/แถวหน้าของรถบัส รถไฟ หรือเครื่องบิน

แม้แต่ตอนขึ้นแท็กซี่ คุณยังสามารถพูดในยามจำเป็นได้ว่าคุณกำลังเดินทางไปพบเพื่อนหรือครอบครัว สิ่งนี้จะเตือนคนขับให้รู้ว่ามีคนคาดหวังที่จะเจอคุณและกำลังรอคุณอยู่

5. ปิดบัตรประจำตัวนักเรียนหรือพนักงาน เมื่ออยู่บนขนส่งสาธารณะ

การไม่ห้อยบัตรประจำตัวเมื่อเดินทางบนขนส่งสาธารณะอาจเป็นความคิดที่ดี เนื่องจากบนบัตรมีข้อมูลอยู่มากมาย บางคนสามารถรู้ชื่อของคุณ สถานที่ทำงาน บริษัทหรือโรงเรียนที่คุณอยู่ได้ โดยพวกเขาแค่ดูจากป้ายบัตรประจำตัว ดังนั้นถอดมันออก หรือไม่ก็ซ่อนมันไว้ใต้เสื้อคลุมถ้าหากไม่มีข้อมูลที่เด่นชัดพิมพ์ติดอยู่บนสายคล้อง

6. ใช้สัญญาณเตือนรถของคุณเป็นสัญญาณเตือนภัยส่วนตัว

นี่อาจเป็นเคล็ดลับที่มีประโยชน์ในการดึงความสนใจมาที่ตัวคุณในยามที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเดินผ่านลานจอดรถที่ทั้งมืดและเปลี่ยว แล้วมีใครบางคนเดินวนเวียนอยู่รอบ ๆ รถ คุณก็สามารถเปิดสัญญาณเตือนภัยให้ตนเองจากกุญแจรถได้ สิ่งนี้มักจะทำให้คน ๆ นั้นตกใจ เพราะว่าเสียงที่เกิดขึ้นอาจนำมาซึ่งความสนใจ

7. ยืนอยู่ระหว่างแผงปุ่มกดในลิฟต์กับประตู

นี่หมายความว่าคุณสามารถออกจากลิฟต์ได้อย่างง่ายดายตามที่ต้องการ โดยคุณมีอำนาจที่จะออกจากลิฟต์ได้เมื่อคุณรู้สึกไม่สบายใจ และหากมีคนที่คุณไม่อยากอยู่ในลิฟต์ด้วยเข้ามา คุณสามารถกดปุ่มเพื่อลงที่ชั้นถัดไปแล้วก็ออกไปได้เลย ซึ่งสิ่งนี้สามารถป้องกันไม่ให้คุณเข้าสู่สถานการณ์อันน่าอึดอัดในตอนขึ้นลิฟต์ได้

8. แขวนกระดิ่งไว้ที่ลูกบิดประตูโรงแรมของคุณ

เมื่ออยู่ในสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่น โรงแรมหรือหอพัก คุณสามารถแขวนสัญญาณเตือนภัยไว้ที่มือจับด้านในของประตูได้ แต่ถ้าหากคุณไม่มีมัน คุณก็สามารถใช้อย่างอื่นที่จะเตือนคุณได้ เช่น กระดิ่งหรือโต๊ะรีดผ้า ซึ่งมันจะช่วยเตือนให้คุณรู้เวลามีคนเปิดประตู โดยสัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นหรือโต๊ะรีดผ้าจะหล่นลงพื้น

9. ใช้ชื่อผู้ชายเป็นผู้รับ เมื่อสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่

เมื่อมีคนไม่รู้จักมาที่บ้านของคุณ สิ่งที่สำคัญเลยคือต้องให้แน่ใจว่าคุณได้ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกับคนส่งอาหารหรือว่าช่างซ่อมบำรุง เมื่อสั่งอาหารมาทานที่บ้าน คุณสามารถสั่งอาหารในชื่อของผู้ชายเพื่อให้พนักงานส่งอาหารคิดว่ามีผู้ชายอาศัยอยู่ที่นั่น หรืออย่างน้อยที่สุดก็แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในตอนที่พวกเขามาส่งอาหาร

10. โกหกเรื่องตารางงานของคุณ

ถ้าหากคุณพบว่ามีคนอยากรู้ความเคลื่อนไหวและตารางเวลาของคุณมากเกินไป บอกพวกเขาไปว่าคุณไม่มีตารางเวลาที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น อาจมีบางคนถามว่าคุณไปทำงานตอนไหนหรือทำงานที่ใด คุณก็สามารถบอกพวกเขาได้ว่าตารางงานของคุณเปลี่ยนอยู่ตลอดหรือว่าคุณเปลี่ยนออฟฟิศบ่อย ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่อาจรู้เลยว่าจะหาคุณเจอได้ที่ไหนและเมื่อไหร่

11. แกล้งทำเป็นว่าคุณไม่ได้พูดภาษานั้น

มีหลายวิธีในการโต้ตอบการคุกคามทางเพศตามท้องถนน และบางทีนี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดความสนใจที่ไม่พึงประสงค์ได้ แต่ในบางครั้งการไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเลยนับว่าง่ายที่สุด ก็คือคุณแสดงท่าทีสับสนและทำเหมือนกับว่าคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด เพียงแค่เดินหนี ยักไหล่ แล้วก็พูดซักหนึ่งหรือสองประโยคเป็นภาษาอื่น

คุณใช้กลวิธีใดบ้างเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยเมื่อต้องออกไปข้างนอกเพียงลำพัง? มาร่วมแชร์เคล็ดลับต่าง ๆ ที่คุณมีกับเราได้เลย!