ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

หากคุณต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ให้คิดเหมือนอย่างผึ้งตัวหนึ่ง

ไม่ว่าเราจะพยายามที่จะหยุดปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือแค่อยากจะแก้ปัญหาโปรเจคยาก ๆ ที่ทำงาน การสูญเสียแรงจูงใจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไม่ว่าเราจะยอมไม่หลับไม่นอนกี่คืนเพื่อทุ่มเทให้กับเป้าหมายของเรา แต่แล้วความพยายามเหล่านั้นกลับแทบไม่มีความหมายอะไรเลย ซึ่งสิ่งที่ปรากฏขึ้นนี้ จริง ๆ แล้วเราอาจเรียนรู้เรื่องความอดทนได้จากเหล่าฝูงผึ้งที่เจียมเนื้อเจียมตนดูได้นะ

ชีวิตสดใสมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเหล่าเจ้าตัวน้อยผู้ผลิตน้ำผึ้งเหล่านี้มาก ๆ และอยากโน้มน้าวให้คุณได้เชื่อจริง ๆ ว่าขวานที่จามต้นโอ๊กทีละน้อย ในที่สุดก็จะสามารถโค่นล้มต้นโอ๊กใหญ่ลงได้แน่

อายุขัยของผึ้งตัวหนึ่งนั้นสั้นมาก

ผึ้งงานทั่วไปจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 4 — 8 สัปดาห์ ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับอายุขัยของเราที่อยู่ระหว่าง 65 — 70 ปี พวกมันมีเวลาที่จะสร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้ได้น้อยกว่าเรามาก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครเคยเห็นผึ้งตัวไหนยอมแพ้ที่จะทำงานของมันเพียงเพราะว่า “ทำไปก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก” เลยสักครั้ง

ผลงานของผึ้งหนึ่งตัวมีความสำคัญมากนะ

ผึ้งงานหนึ่งตัวสามารถผลิตน้ำผึ้งได้แค่ 1/12 ช้อนชาเท่านั้น และเมื่อพูดถึงผึ้งตัวผู้กับผึ้งนางพญา ผึ้งเหล่านี้ทำได้ไม่ถึงเท่านี้เลยด้วยซ้ำ แต่ผึ้งทุกตัวต่างมุ่งมั่นทำงานของตัวเองเพื่อให้พวกมันทุกตัวสามารถทำหน้าที่และมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ทั้งสิ้น

ผึ้งงานจะนำพาน้ำหวานและละอองเกสรมาหล่อเลี้ยงผึ้งรุ่นใหม่ ๆ ผึ้งตัวผู้ (Drones) ไม่ได้แค่เพียงจับคู่กับผึ้งนางพญาเท่านั้น แต่ยังคงทำงาน “น่าเบื่อ” อย่างการใช้ปีกโบกสะบัดพัดให้รังผึ้งมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ และผึ้งนางพญาก็มีเรื่องต้องกังวลเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือการวางไข่ ผึ้งตัวเล็ก ๆ อาจจะดูไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณเอามันออกจากระบบทั้งหมดนี้ ทุกอย่างจะล่มสลายทันที

ผึ้งไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรเพื่อตัวเอง

ผึ้งงานไม่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงอะไรจากสิ่งที่มันทำเลย ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่น้ำผึ้งหยดเดียวก็ไม่ได้เป็นของมัน มันใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูผึ้งรุ่นใหม่และทำให้รังผึ้งสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้มันรู้สึกอยากยอมแพ้แต่อย่างใด

ผึ้งหนึ่งตัวสามารถชักจูงผึ้งทั้งรวงให้ติดตามมันไปได้

เมื่อช่องทุกช่องในรวงผึ้งเต็มหมดแล้ว นางพญาผึ้งก็จะไม่มีพื้นที่ให้วางไข่ได้อีกต่อไป ดังนั้นผองผึ้งจึงต้องพากันไปหาที่แห่งใหม่เพื่ออยู่อาศัย พวกมันเลยมักจะทิ้งที่พักพิงเก่า ๆ และบินไปอยู่บนต้นไม้พร้อมกัน ผึ้งบางตัวจะถูกส่งไปยังทิศทางต่าง ๆ เพื่อหาแหล่งอันอุดมสมบูรณ์ที่พวกมันจะสามารถอยู่อาศัยต่อไปได้

เมื่อหนึ่งในผึ้งเหล่านั้นหาสถานที่ที่เหมาะสมได้ มันก็จะกลับมาและเริ่มสะบัดก้นขยับดุ๊กดิ๊กไปมา เพื่อพยายามส่งข้อความผ่านทางการเต้นรำนี้ว่ามีสถานที่เจ๋ง ๆ ที่ไหนที่มันไปเจอเข้า และในอีกสองชั่วโมงถัดมาก ผึ้งตัวอื่น ๆ ก็จะเลือกย้ายไปยังสถานที่ที่มันหาเจอ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจะคล้ายกับศูนย์กลางของคลื่นวงกลมที่กระเพื่อมแผ่วงออกไปทันทีที่เราโยนก้อนหินลงไปในน้ำนั่นแหละ

น้ำผึ้ง 1/12 ช้อนชาของคุณก็มีค่า

ถ้าเราเอาผึ้งออกหนึ่งตัว เราจะเสียน้ำผึ้งไปแค่ 1/12 ช้อนชา แต่ถ้าเรากำจัดผึ้งออกไปสักโหลหนึ่ง เราจะเสียน้ำผึ้งที่ควรจะได้ไปถึงหนึ่งช้อนชาเลยทีเดียว และถ้าไม่มีผึ้งตัวไหนสามารถหาที่อยู่ใหม่ให้ผึ้งทุกตัวอยู่อาศัยได้ ผึ้งทั้งรวงก็จะต้องตายและเราจะไม่มีทางได้น้ำผึ้งเลยแม้แต่น้อย

ไม่ว่าสิ่งที่คุณทำจะดูเล็กน้อยมากแค่ไหนในสายตาคุณ แต่มันส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงมากหากคุณมองในภาพรวมให้ดี ๆ แล้วละก็ อย่าลืมว่าน้ำผึ้งเพียงแค่ 1/12 ช้อนชาของคุณก็สำคัญเช่นกัน

เราสามารถเรียนรู้อะไรจากผองผึ้งได้บ้าง?

  • พยายามใช้ชีวิตอยู่ในแต่ละวันให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องกังวลถึงวันพรุ่งนี้
  • ทำในสิ่งที่คุณเชื่อว่าถูกต้อง
  • อย่ายอมแพ้ แม้ความพยายามของคุณจะไม่เป็นดังหวัง
  • สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นร่วมมือกับคุณ ยิ่งคุณมีเพื่อน ๆ หรือครอบครัวที่มีความคิดคล้ายกันมากเท่าไหร่ คุณจะยิ่งร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฟันอะไรต่าง ๆ ไปได้มากขึ้นเท่านั้น
  • อย่าไปคิดถึงประโยชน์ที่คุณจะได้รับ ให้คิดถึงเป้าหมายและผลประโยชน์ที่คุณจะสร้างให้กับคนอื่น ๆ
  • เห็นค่าในผลงานความทุ่มเทของตัวคุณเอง ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

คุณชอบทำอะไรบ้างเพื่อเป็นการสร้างความเคารพนับถือตัวเองและเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง?

ชีวิตสดใส/ทริป & เคล็ดลับ/หากคุณต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ให้คิดเหมือนอย่างผึ้งตัวหนึ่ง
แชร์บทความนี้