สัตวแพทย์เผยสุนัข 8 สายพันธุ์ที่พวกเขาไม่เคยเป็นเจ้าของ

ทุกคนมีอิสระที่จะเลือกสายพันธุ์สุนัขที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่รักของพวกเขา อย่างไรก็ตามมีน้องหมาบางสายพันธุ์ที่ต้องให้การเลี้ยงดูและดูแลเป็นอย่างมากหรือสร้างปัญหาให้เจ้าของได้ แล้วสัตวแพทย์ดร. เบ็น (Dr. Ben) กับดร. เทอร์เรล (Dr. Terrell) ก็ได้กลายเป็นไวรัลบนติ๊กต่อก (TikTok) เมื่อพวกเขาได้แชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขที่พวกเขานั้นหลีกเลี่ยง โดยพวกเขาเชื่อว่าผู้คนจำเป็นต้องคำนึงถึงข้อมูลนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกอยากกำจัดสุนัขหากเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นมา

1. เชาเชา

สุนัขขนปุยสายพันธุ์นี้ดูเหมือนเป็นขวัญใจก็จริง แต่สัตวแพทย์เตือนว่ารูปลักษณ์ที่น่ารักของพวกมันอาจทำให้เข้าใจผิดได้ โดยดร. เบ็นเล่าว่า “ผมแน่ใจว่ามีบางตัวที่น่ารัก แต่ผมก็เพิ่งพบว่าพวกมันมักมีอารมณ์ที่ไม่ดีนักอยู่บ่อย ๆ พวกมันสามารถไม่เป็นมิตรเอามาก ๆ ได้ แถมพวกมันมักจะดุมาก ๆ เมื่อเจอสัตวแพทย์”

2. ดัชชุน

สุนัขพันธุ์ดัชชุนต่างจากพันธุ์เชาเชาตรงที่พวกมันมีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมและเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก อย่างไรก็ตามพวกมันมักมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงอยู่บ่อย ๆ ซึ่งอาจต้องได้รับการผ่าตัด โดยสัตวแพทย์เผยว่า “1 ใน 4 ของพวกมันมีปัญหาที่หลังตลอดช่วงชีวิตของพวกมัน ซึ่งมีตั้งแต่อาการปวดไปจนถึงเป็นอัมพาตทั้งตัว”

3. ชิวาว่า

สำหรับสุนัขพันธุ์ชิวาว่าแล้ว พวกมันมีชื่อเสียงในเรื่องที่ว่าค่อนข้างคาดเดาไม่ได้ แล้วดร. เทอร์เรลก็ยืนยันเรื่องนี้ โดยในความคิดเห็นของเธอ พวกมันเป็น “จอมพันแข้งพันขา” และยึดติดกับคนเพียงคนเดียวมากเกินไป ดังนั้นหากคุณมีครอบครัวใหญ่ ชิวาว่าอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

4. เยอรมัน เชพเพิร์ด

สายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ แต่พวกมันอาจมีราคาสูงเกินไป โดยดร.เทอร์เรลเตือนว่า “พวกมันมีศักยภาพที่จะเป็นสุนัขที่ยอดเยี่ยม สุนัขตำรวจที่ดี และเก่งในสถานการณ์กู้ภัย แต่ 95% ของพวกมันที่เราเห็นในคลินิกต้องการจะกัดหน้าคุณ เพราะพวกมันไม่ได้รับการฝึกมาอย่างเหมาะสม” ดังนั้นหากคุณไม่เต็มใจที่จะฝึกฝนพวกมันอย่างสม่ำเสมอตลอดช่วงวัยรุ่นของพวกมัน คุณอาจมีปัญหาร้ายแรงมากมายเกิดขึ้นกับคุณ

5. ชาเป่ย

น่าเสียดายที่สุนัขพันธุ์ชาเป่ยเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ไม่แข็งแรงที่สุดในลิสต์ของเรา เพราะนอกเหนือจากการป่วยไข้และการอักเสบสารพัด ที่บังเอิญเรียกว่าไข้ชาเป่ยแล้วนั้น รอยย่นของพวกมันยังสร้างปัญหาอย่างมากอีกด้วย โดยดร. เบ็นได้อธิบายว่าทำไมสุนัขพันธุ์ชาเป่ยจึงดูแลได้ยากมาก นั่นเป็นเพราะ “พวกมันมีรอยย่นเยอะมากจนต้องเย็บหนังตาให้เข้าที่ เพื่อขนจะได้ไม่ทิ่มตาของพวกมัน”

6. ดูเดิล

สัตวแพทย์กล่าวว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ถึงแม้พวกมันจะดูน่ารัก แต่สุนัขสายพันธุ์ผสมอย่างดูเดิลก็อาจคาดเดาไม่ได้ โดยดร.เทอร์เรลเล่าว่า “พวกมันส่วนใหญ่บ้า ไฮเปอร์มาก ๆ นั่งนิ่งนาน ๆ ได้ไม่ถึง 2 วินาที และเราก็มีบางตัวที่ก้าวร้าวมากเช่นกัน” อีกทั้งเธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่าพวกมันมักจะติดเชื้อที่หูและต้องการการอาบน้ำตัดขนที่มีราคาแพง

7. คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล

ดร. เบ็นยอมรับว่าเขาจะเลือกสุนัขพันธุ์คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลให้กับตัวเองอย่างแน่นอน หากไม่ใช่เพราะปัญหาสุขภาพที่รุนแรง โดยสายพันธุ์นี้มักพัฒนาภาวะหัวใจที่เรียกว่าโรคลิ้นหัวใจไมตรัล ซึ่งหมายความว่าพวกมันมีปัญหาในการหายใจและอาจตายจากภาวะหัวใจล้มเหลว อีกทั้งสัตวแพทย์ยังกล่าวเสริมว่า “ในความคิดเห็นของผม การเพาะพันธุ์สุนัขที่มีโอกาสเกิดโรคสูงแบบนี้ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย”

8. ปั๊ก/ชิสุ/บูลด็อก

แล้วสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด มีสุนัขหลายสายพันธุ์ที่หลายคนชื่นชอบ เช่น ปั๊ก อิงลิชบูลด็อก เฟรนช์บูลด็อก ชิสุ และสุนัขหน้าแบนพันธุ์อื่น ๆ โดยดร. เบ็นได้อธิบายว่า “พวกมันมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ปัญหาผิวหนัง ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา แล้วข้อเท็จจริงกว่าครึ่งหนึ่งของพวกมันต้องได้รับการผ่าตัดคลอดลูกก็มากพอแล้วสำหรับประเด็นด้านจริยธรรมสำหรับผม แล้วผมก็ไม่เคยอยากเลี้ยง” และแน่นอนว่าปัญหาที่ชัดเจนคือพวกมันมีปัญหาในการหายใจ ซึ่งทำให้เจ้าของและตัวสุนัขเองมีปัญหามากยิ่งขึ้น

คุณเป็นเจ้าของน้องหมาสายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่ ? แล้วคุณเคยเจอปัญหาดังกล่าวกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณบ้างมั้ยนะ ?