ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

9 สิ่งที่ควรจำเอาไว้เวลาซื้อเสื้อผ้าออนไลน์เพื่อเลี่ยงการได้ของที่ใช้การไม่ได้มาแทน

เป็นเรื่องปรกติมากที่คุณจะรู้สึกสงสัยในร้านขายของออนไลน์ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ยากมาก ๆ ที่จะรู้คุณภาพของเสื้อผ้าที่ขายออนไลน์ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือพยายามจะแสดงให้เราเห็นว่าเสื้อผ้ามันจะดูเป็นอย่างไรบนร่างกายของเรา ดังนั้น มันจึงสำคัญมาก ๆ ที่จะให้ความสนใจกับรายละเอียดและหลีกเลี่ยงที่จะตกหลุมพรางให้กับการทำธุรกิจออนไลน์

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว พวกเราที่ชีวิตสดใสจึงได้รับรวม 9 เคล็ดลับสำหรับการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์และทำให้ความเป็นจริงมันดีกว่าความคาดหวังเวลาที่เราซื้อของได้

1. อย่าไปไว้ใจภาพตัวอย่างมากนัก

คุณอาจจะได้เห็นตัวอย่างแบบข้างบนในร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่ขายเสื้อผ้าแบบเดียวกัน แต่มีสีหลากลายมากบ้างแล้ว เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับคนขายที่จะเลี่ยงการถ่ายรูปหลาย ๆ รูปเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ด้วยการแสดงภาพตัวเลือกสีต่าง ๆ ด้วยภาพจำลอง ในกรณีเหล่านี้ พวกเขาสามารถใช้ภาพเดิมแล้วมาเปลี่ยนสีเอาด้วยระบบดิจิทัลได้

อย่างไรก็ตาม นี่คือปัญหา: ในคอมพิวเตอร์ เราจะมีตัวเลือกสีให้เลือกมากมายหลากหลายตามระบบสี RGB แต่การพิมพ์เนี้อผ้ากลับใช้ระบบสี CMYK ในทางปฏิบัติแล้วนี่หมายความว่าสีดิจิทัลมันไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกับสี CMYK เลยก็ได้ ดังนั้นแล้วต้องดูรูปจากรีวิวของคนซื้อจึงจะมั่นใจกับเฉดสีที่ถูกต้องได้

2. ถ้าคุณมองเห็นข้างในเสื้อผ้าได้ ให้ใส่ใจตะเข็บด้านในด้วย

ผ้ากาวเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการเย็บเสื้อ “คอวี” — มันจะมีผ้า (ผ้าที่เหมือนกับผ้าของเสื้อ) ม้วนอยู่ข้างใน ในช่วงคอ นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำให้ตะเข็บอยู่ทรงและป้องกันไม่ให้ด้ายมันลุ่ยออกมา มันยังเป็นส่วนที่ช่วยดูได้ดีที่สุดว่าเสื้อผ้าจะทนหรือไม่ ถ้าแบบมันเป็นของมีคุณภาพ ผ้ากาวควรจะมีขนาดอย่างน้อย 1.5 นิ้ว (4 เซนติเมตร)

3. สำหรับเสื้อผ้าพิมพ์ลาย ให้มองหาภาพที่นางแบบหันข้าง

ไม่น่าประหลาดใจเลยว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ จะมีมืออาชีพที่ดูแลเรื่องแพทเทิร์นโดยเฉพาะ มันมีศิลปะในการทำแพทเทิร์นให้ดูเหมาะสมกับเสื้อผ้าอยู่จริง ๆ และสุดท้ายแล้ว ทรง การตัดเย็บ และตะเข็มก็ควรจะต้องออกมาเป๊ะ ๆ กันเลย ตามอุดมคติแล้วแพทเทิร์นควรจะดูต่อเนื่องกัน ราวกับเสื้อผ้าไม่มีรอยตัดเย็บเลย

ในการจะดูลายของผ้าว่ามีคุณภาพดีหรือไม่ ให้ดูภาพด้านข้างของแบบให้ดี เพราะตรงนั้นมันมักจะไปตามความโค้งของร่างกาย ด้านข้างของเสื้อผ้าสามารถเป็นส่วนที่ “ท้าทาย” ที่สุดและมักจะเป็นจุดที่ระบุได้ว่าเขาทำลายผ้าออกมาได้ดีหรือไม่

4. ตรวจดูไซส์จริง ๆ ของเครื่องประดับก่อน

มุมของภาพในร้านออนไลน์มันค่อนข้างจะทำให้เข้าใจผิดได้และสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับเครื่องประดับเป็นหลักเลย ผลที่ออกมาก็คือมันใช้ได้กับแค่นางแบบที่มีคอเล็ก ๆ เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ในการจะทำให้สร้อยดูยาวขึ้นกว่าที่เป็นจริง ๆ

แต่ยังมีเคล็ดลับที่ดีมากในการซื้อเครื่องประดับออนไลน์อยู่: ให้ตรวจดูขนาดที่เขียนเอาไว้ในคำอธิบายสินค้าและวาดไซส์นั้นลงไปในกระดาษให้เห็นไซส์ของอัญมณี จี้ หรือแม้กระทั่งต่างหูจริง ๆ ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถเห็นภาพได้ว่าเครื่องประดับมันจะใหญ่ไป เล็กไป หรือว่าพอดีกับที่คุณคาดเอาไว้

อีกทางเลือกก็คือการเข้าเว็บไซต์จำลองขนาดเพชร ในเว็บนี้ คุณจะสามารถใส่ขนาดและรูปแบบของเพชรหรืออัญมณีลงไป เพื่อที่คุณจะได้ดูขนาดจริง ๆ ของมันได้ น่าสนใจมากเลยใช่ไหมล่ะ ?

5. ให้ความสนใจกับตารางวัดไซส์ด้วย

ในโลกในอุดมคติ มันคงจะดีถ้าไซส์ XS, S, M, L, XL มันมีมาตรฐานเดียวกัน แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ทุกร้านเขามีชาร์ตไซส์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง บางแบรนด์ยังทำให้ขนาดใหญ่กว่าในไซส์ที่เล็ก เพื่อลูกค้าจะได้รู้สึกดีเวลาลองใส่เสื้อผ้าไซส์ “เล็ก” อีกต่างหาก

ดังนั้นอย่างไปพึ่งพาตัวเลขเพียงอย่างเดียว และให้ตรวจดูชาร์ตไซส์เสื้อผ้าเสมอ ก่อนที่คุณจะซื้อ วัดขนาดของคุณแล้วก็เลือกไซส์ที่มันพอดีกับรูปร่างของคุณก่อน

6. เสื้อผ้าที่ออกแบบมาแบบมีโครงสร้างอาจเป็นกับดัก

เสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้มีโครงสร้าง มักจะแข็งกว่าแล้วก็หนักกว่า ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะไม่ได้มีแค่วัสดุตามหลักที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังต้องการแบบที่เหมาะสมกับสไตล์ของเสื้อผ้าด้วย ดังนั้นให้ระวังราคาที่อาจจะถูกเกินไปและพยายามหารายละเอียดขององค์ประกอบผ้าในส่วนที่อธิบายสินค้าของเสื้อผ้าชุดนั้นด้วย มันมักจะขึ้นอยู่กับรุ่นและแบบแต่ส่วนใหญ่วัสดุจะเป็นกาบาร์ดิน ผ้าเครปตัดเย็บแล้ว หรือไม่ก็เซเบิลที่มีความหนักแน่นและทำงานได้ดีกับจุดประสงค์ของมันมากกว่า

7. สังเกตรายละเอียดใกล้ ๆ

มีรายละเอียดบางอย่างที่สำคัญมากเวลาตรวจดูคุณภาพของเสื้อผ้า แต่ปรกติแล้ว เราจะไม่ค่อยใส่ใจกับพวกมันเท่าไรเวลาหยิบของใส่ตะกร้า ร้านออนไลน์ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้คุณซูมเข้าไปดูเสื้อผ้าได้ เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งก็คือตรวจดูว่ากระดุมมันทำมาจากวัสดุที่ดีหรือไม่และมีรู 2 หรือ 4 รู หรือเปล่า

กระดุมที่มี 2 รูจะมีกำลังน้อยกว่าและควรจะใช้กับเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบางกว่า ดังนั้นคิดดูอีกทีถ้าคุณเห็นว่าเขาใจกระดุมพวกนี้กับผ้าที่หนาหนัก มันมีโอกาสที่กระดุมพวกนี้จะหลุดเสียหายได้ทันทีเลยล่ะ

คุณเคยเห็นกระดุมเสริมที่มักจะติดมากับริมตะเข็บหรือป้ายยี่ห้อของเสื้อผ้าหรือไม่ มันสำคัญมากเลยที่จะเก็บมันเอาไว้เสมอ เพราะว่าคุณไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไรคุณจะทำกระดุมขาดหายไป พอเก็บเอาไว้ก็สามารถซ่อมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อทำให้เสื้อผ้าอยู่ได้นานมากขึ้นมาก ๆ แล้ว

8. กดปุ่ม “เล่น” เพื่อดูคุณภาพของผ้าด้วย

การจะดูคุณภาพของเนื้อผ้าให้แน่ใจผ่านจอคอมพิวเตอร์มันซับซ้อนมาก แต่เดี๋ยวนี้ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์หลาย ๆ ร้านก็ทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นมาก

ถ้าในเว็บไซต์มันมีตัวเลือกแบบนี้ ให้คุณคลิกดูวิดีโอของเสื้อผ้าที่คุณสนใจ ด้วยวิธีนี้ เวลาที่นางแบบเดินไปเรื่อย ๆ คุณจะดูได้ว่าวัสดุมัน “ขยับ” อย่างไรกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย คุณควรจะดูว่าเสื้อผ้าบางจนมองทะลุได้และเข้ากับรูปร่างได้ดีไหมเป็นหลัก

9. ภาพที่มีนางแบบมักจะเชื่อถือได้มากกว่า

ร้านออนไลน์มักจะถ่ายรูปสินค้าแบบวางไว้มาให้เราดู (ถ่ายสินค้าแบบที่เอามาวางไว้แล้วตั้งกล้องจากมุมด้านบนถ่ายลงมา) และบนตัวของนางแบบ ภาพที่เราเห็นแค่สินค้า “เพียงอย่างเดียว” เอาจจะเพียงพอสำหรับเอาไว้ตรวจดูรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าได้ แต่เพื่อให้เห็นภาพว่าเสื้อผ้ามันจะดูเป็นอย่างไรบนร่างกายได้ดีกว่า รูปที่ถ่ายบนตัวนางแบบก็จำเป็นเช่นเดียวกัน

ในกรณีของคนที่ไม่ได้มีรูปร่างที่เหมือนกับรูปร่างของคุณ ให้ดูที่ความคิดเห็นเพื่อดูจากภาพของลูกค้าคนก่อนหน้า ถ้าไม่มีให้เข้าไปในโซเชียลมีเดียของแบรนด์นั้นแล้วลองดูภาพที่แบรนด์นี้ถูกแท็กมา ด้วยวิธีนี้คุณจะได้เห็นว่าเสื้อผ้ามันหน้าตาเป็นอย่างไรแบบที่เป็นจริงมากขึ้น

เมื่อคุณได้อ่านเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว บอกเราหน่อยว่าสิ่งที่คุณให้ความสนใจจริง ๆ ตอนที่ซื้อเสื้อผ้าออนไลน์คืออะไร ?

ชีวิตสดใส/ทริป & เคล็ดลับ/9 สิ่งที่ควรจำเอาไว้เวลาซื้อเสื้อผ้าออนไลน์เพื่อเลี่ยงการได้ของที่ใช้การไม่ได้มาแทน
แชร์บทความนี้