กว่า 20 ข้อผิดพลาดที่เราทำเวลาใช้ของใช้ในครัวเรือนที่ทำให้มันเสียเร็วยิ่งขึ้น

ข้าวของเครื่องใช้ที่เริ่มเสื่อมสภาพมักจะไม่ได้มาจากความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องในการผลิต แต่มักจะมาจากการที่เราไม่ได้ใช้มันอย่างเหมาะสม พูดตรง ๆ ก็คือผู้ซื้อแทบจะไม่อ่านแม้แต่รายละเอียดที่สำคัญที่สุดในคู่มือการใช้เลย แล้วกฎเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไปเหลืออะไร

เราที่ชีวิตสดใสเห็นด้วยกับแนวคิดในการใช้อุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ของเราด้วยความใส่ใจและระมัดระวัง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของมันให้ยาวนานขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยที่สุด ที่หลาย ๆ คนทำกับของใช้ของพวกเขา โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันอาจจะทำให้สิ่งของเหล่านั้นชำรุดได้

เตารีด

• อย่าใช้น้ำประปา มีการถกเถียงกันอยู่ว่าเตารีดนั้นจำเป็นต้องใช้น้ำกลั่นหรือไม่ แต่น้ำประปาจะทำให้เกิดคราบหินปูนอย่างแน่นอน ให้เราใช้น้ำกรองแทน เพราะยิ่งมีเกลือในน้ำน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อเตารีดมากเท่านั้น
• อย่าปล่อยให้มีน้ำค้างอยู่ในเตารีด บ่อยครั้งที่คนเรามักจะละเลยสิ่งนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้เกิดสนิมซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะทิ้งจุดสีน้ำตาลเอาไว้บนเสื้อผ้าของคุณ บ่อยครั้งที่มันทำให้เกิดอันตรายจากน้ำรั่วและน้ำอาจจะไปโดนสายไฟและทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
• ด้านล่างของเตารีดจำเป็นต้องทำความสะอาดถึงแม้จะไม่มีร่องรอยที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็ตาม มันอาจจะเป็นเส้นใยเล็ก ๆ และแร่ธาตุ (จากน้ำ) ก็ได้ อนุภาคเหล่านี้อาจจะอุดตันรูพ่นไอน้ำได้ และวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือทำความสะอาดพื้นผิวด้วยการใช้เบคกิ้งโซดาละลายน้ำ

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

• อย่าลืมเช็ดส่วนประกอบที่อยู่ภายในคอมพิวเตอร์อย่างน้อยเดือนละครั้ง ส่วนใหญ่ การที่คอมพิวเตอร์ร้อนเกินไปเกิดจากการที่มีฝุ่น, ทรายและขนสัตว์อยู่ในคอมพิวเตอร์เยอะเกินไป ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์นานเกินไปแล้ว มันจะทำให้รูระบายอากาศอุดตันซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์เย็นลงไม่ได้ และอาจจะขัดขวางชิ้นส่วนที่ต้องมีการขยับและนำไปสู่ความเสียหายทางกลไกได้
• อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณควรจะคำนึงถึงเพื่อช่วยยืดระยะเวลาอายุการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณนั่นก็คือที่ตั้ง การออกแบบของอุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจะขวางทางรูระบายอากาศได้ง่าย ถ้าคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ใกล้ผนัง นอกจากนี้แล้ว อย่าวางคอมพิวเตอร์ไว้ใกล้ ๆ อุปกรณ์ทำความร้อนหรือวางไว้ใต้แสงแดดโดยตรง

• ซิลิโคนก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดความร้อนสูงเกินไป ความเข้มข้นของมันมีการนำความร้อนที่ดีและตั้งอยู่ระหว่างเครื่องประมวลผลและเครื่องทำความร้อน น้อยคนนักที่จะรู้ว่าความร้อนที่สูงเกินไปมีสาเหตุมาจากการระเหยของซิลิโคน อย่าลืมไปหาช่างทุก ๆ 2-3 ปีเพื่อเปลี่ยนซิลิโคนและจำไว้ว่าอย่าใช้มันเยอะเกินไปด้วย
• อีกหนึ่งพฤติกรรมไม่ดีที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณก็คือการรีโหลดและการไม่ค่อยปิดคอมพิวเตอร์ พอเวลาผ่านไป การใช้งานอย่างไม่หยุดหย่อนก็ทำให้เกิดข้อบกพร่อง, ความผิดพลาด และทำให้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ช้า ประโยชน์ของการรีโหลดคือมันช่วยเพิ่มพื้นที่ความจำ, เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดข้อผิดพลาดได้

แล็ปท็อป

• นอกจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว มันยังมีข้อผิดพลาดอีกมากมายที่เรามักจะทำเวลาที่ใช้แลปท็อป หนึ่งในนั้นก็คือการเสียบสายชาร์จแล็ปท็อปไว้ตลอดเวลา จำเอาไว้ว่าการชาร์จแบตตลอดเวลาจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้จากความร้อนและไฟฟ้าแรงสูง ขอแนะนำให้ชาร์จแล็ปท็อปให้มีแบตสูงสุดอยู่ที่ 80% แล้วค่อยชาร์จแบตอีกครั้งตอนที่เหลือแบตน้อยกว่า 40%
• อุณหภูมิต่ำก็ส่งผลเสียต่อแล็ปท็อปได้เช่นกัน คุณไม่ควรทำให้แล็ปท็อปเย็นมากเกินไป แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็ลองทำแบบนี้ดู ก่อนที่จะเปิดเครื่อง ปล่อยให้แล็ปท็อปอุ่นขึ้นในอุณหภูมิห้องก่อน จากนั้นเช็ดความชื้นออกเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

• การที่แล็ปท็อปเคลื่อนย้ายได้สะดวกก็เป็นอีกที่มาของปัญหา ตัวอย่างเช่น มันจะทำให้เราอยากวางแลปท็อปไว้บนพื้นผิวที่นุ่มเสมอ (อย่างบนเตียงหรือบนตักของเรา) การทำแบบนี้จะทำให้เกิดความร้อนมากเกินไปและเกิดการชำรุดได้ ลองวางแล็ปท็อปลงบนพื้นผิวที่แข็งที่จะไม่ขวางทางรูระบายอากาศของตัวเครื่อง
• ไม่ค่อยมีคนคิดถึงเรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะถือแล็ปท็อปเอาไว้ได้ แต่แล็ปท็อปบางตัวก็ยังมีฮาร์ดไดร์ฟแบบเก่าแทนที่จะเป็นแบบชิปและถ้าแล็ปท็อปของคุณสั่นในขณะที่กำลังเปิดเครื่องอยู่ มันก็อาจจะเกิดความเสียหายทางด้านเทคนิคบางอย่างขึ้นได้ ใช้แล็ปท็อปของคุณด้วยความระมัดระวังเหมือนกับที่คุณใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและลองใช้งานบนโต๊ะดู ด้วยวิธีนี้ คุณจะยืดอายุการใช้งานของมันไปได้อีกนาน

กาต้มน้ำ

• มั่นใจก่อนว่าในกาน้ำมีน้ำอยู่เพียงพอ ถ้าคุณเปิดเครื่องตอนที่มีน้ำอยู่ในกาแค่นิดเดียวและมันก็ยังไม่ท่วมส่วนที่ทำความร้อนทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ อีกไม่นานกาต้มน้ำของคุณจะชำรุดได้
• พยายามอย่านำกาต้มน้ำไฟฟ้าไปวางไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เราหมายถึงทั้งแหล่งกำเนิดไฟแบบเปิดและเตาอบหรือเตาไฟฟ้า มันอาจจะทำให้ตัวกาต้มน้ำและส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกอื่น ๆ เสียรูปได้และคู่มือการใช้งานก็มักจะกล่าวถึงสิ่งนี้

• กำจัดคราบหินปูนในเวลาที่เหมาะสม จำไว้ว่าหินปูนไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในกาต้มน้ำโลหะเท่านั้นแต่มันยังเกิดขึ้นในชิ้นส่วนทำความร้อนโลหะของกาน้ำพลาสติกอีกด้วย ถึงแม้ว่ากาต้มน้ำที่มีตัวกรองที่ติดตั้งอยู่แล้วจะช่วยป้องกันไม่ให้คราบหินปูนหล่นลงไปในเครื่องดื่มได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดคราบหินปูน การกำจัดคราบหินปูนในกาต้มน้ำไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่งแล้วปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน แต่อย่าลืมเขียนโน้ตแปะไว้บนกาต้มน้ำด้วยล่ะ คนอื่นจะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น พอเช้ามาก็อย่าลืมล้างกาต้มน้ำให้เรียบร้อยด้วย
• อีกสาเหตุหนึ่งที่คราบหินปูนปรากฏในกาต้มน้ำคือเรามักจะทิ้งน้ำไว้ข้างใน อย่าลืมล้างกาต้มน้ำทุกครั้งที่ชงชาเสร็จ

เครื่องบดเนื้อ

• อย่านำชิ้นส่วนของเครื่องบดเนื้อไปล้างในเครื่องล้างจาน ถ้าคู่มือไม่ได้บอกไว้ว่าทำแบบนั้นได้ เนื่องจากเครื่องบดเนื้อยุคใหม่มักจะทำมาจากอะลูมิเนียมซึ่งเครื่องล้างจานส่วนใหญ่ใช้น้ำยาล้างที่รุนแรงอย่างมากที่มีส่วนผสมของอัลคาไลน์ ฟอสเฟต เมื่อสารชนิดนี้สัมผัสกับอลูมิเนียมมันจะเพิ่มออกซิเดชันซึ่งเป็นสาเหตุให้บริเวณพื้นผิวอ่อนลง นอกจากนี้ น้ำยาล้างที่เหลืออาจจะตกค้างอยู่บนชิ้นส่วนและไปอยู่ในเนื้อสัตว์ของคุณได้
• แน่ใจว่าเนื้อสัตว์ที่ใช้ไม่มีกระดูก เครื่องบดบางชนิดมีพลังมากพอที่จะบดกระดูกได้ แต่เครื่องบดส่วนใหญ่อาจจะชำรุด
• อย่าปล่อยให้เครื่องบดเนื้อร้อนเกินไประหว่างการใช้งาน ความร้อนที่มากเกินไปอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีสารหล่อลื่นไม่เพียงพอหรือระบบทำความเย็นพัง ถ้าคุณมีเครื่องบดอันใหม่ มันอาจจะพังได้เพราะคุณใส่เนื้อเยอะเกินไปหรือใช้งานมันเป็นเวลานานเกินไป

เครื่องปั่น

• อย่าปั่นน้ำแข็งและอาหารแช่แข็งอื่น ๆ ในเครื่องปั่นเพราะถ้าพลังของมันแรงไม่พอ ใบมีดหรือแม้แต่ตัวเครื่องยนต์ทั้งหมดอาจจะพังได้ แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องปั่นน้ำแข็งจริง ๆ ก็ให้ใส่น้ำลงไปด้วย
• อย่าใส่ผลิตภัณฑ์ที่มีความร้อนสูงลงไปในโถปั่น การที่มีอาหารร้อนอยู่ด้านในโถและมีการปิดฝาเอาไว้จะทำให้อากาศภายในมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้ ซึ่งมันจะเพิ่มแรงดันภายในโถปั่นและทำให้พื้นผิวของโถปั่นร้าวได้ สิ่งเดียวที่คุณทำได้ในกรณีนี้ก็คือใช้ผ้าขนหนูคลุมโถปั่นและใช้พลังงานในโหมดต่ำสุด
• .เมื่อคุณใช้เครื่องปั่นเป็นเวลานานแล้ว ปล่อยให้เครื่องยนต์ได้พักบ้าง

เครื่องปรับอากาศ

• อย่าลืมดูแลและตรวจเช็คตามกำหนด ไม่ใช่แค่ความช่วยเหลือจากช่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการป้องกันที่คุณทำเองได้ เช่น การทำความสะอาดและเปลี่ยนแผ่นกรองตามช่วงเวลาที่กำหนด แผ่นกรองอยู่ใต้ฝาครอบเครื่องปรับอากาศ มันไม่เพียงแต่ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่มันยังช่วยลดปริมาณของฝุ่นในอากาศที่คุณหายใจเข้าไปอีกด้วย
• อย่าเปิดหน้าต่างในขณะที่กำลังเปิดแอร์อยู่ ที่บอกว่าการเปิดหน้าต่างพร้อมกับการเปิดแอร์จะทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องจริง อันที่จริง การเปิดหน้าต่างจะทำให้ห้องเย็นช้าลงและยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องปรับอากาศชำรุดอีกด้วย เพราะมันต้องจัดการกับอากาศร้อนมากมายที่เข้ามาทางหน้าต่าง
• เลือกประสิทธิภาพที่เหมาะสมของเครื่องปรับอากาศของคุณ ระบบที่ไม่เพียงพอของห้องที่คุณวางเครื่องปรับอากาศเอาไว้จะทำให้เครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะมันต้องทำงานหนักมากขึ้น และถ้าประสิทธิภาพมากกว่าที่คุณต้องการ เครื่องปรับอากาศก็จะต้องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นและมันจะเย็นในห้องขนาดเล็กได้เร็วกว่าที่อากาศจะแห้งพอ ดังนั้นระดับความชื้นก็จะลดลง

ยอมรับมาซะดี ๆ ว่าคุณเคยทำข้อผิดพลาดเหล่านี้บ้างหรือเปล่า ? รายละเอียดอื่น ๆ อะไรอีกบ้างที่คุณคิดว่าผู้ใช้งานคนอื่นควรจะรู้ ?