ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

9 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่ทำลายชีวิตสัตว์เลี้ยงคุณได้

เราถือว่าสัตว์เลี้ยงของเราเป็นสมาชิกในครอบครัว แต่เราควรจำไว้ว่าร่างกายของพวกมันแตกต่างจากของเราและต้องการสารอาหารที่หลากหลาย เราอาจให้นมกับแมวหรือเนยถั่วกับสุนัข แต่คำถามที่แท้จริงคือ เรากำลังช่วยเหลือหรือทำร้ายเจ้าขนปุยสุดรักของเรากันแน่?

พวกเราชีวิตสดใสก็มีสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน และได้ตัดสินใจที่จะหาข้อมูลว่าอาหารธรรมดาทั่วไปบางอย่างสามารถส่งผลกระทบต่อพวกมันอย่างไรบ้าง

1. อาหารที่ไม่แนะนำสำหรับน้องหมาน้องแมว

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: สุนัขและแมว

การให้อาหารสุนัขกับแมวหรือให้อาหารแมวกับสุนัขนั้นไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่สัตว์ต่างชนิดกันก็ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน อาหารแมวมีระดับโปรตีนและแคลอรีสูงกว่า สุนัขต้องการอาหารที่มีไฟเบอร์มากกว่า

อาหารแมวยังประกอบด้วยทอรีนในระดับสูง พวกมันต้องการสิ่งนี้เพื่อการเผาผลาญที่สมดุล ส่วนผสมนี้ไม่มีในอาหารสุนัขเนื่องจากสุนัขไม่สามารถเผาผลาญมันได้

วิธีแก้ปัญหา:

หากคุณสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณเลือกอาหารที่เหมาะสมได้

2. ถั่ว

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

ปัญหาหลักของถั่วกระป๋องคือมีสารกันบูดและเกลือ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ตัวอย่างเช่น ถั่วกระป๋องครึ่งถ้วยมีโซเดียมประมาณ 400 ถึง 500 มิลลิกรัม แต่ความทนทานต่อโซเดียมของสัตว์เลี้ยงนั้นต่ำมาก

วิธีการแก้ปัญหา:

หากสัตว์เลี้ยงของคุณชอบถั่ว ให้เลือกถั่วเขียว ถั่วเลนทิล หรือถั่วแห้งแทน พวกมันไม่ควรเค็มหรือเป็นถั่วกระป๋อง และให้สัตว์เลี้ยงของคุณในปริมาณที่น้อยมากเท่านั้น

3.ทูน่ากระป๋อง

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

เจ้าตัวขนที่เป็นแฟนตัวยงของทูน่าคือแมว แต่บางครั้งสุนัขก็อาจคิดว่ามันเป็นของกินเหมือนกัน แม้ว่าแมวของคุณจะเอร็ดอร่อยกับมัน แต่ก็ไม่ควรให้ทูน่ากระป๋องเป็นประจำทุกวันเพราะอาจทำให้เกิดพิษจากสารปรอทได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเกลือหรือน้ำมัน

วิธีการแก้ปัญหา:

ทูน่าอาหารแมวสูตรทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด มันไม่ก่อให้เกิดผลเสียหากให้สัตว์เลี้ยงเป็นครั้งคราว

4. เนยถั่ว

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

โดยปกติแล้ว สุนัขจะชอบกินเนยถั่วเป็นของว่าง แต่ผู้ผลิตบางรายได้พิ่มไซลิทอลลงในผลิตภัณฑ์นี้ ซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง ไซลิทอลเป็นสารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลเนื่องจากมีแคลอรีต่ำกว่า ไซลิทอลอาจทำให้สัตว์เลี้ยงน้ำตาลในเลือดต่ำและตับวาย

วิธีการแก้ปัญหา:
ให้ตรวจสอบสารอาหารในกระปุกเนยถั่วของคุณ และถึงแม้จะไม่มีไซลิทอล แต่ก็ให้ระมัดระวังอย่าให้ผลิตภัณฑ์นี้แก่สัตว์เลี้ยงของคุณทุกวันเพราะน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้สัตว์เลี้ยงอ้วนได้

5. แป้งยีสต์

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: สุนัข

แป้งขนมปังดิบที่มียีสต์สามารถทำให้เกิดผลเสียต่อสุนัขเพราะแป้งสามารถขยายตัวในท้องของสุนัขและทำให้ท้องอืดได้ ในขณะที่ยีสต์เข้าไปสะสม เอทานอลในเลือดสามารถเพิ่มขึ้นถึงระดับที่เป็นพิษ เซลล์ของยีสต์จะผลิตเอทานอลซึ่งทำให้สัตว์เลี้ยงเซื่องซึมและเกิดการอาเจียนได้

วิธีการแก้ปัญหา:

ทางออกที่ดีที่สุดคืออย่าให้สุนัขของคุณได้ลิ้มลองแป้งยีสต์ แต่หากมันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ให้พาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ

6. นม

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

เราไม่ได้หมายถึงการให้นมในปริมาณเล็กน้อย แต่พูดถึงการให้นมสัตว์เลี้ยงของคุณในปริมาณมากทุกวัน การให้นมสักสองสามช้อนโต๊ะสำหรับสุนัขของคุณนั้นไม่เป็นไร สุดท้ายแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้มีไขมันที่สามารถนำไปสู่โรคอ้วนได้ การให้นมสัตว์เลี้ยงทั้งชามอาจทำให้ท้องเสีย ปวดท้อง และอาเจียนได้ และอย่าลืมว่าพวกมันเหมือนเราซึ่งสามารถแพ้แลคโตสได้ อันที่จริง แมวเกือบทุกตัวมีอาการแพ้แลคโตส

วิธีการแก้ปัญหา:

น้ำสะอาดเป็นของเหลวที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ

7. เนื้อดิบ

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

การให้อาหารดิบกับสัตว์เลี้ยงยังเป็นที่ถกเถียงกัน ในแง่มุมหนึ่ง มันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่ในทางกลับกัน มันมีแบคทีเรียที่สามารถทำร้ายระบบย่อยอาหารของสัตว์เลี้ยงได้ แบคทีเรียบางสายพันธุ์อาจทำให้เจ็บป่วย และบางครั้งเนื้อดิบก็มีกระดูกเล็กๆ ทำให้เพื่อนตัวน้อยของคุณติดคอได้

วิธีการแก้ปัญหา:

เลือกอาหารตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดของเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณมากกว่า หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณภาพของเนื้อดิบที่จะให้สัตว์เลี้ยงของคุณ ให้เลือกอาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้งที่มีโปรตีนเพียงพอจะดีกว่า

8. อัลมอนด์

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมวและสุนัข

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่ได้ห้ามเรื่องการให้อัลมอนด์ แต่มันมีความเสี่ยงบางอย่างที่คุณควรรู้ หากกินอัลมอนด์ในปริมาณมากเป็นประจำ (หรือเพียงครั้งเดียว) อาจทำให้สัตว์เลี้ยงปวดท้อง เป็นโรคอ้วน และเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันได้ ซึ่งอาการอาจรวมถึงการอาเจียน ท้องอืด และท้องร่วง

วิธีการแก้ปัญหา:

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการให้อัลมอนด์สักสองสามชิ้นนั้นไม่เป็นไร คุณจำเป็นต้องจำกัดจำนวนอัลมอนด์ที่สัตว์เลี้ยงกินเข้าไปและอย่าทิ้งอัลมอนด์ไว้บนโต๊ะหากสัตว์เลี้ยงของคุณสามารถปีนขึ้นไปกินได้ด้วยตัวเอง

9. ผลไม้รสเปรี้ยว

สัตว์เลี้ยงที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารนี้: แมว

โดยปกติกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวจะไล่แมวได้ แต่มีข้อยกเว้น เช่น สัตว์เลี้ยงบางตัวไม่ได้รังเกียจอะไร ไม่ว่าในกรณีใด ก็ไม่ควรให้ผลไม้รสเปรี้ยวแก่แมวเพราะเป็นพิษต่อแมวและทำให้ผิวไหม้หลังจากโดนแสงแดด นอกจากนี้ หลังจากเจ้าเหมียวกินเลม่อนหรือผลไม้รสเปรี้ยวแล้ว อาจมีอาการอ่อนแรง ซึมเศร้า อาเจียน และตัวสั่นได้

วิธีการแก้ปัญหา:

เก็บผลไม้รสเปรี้ยวให้ห่างจากแมวของคุณ เพื่อไม่ให้แมวแอบกิน

โบนัส: อย่าซื้อชามอาหารทรงแปลก ๆ

หากชามอาหารเล็กเกินไป เพื่อนหนวดเหมียวของคุณจะต้องไปชนด้านข้างชามอยู่ตลอด ตรงส่วนอวัยวะที่ไวต่อความรู้สึกนี้จะต้องห้ามถูกกระตุ้นบ่อยเกินไป มิฉะนั้นจะเกิดอาการเหนื่อยอ่อนของแมว หรือที่เรียกว่าวิสเกอร์ฟาทีคได้ เพราะว่าเหตุนี้เองจึงอาจทำให้น้องแมวมีความเครียด หงุดหงิด เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน รวมไปถึงความอยากอาหารลดลงและเกิดอาการก้าวร้าว ให้สังเกตความลึกของชามด้วยเช่นกัน หากชามลึกเกินไป สัตว์เลี้ยงจะเริ่มเพิกเฉยไม่สนอาหารที่เหลือก้นชาม มันจะหิว และอาหารที่เหลือทิ้งไว้ก็จะเน่าบูด

ปกติคุณให้อาหารแบบใดกับสัตว์เลี้ยงของคุณ? อาหารอะไรที่พวกมันชื่นชอบ?

เครดิตภาพพรีวิว Depositphotos.com, Depositphotos.com
ชีวิตสดใส/สัตว์/9 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่ทำลายชีวิตสัตว์เลี้ยงคุณได้
แชร์บทความนี้