ชีวิตสดใส
ชีวิตสดใส

10 นิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่คนรุ่นก่อน ที่เด็กยุคนี้ไม่ค่อยเข้าใจนัก ใครติดนิสัย 10 อย่างนี้แปลว่าคุณไม่เด็กแล้วนะ

บางพิธีการหรือนิสัยบางอย่างที่เคยทำกันมาในอดีต ซึ่งเราได้รับมาจากพ่อแม่ของเรา ยังคงตกทอดอยู่จนถึงคนรุ่นต่อไปเลยนะ

ชีวิตสดใสมาวิเคราะห์พฤติกรรมที่อาจยังคงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ที่จริง ๆ เราควรจะบอกลามันไปได้แล้ว

การเชิญญาติห่าง ๆ มางานแต่งงานของเรา

การแต่งงานนั้นเชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมในหลายรูปแบบ ในสมัยก่อนนั้น เคยเป็นธรรมเนียมที่จะต้องเชิญญาติห่าง ๆ ทุกคน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานของพ่อแม่ ตามหลักที่ต้องการประกาศให้โลกรู้ว่า “งานแต่งงานของเราก็ดีพอ ๆ กับงานของคนอื่น” แต่ในปัจจุบันคู่แต่งงานใหม่มีแนวโน้มที่จะจัดงานเฉลิมฉลองตามแบบที่ใจตนต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทำให้เป็นงานฉลองที่ล้อมรอบไปด้วยคนที่คุ้นเคยกัน มีการติดต่อกันบ่อย ๆ เท่านั้น

การเก็บของบางอย่างไว้ใช้ใน “โอกาสพิเศษ”

สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่มีอายุขึ้นมาหน่อยที่เติบโตมาในช่วงสงครามและหลังสงคราม จะมีทัศนคติพิเศษเกี่ยวกับข้าวของต่าง ๆ พวกเขาจะรู้สึกทำใจได้ลำบากมากหากต้องโยนข้าวของบางอย่างทิ้งไป และต้องเก็บของบางอย่างไว้ใช้เฉพาะในวโรกาสพิเศษเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมที่ได้มาในวันเกิด ที่สามารถเก็บไว้แบบนั้นได้โดยไม่เคยเปิดใช้มาตลอด 20 ปี หรือจะเป็นเครื่องจานชามสวย ๆ ที่เก็บไว้ในกล่องจนฝุ่นจับ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ข้าวของพวกนี้ก็จะตกยุคและอยู่อย่างกินพื้นที่ในบ้านไปเปล่า ๆ เท่านั้น นักจิตวิทยาแนะนำว่าอย่าเอาแต่ใช้ชีวิตโดยรอที่จะมีความสุขในอนาคตเพียงอย่างเดียว จงใช้ชีวิตให้มีความสุขเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้เถอะ

การสวมถุงเท้ารองส้น

เหล่าคนรุ่นคุณยายของเรามักสวมถุงเท้ารองส้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่าเท้าด้านและยังเป็นการปกป้องรองเท้าไม่ให้ชื้นเหงื่อ แต่ทุกวันนี้มีครีมมากมายที่สามารถช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้หนังเท้าหนาได้ และยังมีที่ดับกลิ่นรองเท้าที่ช่วยปกป้องรองเท้าจากการซับเหงื่อ แถมยังมีรองเท้าหลายแบบให้เลือกมากมายในร้านขายรองเท้า ที่ลูกค้าจะเลือกซื้อรองเท้าสบาย ๆ สวมใส่ได้ตามต้องการเลย

การสวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำอยู่บ้าน

ในอดีตนั้น เสื้อคลุมอาบน้ำถูกมองว่าเป็นของหรูหรา และยิ่งไปกว่านั้น สมัยนั้นยังไม่มีชุดอยู่บ้านพิเศษ ๆ อะไรผลิตออกมา โดยส่วนมากผู้คนก็จะสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่ไม่เหมาะจะออกไปข้างนอก แต่ในปัจจุบัน มันง่ายมากเลยที่จะหาซื้อชุดอยู่บ้านที่เข้าชุดกันในราคาเอื้อมถึงไม่ว่าจะจากร้านค้าต่าง ๆ หรือในห้างสรรพสินค้า

การต้องมีเครื่องถ้วยชามชุดพิเศษไว้สำหรับงานเฉลิมฉลองหรือรับแขก

ทุกบ้านที่พอจะมีฐานะขึ้นมาหน่อยน่าจะต้องมีถ้วยชามชุดพิเศษไว้สำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งเครื่องจานชามเหล่านี้นอกจากจะกินที่เยอะแล้ว ยังแทบไม่ได้ใช้เลยด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันผู้คนมักจะใช้ถ้วยชามบิ่น ๆ ในชีวิตประจำวันแทน ถ้วยชามเหล่านี้กับพวกเครื่องแก้วคริสตัลทั้งหลาย ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งมีและความหรูหรา โดยมักถูกใช้เป็นของขวัญในวันครบรอบหรือวันแต่งงานของคู่บ่าวสาว แต่คู่แต่งงานสมัยใหม่คงอยากจะได้เป็นเงินมากกว่า เพราะพวกเขาจะได้นำไปเลือกเครื่องแก้วจานชามตามรสนิยมของตนเองได้

การเก็บชุดชั้นในดี ๆ ไว้ไปหาหมอ

สมัยก่อนผู้หญิงทุกคนที่มีความเคารพนับถือในตัวเองจะต้องมีชุดชั้นในชุดพิเศษที่เอาไว้สวมใส่เวลาไปหาหมอโดยเฉพาะ บ่อยครั้งที่จะต้องใส่คู่กับกระโปรงซับในซึ่งจะทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูงดงามขึ้น ซึ่งในทุกวันนี้เป็นเรื่องง่ายขึ้นมากในการที่จะหาซื้อชุดชั้นในสวย ๆ และใส่สบายที่เหมาะกับรูปร่างของทุกคน

การให้คำแนะนำทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ขอ

ในสมัยของแม่เราและคุณยายเรานั้น เรียกว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเลยก็ว่าได้ที่จะต้องคอยให้แนะนำคนอื่นอยู่เสมอ โดยคุณหมอเซธ เมเยอส์ (Doctor Seth Meyers) ได้ให้ข้อสรุปไว้ว่าคนที่เอะอะก็ชอบให้คำแนะนำคนอื่น จริง ๆ แล้วไม่ได้สนใจคุณหรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องของความต้องการที่จะควบคุมคุณมากกว่า ทุกวันนี้ยังสามารถมองเห็นธรรมเนียมปฏิบัติแบบนี้ได้ตามกระทู้หรือบล็อกต่าง ๆ ผู้หวังดีมักจะทิ้งคำแนะนำในสถานการณ์ต่าง ๆ ไว้เสมอ ทั้ง ๆ ที่คนอื่นไม่ได้ถาม

การมีกล่องหรือโหลใส่กระดุมเก่า ๆ

กล่องหรือขวดโหลใส่กระดุมเก่า ๆ เป็นสิ่งที่สามารถเจอได้ในแทบทุกบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะว่ากว่าจะหาซื้อกระดุมดี ๆ ได้นั้นมันยากมาก ผู้คนสมัยก่อนจึงชอบเก็บสะสมมันไว้ ซึ่งเด็ก ๆ มักจะชอบเล่นกับขวดโหลพวกนี้มาก อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้คนแทบไม่ใช้กระดุมสำรองเพื่อวัตถุประสงค์เดิมของมันอีกต่อไป เพราะแฟชั่นเป็นสิ่งที่ผ่านมาและผ่านไปเร็วมาก และคนก็ซื้อเสื้อผ้าใหม่กันเพียงเพราะอยากจะซื้อ ไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าตัวก่อนฉีกขาดเสียหายแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้ว่ากระดุมต่าง ๆ จะกลับมามีประโยชน์อีกครั้ง เพราะนักนิเวศวิทยาได้คาดคะเนไว้ว่าการเคลื่อนไหว “ทางแฟชั่นจะช้าลง” และเสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูงจะถูกนำมาใช้เป็นเวลายาวนานมากขึ้น

การกังวลแต่ว่าคนอื่นจะคิดยังไง

การที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความคิดเห็นของคนอื่นเสมอนั้นยังคงมีอยู่ในคนรุ่นยายเรา เพราะการกระทำที่ “ไม่เหมาะสม” อาจส่งผลให้ถูกไล่ออกหรือเสียโบนัสไปได้ นิสัยที่พฤติกรรมของตนเองจะต้องเกี่ยวข้องกับมุมมองความคิดเห็นของคนอื่นตลอดเวลานั้น ฝังรากลึกลงไปในหัวของคนรุ่นนี้แล้ว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ต้องคอยคำนึงถึงความคิดเห็นของเพื่อนฝูง แต่ยังรวมถึงความคิดเห็นของเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่หญิงแก่ ๆ ที่ไม่เคยคุ้นเคยกันที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ทางเข้าอาคารก็ยังต้องคำนึงถึง โดยนักจิตวิทยาสมัยใหม่ได้สรุปไว้ว่า เหตุผลไม่ได้อยู่แค่คำว่าคนเราควรมี “สำนึกถึงส่วนรวม” เท่านั้นหรอกนะ เพราะถ้ามากเกินไปนั่นเท่ากับเป็นการไม่รักตัวเอง ซึ่งนิสัยแบบนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข

การไม่ชมเชยเด็ก ๆ

ปู่ย่าตายายของเราไม่ชมเด็ก ๆ บ่อยนักหรอกนะ เพราะดูเหมือนว่าสำหรับพวกเขาแล้ว การไม่ทำเช่นนั้นจะเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กถูกสปอยล์มากจนเกินไป ซึ่งในปัจจุบันนักจิตวิทยาได้พิสูจน์แล้วว่าการแสดงความรักแก่ลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ

พฤติกรรมอะไรที่มีมาตั้งแต่อดีต แต่คุณยังคงทำอยู่บ้างเป็นครั้งคราว ?

ชีวิตสดใส/สิ่งแปลกๆ/10 นิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่คนรุ่นก่อน ที่เด็กยุคนี้ไม่ค่อยเข้าใจนัก ใครติดนิสัย 10 อย่างนี้แปลว่าคุณไม่เด็กแล้วนะ
แชร์บทความนี้